เผด็จการที่ยุติธรรมและทำเพื่อประเทศ และประชาชนโดยรวม ย่อมดีกว่าประชาธิปไตยที่อ่อนแอและทำเพื่อตนเองกับทั้งพวกพ้อง
ถ้าท่านผู้อ่านติดตามข่าวการปะทะกันด้วยกำลังระหว่างไทยกับเขมร ก็จะทำให้ทราบความจริงบางประการที่คนทั่วไปเช่นเราๆ ท่านๆ ทั้งหลายไม่เคยทราบมาก่อน ดังต่อไปนี้
1. เขมรได้บุกรุกและยึดครองพื้นที่ชายแดนของไทย โดยนำประชาชนมาตั้งบ้านเรือนเป็นชุมชน มีการสร้างวัดและมีแม้กระทั่งบ่อนการพนันมานานนับสิบปี
2. รัฐบาลไทยที่ผ่านมาในระยะ 10 กว่าปี ได้ใช้กำลังผลักดันออกไป ทำได้แค่ประท้วง แต่เขมรก็คือเขมรดื้อแพ่ง ไม่ยอมออกไปแถมยังกล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายบุกรุก และพยายามยื่นฟ้องต่อศาลโลก
3. แต่พระสยามเทวาธิราชมีจริง จึงได้ดลใจให้รัฐซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทย และมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และมีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้กำกับรัฐบาล ได้มีปัญหาขัดแย้งกับสมเด็จฮุนเซน ซึ่งเป็นผู้กำกับรัฐบาลฮุนมาเนต จึงทำให้ทั้งรัฐบาลที่เคยมีความสนิทสนมและเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกลับเป็นศัตรูถึงขั้นเกิดการปะทะกันด้วยอาวุธ
4. จากการที่กองทัพทั้งสองประเทศเผชิญหน้ากัน จะเห็นได้ชัดเจนว่าทางฝ่ายรัฐบาลไทยเอาใจเขมรถึงขั้นนายกรัฐมนตรีของไทยโทร.หาสมเด็จฮุนเซน และบอกว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับเรา และบอกว่า ถ้าต้องการอะไรให้บอกมาจะจัดให้
จากคำพูดข้างต้นหมายความเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากหมายความว่ารัฐบาลไทยภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยมีอดีตนายกฯ ทักษิณ เพื่อนซี้ฮุนเซนเป็นคนละฝ่ายกับกองทัพ จึงสั่งการกองทัพไม่ได้และจากการที่กองทัพไม่ฟังรัฐบาลนี้เอง ทำให้ประเทศไทยไม่ต้องเสียดินแดนในทะเล และแถมยังทวงคืนดินแดนที่เขมรบุกรุกและครองก่อนหน้านี้คืนมาด้วย
จริงอยู่โดยหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งย่อมมีอำนาจในการบริหารประเทศ และสามารถควบคุมและสั่งการข้าราชการประจำได้ในทุกส่วน และข้าราชการประจำจะต้องฟังคำสั่งจากฝ่ายการเมือง
แต่หลักการหรือทฤษฎีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ภายใต้คำนิยามที่ว่า “โดยประชาชน เพื่อประชาชน แต่รัฐบาลชุดนี้ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และมีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนชี้นำครอบงำในทุกด้าน เฉกเช่นเป็นนายกฯ ตัวจริง มิได้เป็นไปตามคำนิยามข้างต้นอย่างครบถ้วน เป็นได้แค่โดยประชาชนแต่เพื่อตนเอง และพวกพ้อง”
ดังนั้น การที่กองทัพไม่ฟังและทำหน้าที่ของทหารเพื่อปกป้องดินแดนรักษาอธิปไตยของประเทศ จึงมีความชอบธรรมควรแก่การยกย่องในฐานะเป็นรั้วของชาติ สมบทบาทของผู้กล้าที่เกิดมาบนแผ่นดินไทย
ส่วนฝ่ายการเมืองที่อ่อนแอและทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง นอกจากไม่สมควรได้รับการยกย่องแล้ว ควรจะได้รับโทษจากประชาชน โดยการไม่เลือกเข้ามาอีกครั้ง และถ้าทำผิดกฎหมายก็ควรจะได้รับโทษตามควรแก่ความผิดที่ได้กระทำไป จึงจะพูดได้ความยุติธรรมมีจริง