ไบเออร์สด๊อร์ฟ รุกแผนปีหน้าควักสินค้านวัตกรรมใหม่ 15 รายการ ระเบิดตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว พร้อมอัด 12 แคมเปญ เข้าถึงหญิงไทย โชว์ผลประกอบการปีนี้โต 20% สวนกระแสเศรษฐกิจหดตัว
เภสัชกรหญิงสุวรรณี ศรีธัญญะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นีเวีย และเวชสำอางยูเซอรีน เปิดเผยว่า ในปีหน้านี้บริษัทยังคงเน้นทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้หญิงและผู้ชายอย่างต่อเนื่อง โดยจะโฟกัสสินค้าทุกตัว ในส่วนของสินค้าเก่าก็จะนำมารีลอนซ์ใหม่ เพื่อให้ลูกค้าได้ผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้คาดว่าในปีหน้านี้จะมีการออกสินค้านวัตกรรมใหม่แบรนด์นีเวียประมาณ 15 รายการ โดยบริษัทวางงบการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 10% และคาดว่าตลอดทั้งปี 2551 จะมีการจัดแคมเปญประมาณ 12 แคมเปญ อย่างไรก็ตามจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น บริษัทไม่มีแผนจะปรับขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด เพื่อเป็นการคืนกำไรให้แก่ผู้บริโภค ท่ามกลางสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี จึงต้องคงราคาขายเท่าเดิมไปก่อน
"ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ในปีนี้ มีการเติบโตค่อนข้างสูงประมาณ 10% ถือว่าสวนกระแสเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดไวท์เทนนิ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากค่ายใหญ่ออกมาทำตลาด รวมถึงตัวบริษัทเองก็มีการออกสินค้านวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่องปีละ 10-12 รายการ "
สำหรับผลประกอบการของบริษัทมีอัตราการเติบโต 20% ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งทางธุรกิจที่บริษัทมียอดขายเติบโตเพียง 5-6% ทั้งนี้ปัจจัยการเติบโตมาจากการออกสินค้านวัตกรรมใหม่ ซึ่งปีนี้ได้มีการออกสูตรใหม่ 2 สูตร สำหรับผิวแห้งเสีย และผิวแห้งเสียมาก ที่เป็นนวัตกรรมแอนตี้ออกซิเด๊นท์ และได้วางตลาดไปตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในตลาดผู้หญิงมูลค่า 10,000 ล้านบาท นีเวียมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 24% ส่วนผู้ชายมูลค่า 5,000 ล้านบาท มีการเติบโตค่อนข้างสูงประมาณ 30% และนีเวียมีส่วนแบ่งตลาดจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ชายประมาณ 60%
เภสัชกรหญิงสุวรรณี ศรีธัญญะโชติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นีเวีย และเวชสำอางยูเซอรีน เปิดเผยว่า ในปีหน้านี้บริษัทยังคงเน้นทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้หญิงและผู้ชายอย่างต่อเนื่อง โดยจะโฟกัสสินค้าทุกตัว ในส่วนของสินค้าเก่าก็จะนำมารีลอนซ์ใหม่ เพื่อให้ลูกค้าได้ผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้คาดว่าในปีหน้านี้จะมีการออกสินค้านวัตกรรมใหม่แบรนด์นีเวียประมาณ 15 รายการ โดยบริษัทวางงบการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 10% และคาดว่าตลอดทั้งปี 2551 จะมีการจัดแคมเปญประมาณ 12 แคมเปญ อย่างไรก็ตามจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น บริษัทไม่มีแผนจะปรับขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด เพื่อเป็นการคืนกำไรให้แก่ผู้บริโภค ท่ามกลางสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี จึงต้องคงราคาขายเท่าเดิมไปก่อน
"ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ในปีนี้ มีการเติบโตค่อนข้างสูงประมาณ 10% ถือว่าสวนกระแสเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดไวท์เทนนิ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากค่ายใหญ่ออกมาทำตลาด รวมถึงตัวบริษัทเองก็มีการออกสินค้านวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่องปีละ 10-12 รายการ "
สำหรับผลประกอบการของบริษัทมีอัตราการเติบโต 20% ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งทางธุรกิจที่บริษัทมียอดขายเติบโตเพียง 5-6% ทั้งนี้ปัจจัยการเติบโตมาจากการออกสินค้านวัตกรรมใหม่ ซึ่งปีนี้ได้มีการออกสูตรใหม่ 2 สูตร สำหรับผิวแห้งเสีย และผิวแห้งเสียมาก ที่เป็นนวัตกรรมแอนตี้ออกซิเด๊นท์ และได้วางตลาดไปตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในตลาดผู้หญิงมูลค่า 10,000 ล้านบาท นีเวียมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 24% ส่วนผู้ชายมูลค่า 5,000 ล้านบาท มีการเติบโตค่อนข้างสูงประมาณ 30% และนีเวียมีส่วนแบ่งตลาดจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ชายประมาณ 60%