xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณติดคุก : เหตุทำให้เพื่อไทยตกหล่มการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง


ทักษิณ ชินวัตร
“น้ำที่ทำให้เรือลอยกับน้ำที่ทำให้เรือจมคือน้ำเดียวกัน” จากหนังสือ Xi Jinping the Governance of China
ถ้อยคำข้างต้นเป็นการพูดเปรียบเทียบการเกื้อหนุนกันระหว่างประชาชนกับพรรคการเมือง โดยเปรียบประชาชนเป็นน้ำ และพรรคการเมืองเป็นเรือ ซึ่งมีความหมายในเชิงปรัชญาว่า พรรคจะเกิดขึ้นและดำรงอยู่ได้ก็ด้วยได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ถ้าวันใดประชาชนเสื่อมศรัทธา และเลิกให้การสนับสนุนพรรคการเมืองก็ล่มสลาย ในทำนองเดียวกันกับเรือจะลอยอยู่ได้ต้องมีน้ำลึกพอให้เรือลอยขึ้นได้ แต่ถ้าเรือรั่วน้ำเข้า ก็ทำให้เรือจมได้

พรรคการเมืองที่เป็นตัวอย่างให้เห็นในอนาคตอันใกล้นี้ก็คือ พรรคเพื่อไทยซึ่งมีรากเหง้ามาจากพรรคไทยรักไทย อันเป็นพรรคที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนอย่างล้นหลามในการเปิดตัวลงสมัครเลือกตั้งครั้งแรกในปี พ.ศ. 2544 ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นเหนือพรรคการเมืองเก่าแก่คือ พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ด้วยเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยคือ ทักษิณ ชินวัตร เป็นนักธุรกิจประสบความสำเร็จในด้านการบริหารจัดการสร้างตนเองจนมั่งคั่งร่ำรวย เป็นที่ยอมรับนับถือของประชาชนและที่สำคัญประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะประชาชนระดับรากหญ้า เชื่อคำพูดที่ว่ารวยแล้วไม่โกง จึงพากันเทคะแนนให้ด้วยหวังว่า ถ้าพรรคนี้ได้เป็นรัฐบาลแล้วจะช่วยให้พวกเขาพ้นจากความยากจน จึงได้เลือกพรรคนี้กันเป็นส่วนใหญ่

2. พรรคไทยรักไทยได้นำนโยบายประชานิยมในรูปแบบลด แลก แจก แถม อันเป็นกลยุทธ์ในด้านการตลาดเข้ามาเป็นเครื่องมือในการปราศรัยหาเสียง ซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับการเมืองไทย จึงเป็นจุดขายทางการเมืองที่พรรคอื่นโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มี และนี่คือจุดที่ทำให้ชนะพรรคประชาธิปัตย์แบบขาดลอย

3. พรรคคู่แข่งโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์นอกจากไม่มีนโยบายเน้นจุดขายแล้ว ยังทำงานการเมืองในเชิงตั้งรับ และถนัดในการเป็นฝ่ายค้านมากกว่าการเป็นรัฐบาล จะเห็นได้จากการเป็นรัฐบาลจะทำงานในกรอบแห่งกฎหมาย (ซึ่งบางฉบับก็ล้าสมัย) จึงไม่มีอะไรใหม่ และนี่คือจุดพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์

จากการที่พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น และได้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพนี้เอง จึงทำให้นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เหลิงและหลงในอำนาจจึงบังอาจแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ ทั้งในรูปแบบตามน้ำและทวนน้ำ เข้าข่ายทุจริต คอร์รัปชันอย่างโจ่งแจ้งชัดเจน จึงทำให้ประชาชนคนชั้นกลางลุกขึ้นชุมนุมต่อต้านและขับไล่รัฐบาลแล้วจบลงด้วยรัฐบาลถูกกองทัพทำรัฐประหาร และดำเนินคดีกับผู้นำรัฐบาลในข้อหาทุจริต คอร์รัปชันหลายคดี และสุดท้ายศาลได้ลงโทษจำคุก 8 ปีแต่จำเลยหนีออกนอกประเทศ

แต่พรรคเพื่อไทยซึ่งสืบทอดมรดกการเมืองมาจากพรรคไทยรักไทยมีความแตกต่างจากพรรคไทยรักไทย ทั้งในส่วนของพรรคและปัจจัยแวดล้อมทางการเมือง อนุมานได้ดังต่อไปนี้

1. ในยุคของพรรคไทยรักไทย ทักษิณ ชินวัตร ผู้ก่อตั้งเป็นที่ยอมรับของประชาชนในด้านความรู้ ความสามารถ และความเป็นผู้มั่งคั่งร่ำรวย และที่สำคัญคนส่วนใหญ่เชื่อในวาทกรรมที่ว่า รวยแล้วไม่โกง

2. แต่พรรคเพื่อไทยซึ่งสืบทอดมรดกการเมืองเนื่องมาจากพรรคไทยรักไทย ประชาชนส่วนหนึ่งและอาจเป็นส่วนใหญ่ด้วยเสื่อมศรัทธา ทั้งพฤติกรรมองค์กรของพรรค และพฤติกรรมอันเป็นปัจเจกของผู้นำพรรคเนื่องจากได้เห็นธาตุแท้ของการเป็นนักการเมืองที่เห็นประโยชน์ส่วนตนก่อนส่วนรวม

3. นอกจากปัจจัยตามข้อ 2 แล้ว ในพรรคเพื่อไทยยังมีคู่แข่งทางการเมืองเช่น พรรคประชาชนซึ่งได้รับความนิยมสูงไม่แพ้พรรคไทยรักไทยในระยะแรก

ด้วยเหตุปัจจัย 3 ประการนี้ พรรคเพื่อไทยในวันนี้ไม่ต่างไปจากเรือรั่วแล่นผ่านกระแสลมแรง


กำลังโหลดความคิดเห็น