เป็นตลกชื่อดัง หันมาเล่นหนังก็รับค่าตัวเทียบชั้นพระเอก โดดไปเป็นผู้กำกับก็โกยเงินเกือบร้อยล้าน วันนี้ตลกอย่าง “หม่ำ จ๊กม๊ก” ก็เลยมีเงินเหลือส่งลูกสาวไปเรียนต่อที่แคนาดาโน่น
“ลูกผมอยากไปเรียนที่เมืองนอกนานแล้ว เค้าเคยบอกผมตั้งแต่เรียนม.3 พอม.4 – ม.5 ถามว่าอยากไปอีกไหม เค้าก็บอกว่าอยาก พอเรียนจบม.6 เค้าก็เลยขอไปเรียนภาษาที่แคนาดาต่อ ตอนนี้ก็เรียนภาษาจบครอสแล้วกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยที่นั่น”
สาเหตุที่เป็นแคนาดานั้นหม่ำบอกว่า….
“เค้าบอกว่าอยากไปเรียนที่ไม่ค่อยมีคนไทย จะไปออสเตรเลียคนไทยก็เยอะ เลยไปแคนนาดาดีกว่า ใจผมก็ไม่อยากให้ไปเลยนะ แต่เค้าบอกว่า ขอเค้าเป็นตัวของตัวเองบ้าง ฟังแล้วก็ดีใจที่เค้าคิดได้แบบนี้ เราก็เลยต้องตามใจ”
เรื่องเรียนหม่ำบอกว่าไม่ห่วงจะห่วงก็แต่เรื่องความรักมากกว่า….
“ผมถ่ายต้มยำกุ้งอยู่ที่ซิดนีย์เห็นเด็กวัยรุ่นที่นี่กอดจูบกันแล้วก็คิดถึงลูกตัวเอง ไม่รู้ลูกเราจะเป็นแบบนี้ไหมน้อ…การมีแฟนผมว่าเป็นเรื่องธรรมชาตินะ ถ้า 16 – 17 ไม่มีแฟนสิแปลก ความรักมีแบบแต่ยังไม่ถึงวัยมีครอบครัว 22 – 23 กำลังดี 25 แต่งก็แจ๋วผมก็จะอธิบายให้เค้าตลอดว่า ต้องดูอย่างพ่อแม่ ผมแต่งตอนอายุ 16 เมียอายุ 15 แต่รักกันมาจนป่านนี้ แต่อย่าทำแบบพ่อนะ(หัวเราะ) ให้เค้าดูตัวอย่างเฉพาะความรักที่มั่นคง แต่อย่ามีครอบครัวเร็ว”
แม้ว่าคนอื่นจะมองว่าอาชีพตลกมักจะเจ้าชู้ แต่สำหรับหม่ำนั้นเจ้าตัวบอกว่า เคยนอกกายแต่ไม่เคยนอกใจ
“นิสัยผู้ชายมันก็ต้องมีบ้าง ถามว่านอกกายมีไหม มันก็ต้องมีบ้าง แต่ผมไม่เคยนอกใจ ถ้าเราไปทำแบบนั้นขี้เกียจไปตอบคำถามเค้า ไปต่างจังหวัดก็มีสาวๆ มาเคาะห้อง แต่ผมไม่เอา เราโตแล้วขี้เกียจไปมีรูปลงหนังสือพิมพ์ กลัวทำไปแล้วทะเลาะกับเมีย เลยไม่เอาดีกว่า”
ค่อนข้างเกรงใจเมียว่างั้นเถอะ…..
“ไม่กลัว…เมียนี่เตะเมื่อไหร่ก็ได้ ก่อนมาซิดนีย์เค้าคลานเข้ามาหาเลยนะ แต่ผมอยู่ใต้เตียง(หัวเราะ) เราค่อนข้างสนิทกันครับก็หยอกล้อกันตามประสาผัวเมีย มีวันหนึ่งเค้าเป็นหวัดแล้วเข้ามาหอมมาจูบผม น้ำมูกงี้ไหลเป็นเต้าส่วนเต็มจมูกเต็มปากผมไปหมดเลย ผมก็ด่าสิว่าจูบผมทำไม เค้าก็หัวเราะชอบใจ ไอ้เรานะอยากจะถีบให้แต่ก็ทำไม่ได้”(หัวเราะ)
“ก็แบบนี้แหละครับชีวิตผัวเมีย แต่เวลามีอะไรผมก็ให้เค้าหมดแหละ ให้จนบางคนบอกว่าตามใจเมียเกินไปหรือเปล่า จริงๆ ผมก็ไม่ได้ตามใจเค้ามากนะ เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนเราอาจจะขาดสิ่งของเหล่านั้น มาวันหนึ่งที่ผมพอจะมีเงิน ผมก็อยากจะให้เค้า แล้วตัวผมเองวันๆ ก็ไม่ค่อยใช้เงินอยู่แล้ว ข้าวก็กินฟรีในกองถ่าย วันๆ หนึ่งผมเติมแต่น้ำมันเท่านั้นเอง”
“เรื่องครอบครอบผมถือว่าเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ ใครไม่สนใจครอบครัว ผมขอประนามขอสาปแช่ง เอาเค้ามาก็ต้องสนใจดูแลเค้า ผมจะรู้สึกแย่มากๆ ถ้าเห็นคนทิ้งขว้างครอบครัว เอาเค้ามาแล้วเราต้องรับผิดชอบ”
น่ารับตำแหน่งผู้นำครอบครัวดีเด่นซะจริง ๆ