รศ. ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
ผศ. ดร. ดารารัตน์ อานันทนสุวงศ์
รศ.ดร. เดือนเพ็ญ ธีรวรรณวิวัฒน์
รศ.ดร. พาชิตชนัต ศิริพานิช
ผศ. ดร. ปรีชา วิจิตรธรรมรส
ผศ. ดร. รติพร ถึงฝั่ง
รศ. ดร.อุดมศักดิ์ ศีลประชาวงศ์
ไพลิน เชื้อหยก
ดนุพล ทองคำ
วศิน แก้วชาญค้า
ศูนย์วิจัยสังคมสูงอายุ
ศูนย์คลังปัญญาและสารสนเทศ
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอแนวความคิดในการการขยายเวลาการเกษียณอายุไปเป็น 65 ปี
โดยในวันที่ 3 ต.ค. 2568 ที่ศูนย์สิริกิติ์ฯ นายอนุทิน ฯ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดการเกษียณอายุราชการอายุ 65 ปี เพราะคนอายุยืนขึ้น ในระหว่างการปาฐกถาพิเศษเวทีสัมมนา Sustainability Expo 2025 A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry หัวข้อ “ยกระดับอุตสาหกรรม-การค้า-การลงทุนสู่ความยั่งยืน
“เพราะสังคมเปลี่ยนไป สุขภาพเปลี่ยนไป คุณภาพชีวิตดีขึ้น เราต้องปรับตัวเพื่อไม่ให้เกิดการว่างงานของคนมากขึ้น ย้ำว่าตรงนี้ยังเป็นเพียงแนวคิด ไม่ใช่บอกว่าจะต้องเกิดขึ้นภายในวันนี้ จะต้องมีการหารือกันอีกมาก
ส่วนวิธีการจะออกมาในรูปแบบใดจะต้องมีการหารือกัน ทั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในวงการศาล อัยการ เกษียณอายุราชการ 65-70 ปี และทำได้เท่าที่จะทำได้ ส่วนเรื่องงบประมาณถ้าเกษียณที่อายุ 60 ปี ก็ยังได้บำเหน็จบำนาญ รัฐยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มมากขึ้น จึงพยายามที่จะจัดสรรปรับปรุงงบประมาณให้สอดคล้องกันด้วย...” (จาก https://www.khaosod.co.th/politics/news_9962657)
และในวันที่ 8 ตุลาคม นายอนุทินได้ปาฐกถาพิเศษ “Reset โครงสร้างประเทศ Recover เศรษฐกิจไทย” ในงานสัมมนาใหญ่เศรษฐกิจไทย ประจำปี 2568 ในหัวข้อ “The Future Direction of Thailand : เมื่อโลกเปลี่ยน...ประเทศไทยไปทางไหน?จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เกี่ยวกับการขยายอายุเกษียณอีกครั้งอย่างน่าสนใจเอาไว้ว่า
“เราต้องมีระบบที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุมีงานทำและมีรายได้ วันก่อนผมพูดถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการปรับอายุการเกษียณราชการไว้ อ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ก็จะไปหารือ หาแนวทางในการที่จะปรับเรื่องการเกษียณอายุราชการ เชื่อว่าในภาคเอกชนคงมีการรองรับทางด้านนี้อยู่แล้ว” (จาก https://www.thairath.co.th/scoop/interview/2887915)
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยผู้สูงอายุและศูนย์คลังปัญญาและสารสนเทศ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้สำรวจและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้สูงอายุไทยในชื่อ โครงการ The Health, Aging, and Retirement in Thailand (HART) ในลักษณะของการเก็บข้อมูลซ้ำจากผู้สูงอายุไทยคนเดิม เป็นข้อมูลระยะยาวและข้อมูลพาเนล (Longitudinal and panel data) ที่วัดตัวแปรด้านสังคม ครอบครัว เศรษฐกิจ การมีงานทำ รายได้ สุขภาพ ความสามารถทางปัญญา ฯลฯ เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลง โดยการสุ่มตัวอย่างเพื่อให้ได้ข้อมูลตัวอย่างที่เป็นตัวแทน (Representative sample) ของประเทศไทย โดยเก็บข้อมูลซ้ำทุกสองปีจำนวนห้าครั้ง (Wave) จากค.ศ. 2015 เป็นครั้งแรก และล่าสุดครั้งที่ห้าในค.ศ. 2024 เพื่อใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบาย พัฒนาและเปลี่ยนแปลงสังคม ตลอดจนการประเมินผลนโยบายและโครงการที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุไทยที่จะช่วยให้ตอบคำถามสังคมไทยเกี่ยวกับผู้สูงอายุได้ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับบทความชุดนี้ จะสลับกันเขียนโดยนักวิจัยของ HART โดยใช้ข้อมูลจากทั้งของโครงการ HART และข้อมูลเกี่ยวกับผู้สูงอายุในประเทศไทยอื่นๆ ในลักษณะของบทความนำเสนอนโยบายว่าประเทศไทยมีความจำเป็นในการขยายอายุเกษียณออกไปหรือไม่ ด้วยเหตุผลใด ข้อดี ข้อเสีย ของการขยายอายุเกษียณในประเทศไทยเป็นอย่างไร เพื่อให้รัฐบาลตลอดจนภาคราชการและเอกชนมีข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นที่จะตอบโจทย์อันเป็นโจทย์สำคัญยิ่งต่อสังคมไทยในปัจจุบันนี้ในประเด็นดังกล่าว
บทความที่หนึ่ง ผลการฉายภาพประชากรของไทย จะนำเสนอผลการฉายภาพประชากร (Demographic projection) ที่ดำเนินการโดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล แสดงปิรามิดประชากร โครงสร้างประชากรแยกตามเพศและอายุ อันแสดงให้เห็นว่าสังคมไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุขั้นสูงสุด (Superaged society) ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ส่งผลให้อุปสงค์หรือกำลังซื้อภายในประเทศลดลง อีกทั้งอุปทานแรงงานในประเทศก็จะลดลงมากอีกเช่นกัน ทำให้ประเทศไทยขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ทางเลือกมีได้สามทางหลัก คือ หนึ่ง อนุญาตให้แรงงานต่างด้าวที่มีคุณภาพสูงและเสียภาษีได้สัญชาติไทยเพื่อเพิ่มประชากรและอัตราการเจริญพันธุ์ สอง พัฒนาปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์เครื่องจักรเพื่อทดแทนแรงงานมนุษย์ให้ได้มากที่สุด และ สาม ขยายอายุเกษียณของคนไทยออกไป เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ รศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บทความที่สอง ความจำเป็นในการขยายอายุเกษียณ (Pensionable age) และอัตราการจ่ายสมทบรวม (Total contribution rate) ของกองทุนประกันสังคมเพื่อมิให้กองทุนประกันสังคมล้มละลายเนื่องจากการจ่ายบำนาญในสังคมสูงอายุขั้นสูงสุดของไทย บทความนี้จะได้นำเสนอผลการประเมินทางคณิตศาสตร์ประกันภัย (Actuarial valuation) ของกองทุนประกันสังคม ที่ดำเนินการโดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International labor organization: ILO) ที่ชี้ให้เห็นว่าเงินกองทุนของกองทุนประกันสังคมจะหมดสิ้นลงอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องมีการเพิ่มอัตราการจ่ายสมทบรวมและขยายอายุเกษียณออกไป บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ รศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บทความที่สาม ชราอย่างมีผลิตภาพ (Productive aging) นำเสนอผลการวิจัยจากโครงการ HART ที่พบว่าผู้สูงอายุของไทย มีแนวโน้มที่มีอายุชราเป้าหมาย (Prospective aging) ยาวนานขึ้น เพราะคนไทยมีอายุขัยเฉลี่ย (Life expectancy) อันยาวนานมากขึ้น ยังสามารถทำงานได้หลังเวลาเกษียณอายุออกไปในปัจจุบัน แม้จะมีช่องว่างระหว่างเพศของชราภาพอย่างมีผลิตภาพ (Gender gap in productive aging) เพราะสำหรับประเทศไทยแล้วนั้นผู้หญิงมีอายุยืนยาวกว่าผู้ชายมาก มีช่องว่างสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลก บทความนี้จะได้นำเสนอแนวคิดว่าการขยายอายุเกษียณควรคำนึงถึงช่องว่างระหว่างเพศดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร ด้วยเหตุผลใด บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ ผศ. ดร. ดารารัตน์ อานันทนสุวงศ์ จากคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บทความที่สี่ อายุขัยเฉลี่ยในการทำงานของไทย (Working life expectancy) นำเสนอผลการวิจัยและข้อมูลจากโครงการ HART เพื่อนำเสนอค่าสถิติพื้นฐาน ข้อเท็จจริง และแนวโน้มของอายุขัยเฉลี่ยในการทำงานของไทย ว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และสมควรจะขยายอายุเกษียณหรือไม่ อย่างไร บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ ผศ. ดร. ดารารัตน์ อานันทนสุวงศ์ จากคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บทความที่ห้า การทำกิจกรรมในชีวิตประจำ (Activity in daily life: ADL) และการสูญเสียปีสุขภาวะ (Disability-Adjusted Life Year: DALY) ของผู้สูงอายุไทย โดยนำเสนอผลการวิจัยและข้อมูลจากโครงการ HART ว่าผู้สูงอายุไทยมีความสามารถในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่สามารถช่วยเหลือดูแลตัวเองได้เป็นอย่างไร และมีแนวโน้มเป็นอย่างไร ทั้งยังวิเคราะห์ปีสุขภาวะอันเป็นจำนวนปีที่สูญเสียไปเพราะความเจ็บป่วย พิการ หรือเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เช่น จำนวนปีที่ผู้สูงอายุป่วยติดเตียงในประเทศไทย ซึ่งอาจจะนำเสนอข้อมูลเหล่านี้จากฐานข้อมูลอื่นประกอบกัน และวิเคราะห์ว่าผู้สูงอายุไทยเหมาะสมหรือไม่ที่จะขยายอายุเกษียณออกไป กล่าวคือการขยายอายุเกษียณออกไปยังต้องสามารถทำงานได้ ช่วยเหลือตนเองได้ บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ รศ.ดร. เดือนเพ็ญ ธีรวรรณวิวัฒน์ รศ.ดร. พาชิตชนัต ศิริพานิช (จากคณะสถิติประยุกต์) และ ผศ. ดร. รติพร ถึงฝั่ง (จากคณะพัฒนาสังคม)
บทความที่หก สถานภาพสุขภาพทางกายของผู้สูงอายุไทย (Physical health status) นำเสนอผลการวิจัยจากโครงการ HART นำเสนอผลการวิจัยและข้อมูลจากโครงการ HART และข้อมูลจากการสำรวจภาวะสุขภาพโดยการตรวจร่างกายของสถาบันวิจัยระบบสุขภาพไทย เพื่อวิเคราะห์สถานภาพสุขภาพทางกายของผู้สุงอายุไทยว่ามีความพร้อมสำหรับการชราภาพอย่างสำเร็จ (Successful aging) มากน้อยแค่ไหน มีสถานภาพสุขภาพทางกายดีเพียงพอสำหรับการขยายอายุเกษียณออกไปหรือไม่ บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ รศ.ดร. เดือนเพ็ญ ธีรวรรณวิวัฒน์ รศ.ดร. พาชิตชนัต ศิริพานิช (จากคณะสถิติประยุกต์) และ ผศ. ดร. รติพร ถึงฝั่ง (จากคณะพัฒนาสังคม) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บทความที่เจ็ด การเข้าถึงและการใช้การบริบาลสุขภาพของผู้สูงอายุไทย (Healthcare access and utilization) นำเสนอผลการวิจัยจากโครงการ HART เปรียบเทียบกับข้อมูลสถิติสาธารณสุขอื่นๆ ของประเทศไทย เพื่อศึกษาปัจจัยการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้ม ว่าผู้สูงอายุไทยมีการใช้และการเข้าถึงการบริบาลสุขภาพมากน้อยเพียงใด มีแนวโน้มเป็นเช่นไร และวิเคราะห์ว่ามีความพร้อมหรือความจำเป็นในการขยายอายุเกษียณของไทยออกไปหรือไม่อย่างไร บทความนี้มีผู้เขียนนำคือผศ. ดร. ปรีชา วิจิตรธรรมรส จากคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บทความที่แปด การประกันสุขภาพ (Health insurance) ของผู้สูงอายุไทย นำเสนอข้อมูลและผลการวิจัยจากโครงการ HART และเปรียบเทียบกับข้อมูลสถิติสาธารณสุขอื่นๆ ของประเทศไทย เพื่อศึกษาปัจจัยการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้ม ว่าผู้สูงอายุไทยมีความครอบคลุมและความเพียงพอในการเข้าถึงการประกันสุขภาพหรือไม่ อย่างไร และวิเคราะห์ว่าการประกันสุขภาพของผู้สูงอายุไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจะเป็นปัจจัยความพร้อมหรือความจำเป็นในการขยายการเกษียณอายุของไทยออกไปหรือไม่อย่างไร บทความนี้มีผู้เขียนนำคือผศ. ดร. ปรีชา วิจิตรธรรมรส จากคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บทความที่เก้า ผู้สูงอายุของไทยมีความสามารถทางปัญญาเสื่อมถอยลงหรือไม่ แค่ไหน อย่างไร (Cognitive decline among Thai elderly) จะนำเสนอข้อมูลจากโครงการ HART เกี่ยวกับความสามารถทางปัญญาอันได้แก่ ความสามารถในการจดจำ ความสามารถในการคำนวณตัวเลข ของผู้สูงอายุไทย ทั้งข้อมูลภาคตัดขวาง (Cross-sectional data) ที่เก็บข้อมูลในเวลาเดียวกันแต่เปรียบเทียบกับผู้ที่มีรุ่นอายุ (Age-cohort) แตกต่างกัน และนำเสนอผลจากข้อมูลระยะยาว (Longitudinal data) ที่เก็บข้อมูลผลการทดสอบความสามารถทางปัญญาของผู้สูงอายุไทยซ้ำคนเดิม 4 ครั้งในระยะเวลาประมาณ 8 ปี ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร มีปัจจัยใดที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง และวิเคราะห์ว่าความเสื่อมถอยของความสามารถทางปัญญาของผู้สูงอายุไทยนั้นจะเป็นอุปสรรคหรือส่งเสริมการขยายอายุเกษียณของไทยหรือไม่ บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ รศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บทความที่ 10 ความคาดหวังและความสุขในชีวิตของผู้สูงอายุไทย นำเสนอผลการวิจัยจากโครงการ HART อันเป็นการสะท้อนสุขภาวะทางจิตใจ (Mental health) ของผู้สูงอายุไทย ว่ามีแนวโน้มและปัจจัยการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไร และวิเคราะห์ว่าจะเป็นอุปสรรคหรือส่งเสริมการขยายอายุเกษียณของไทยหรือไม่ บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ ผศ. ดร. รติพร ถึงฝั่ง (จากคณะพัฒนาสังคม) และ รศ.ดร. เดือนเพ็ญ ธีรวรรณวิวัฒน์ รศ.ดร. พาชิตชนัต ศิริพานิช (จากคณะสถิติประยุกต์)
บทความที่ 11 ขนาดและโครงสร้างของครอบครัวผู้สูงอายุไทย นำเสนอผลการวิจัยจากโครงการ HART ว่าสังคมไทยมีขนาดและโครงสร้างครอบครัวเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เป็นครอบครัวเดี่ยวหรือครอบครัวขยาย มีการแต่งงานและการมีลูกมากน้อยเพียงใด ผู้สูงอายุไทยอาศัยอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวหรือไม่ หลังจากนั้นจึงวิเคราะห์ว่าแนวโน้มของขนาดและโครงสร้างของครอบครัวผู้สูงอายุไทยเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความจำเป็น ส่งเสริม หรือเป็นอุปสรรคต่อการขยายอายุเกษียณหรือไม่อย่างไร บทความนี้มีผู้เขียนนำคือรศ.ดร. เดือนเพ็ญ ธีรวรรณวิวัฒน์ รศ.ดร. พาชิตชนัต ศิริพานิช (จากคณะสถิติประยุกต์)
บทความที่ 12 การเกื้อกูลในครอบครัว (Family transfer) ของผู้สูงอายุไทย ทั้งการที่ผู้สูงอายุเกื้อกูลลูกหลานในครอบครัว และการที่ลูกหลานในครอบครัวเกื้อกูลผู้สูงอายุ ทั้งในด้านจิตใจ สินทรัพย์ และเงิน ว่าเป็นเช่นไร มีมากน้อยเพียงใด มีเพียงพอหรือไม่ และมีปัจจัยใดที่เกี่ยวข้องมาก และมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หลังจากนั้นจะวิเคราะห์ว่าการเกื้อกูลในครอบครัว (Family transfer) ของผู้สูงอายุไทยเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความจำเป็น ส่งเสริม หรือเป็นอุปสรรคต่อการขยายอายุเกษียณหรือไม่อย่างไร บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ รศ.ดร. เดือนเพ็ญ ธีรวรรณวิวัฒน์ รศ.ดร. พาชิตชนัต ศิริพานิช (จากคณะสถิติประยุกต์)
บทความที่ 13 การมีบ้านของผู้สูงอายุ (Home ownership) จะนำเสนอผลการวิจัยจากโครงการ HART ว่าผู้สูงอายุไทย มีบ้านเป็นของตนเอง เช่าบ้านอยู่ หรืออาศัยอยู่กับลูกหลาน ในสัดส่วนเท่าใด มีความแตกต่างระหว่างกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดหรือไม่ ทั้งนี้มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวเป็นเช่นไร บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ ผศ.ดร.ทองใหญ่ อัยยะวรากูล จาก คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บทความที่ 14 การทำงาน (Employment) ของผู้สูงอายุไทยในปัจจุบัน จำนำเสนอผลการวิจัยจากโครงการ HART ว่าผู้สูงอายุไทยมีงานทำ ในลักษณะของงานที่ก่อให้เกิดรายได้ ประเภทการจ้างงาน หรืองานจิตอาสาที่ไม่มีรายได้ เป็นเช่นไร ปัจจัยใดที่ส่งผลต่อการทำงานหลังเกษียณ เช่น ผู้สูงอายุที่มีการศึกษาสูงมีแนวโน้มจะมีงานทำหลังเกษียณมากกว่าหรือไม่ ตลอดจนแนวโน้มการมีงานทำของผู้สูงอายุไทยหลังการเกษียณ หลังจากนั้นจะวิเคราะห์ว่าจากสถานการณ์การทำงานของผู้สูงอายุไทยในปัจจุบัน มีความจำเป็น มีความเหมาะสม หรือมีความต้องการให้มีการขยายอายุเกษียณของไทยหรือไม่ บทความนี้มีผู้เขียนนำคือรศ. ดร.อุดมศักดิ์ ศีลประชาวงศ์ และ ผศ. ดร. ดารารัตน์ อานันทนสุวงศ์ จากคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
บทความที่ 15 แก่แต่จน: การไม่ออมและความไม่พร้อมในการเกษียณอายุของผู้สูงอายุไทย นำเสนอผลการวิจัยจากโครงการ HART เกี่ยวกับการไม่ออม คือพฤติกรรมการออม การเตรียมพร้อมในการเกษียณ การวางแผนทางการเงินเพื่อการเกษียณของผู้สูงอายุไทย ว่ามีสัดส่วนผู้สูงอายุไทยที่พร้อมและไม่พร้อมสำหรับการเกษียณมากน้อยเพียงใด มีผู้สูงอายุที่จะมีบำนาญหรือเงินได้แบบตั้งรับ (Passive income) มากน้อยเพียงใด ทั้งหมดนี้มีเพียงพอหรือก่อให้เกิดความจำเป็นในการขยายอายุเกษียณของไทยออกไปหรือไม่อย่างไร บทความนี้มีผู้เขียนนำคือ รศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และผศ. ดร. ดารารัตน์ อานันทนสุวงศ์ จากคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ทั้ง 15 บทความนี้ เป็นบทความเชิงวิเคราะห์นโยบาย (White paper) ที่จะนำเสนอคำตอบเกี่ยวกับสังคมผู้สูงอายุของไทย อันเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศว่ามีความจำเป็นในการขยายอายุเกษียณออกไปหรือไม่ อย่างไร ด้วยมุมมองที่หลากหลายและแตกต่าง ซึ่งจะนำเสนอไปสัปดาห์ละหนึ่งบทความไปจนครบทั้ง 15 บทความ



