xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.จี้สอบขนเงินเข้าไทย 60 ล. แฉถืออิลิทการ์ดเปิดทาง - "สมัคร"ตีปี๊บแผนล้มเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปชป.ย้อน “สมัคร” ใครกันแน่เกาะขาทหาร อดีตได้ดีเป็น มท.1 เพราะเกาะใคร เตือนอย่าปากดีมีชะนักติดหลังเพียบ หลายคดีจ่อรอขึ้นศาล ด้าน “นิพิฎฐ์” จี้สอบชาวฮ่องกงขนเงิน 60 ล้านเข้าไทยเชื่อพัวพันพรรคกาารเมือง ชี้เรื่องใหญ่กว่า “วีซีดีแม้ว” พร้อมแฉมีชาวต่างชาติิใช้อีลิทการ์ด เปิดทางหิ้วเงินเข้าไทยกว่าพันล้าน ด้าน “สมัคร” อ้างกลัวคนอยู่เบื้องหลังการปฎิวัติเดินแผนล้มเลือกตั้ง ขณะที่“สุริยะใส” ติงปาก “น้าหมัก” เป็นตัวสร้างเงื่อนไขให้มีการล้มเลือกตั้งมากกว่า บอกหากยังเดินสายฟอกผิด “แม้ว” เท่ากับส่งสัญญาณให้กลุ่มต้านก่อม็อบ

นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์เกาะทหารนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ต่อต้านการปฏิวัติมาโดยตลอด การปฏิวัติครั้งล่าสุดพรรคก็ไม่เห็นด้วย แต่ที่ไม่ออกมาเคลื่อนไหวเหมือนพรรคการเมืองอื่น เพราะเห็นว่าระบอบทักษิณ เลวร้ายกว่าการปฏิวัติวันที่ 19 ก.ย. 2549 ในทางตรงกันข้ามนายสมัครเคยกอดแข้งกอดขาทหารจนได้เป็น รมว.มหาดไทยเมื่อปี ปี 2519 และในช่วงนั้นเกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้น ทุกคนทราบกันดีว่านายสมัครยืนอยู่ข้างไหน จึงขอให้นายสมัคร ออกมาขอโทษนักศึกษา เยาวชน ที่ได้รับบาดเจ็บและล้มตาย

ส่วนกรณีที่นายสมัคร เตรียมตัวจะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ขอให้คำนึงถึงคดีที่ตัวเองกำลังจะรับชะตากรรมเดินเข้าคุกในหลายกรณี ทั้งกรณีโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม. ที่ขอให้เตรียมตัวไปชี้แก้คดีในศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และกรณี สตง.ชี้มูลความผิดว่านายสมัคร ในขณะเป็นผู้ว่าฯกทม. ส่อทุจริตในการดำเนินการจ้างเอกชนกำจัดขยะ 3 โครงการ มูลค่ารวม 9,589 ล้านบาท ตอนนี้สำนวนคดีอยู่ในขั้นการพิจารณาของป.ป.ช. ดังนั้นขอให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะถ้าหากนายสมัคร ถูกดำเนินคดีล่าช้าจะทำให้บ้านเมืองเสียหายได้

ด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร และผู้รับผิดชอบตรวจสอบ ข้อมูลการขนเงินจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยของพรรคกล่าวว่า ขณะนี้การเมืองตกหลุมดำประเด็นวีซีดีเสียงและภาพของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้มากเกินไป ทั้งที่กรณีชาวจีนลักลอบขนเงินเข้าประเทศไทยเกือบ 60 ล้านบาท เป็นเรื่องใหญ่กว่ามาก แม้เป็นเงินไม่มาก แต่ พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 21 ระบุไว้ชัดเจน ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองรับบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย ยอมให้กระทำการอย่างหนึ่ง อย่างใด มีโทษถึงขั้นยุบพรรคการเมือง กรณีนี้เข้าข่ายคนขนเงินไม่ใช่สัญชาติไทย และมีแนวโน้มขนเงินมาใช้เกี่ยวกับการเมือง เพราะลักษณะการขนเงิน 2 เที่ยวบิน จำนวนเงินเท่ากัน ตรงกับช่วงนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งอยู่ที่ฮ่องกง และมีนักการเมืองอีก 3-4 คนบินไปหา

นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบกับนายตำรวจคนหนึ่งพบว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีการขนเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ และดอลลาร์ฮ่องกง ผ่านด่านศุลกากรตีเป็นเงินไทย มูลค่าเกือบ 1 พันล้านบาท ผู้ขนเป็นชาวต่างชาติที่เป็นสมาชิกบัตรอีลิทการ์ด ได้รับสิทธิพิเศษผ่านเข้าช่วงวีไอพีตามข้อตกลง และมีคนมารับ แม้ช่วงเอกซ์เรย์ จะเห็นเงินเป็นฟ่อนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะไม่ผิดกฎหมาย

“ขอตั้งข้อสังเกตุว่าคนขนเงินเป็นผู้ถือบัตรอีลิทการ์ด คนที่ทำได้ลักษณะนี้แสดงว่ามันแน่มากที่เล่นแร่แปรธาตุเกี่ยวกับเงินแบบนี้ ดังนั้นขอให้กกต. มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งตรวจสอบว่า เงินจำนวนมหาศาล ที่ขนเข้ามาเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใด ถ้าเกี่ยวข้องกับพรรคไหนโดนยุบพรรคแน่”

นายนิพิฏฐ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ปราศรัยพาดพึงด่าอีแอบผมขาวทำลายสถาบันว่า การพูดลักษณะนี้ อาจทำให้คนอื่นจินตนาการได้ว่าเป็น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ถ้าคนจิตนาการแบบนี้อันตรายต่อบ้านเมืองมาก เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และคนที่จะขึ้นเป็นนายกฯไม่สมควรพูดแบบนี้ เนื่องจากต้องทำงานใกล้องคมนตรี ดังนั้นขอเรียกร้องให้นายสมัคร อย่าทำตัวเป็นอีแอบ ต้องพูดให้ชัดเจนว่าหมายถึงใคร

นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวแสดงความเป็นห่วงถึง สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอาจนำไปสู่การเลื่อนหรือล้มการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการชุมนุมเรียกร้องให้ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ยุติบทบาทไม่ให้พิจารณากฎหมายใดๆ ให้รอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่ามีความผิดปกติ จนมีคนบอกกับตนว่าระวังอาจจะไม่มีการเลือกตั้ง

“มันไม่เกี่ยวกับผมโดยตรง แต่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ถ้า สนช.ไม่มีการประชุมก็ไม่มีเรื่อง ถ้ามีการประชุมก็ต้องมีการชุมนุนขับไล่ ขอถามนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน สนช.ว่าการดำเนินการประชุมต่อจะเป็นการจุดชนวนเพื่อให้มีการประทั้วงอีกใช่หรือไม่ ผมอยากให้มีการเลือกตั้ง”

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่ากลัวจะเกิดอุบัติเหตุ นายสมัคร กล่าวว่า มันก็ต้องมีสิ่งผิดปกติ แต่จะถามว่ามีข้อมูลว่ามีการเตรียมการอะไรหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่คนที่อยู่เบื้องหลังการทำปฎิวัติ ยังไม่เลิกราและเน้นมาที่ตนต้องการเอาให้ได้

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่าข้อกังวลของนายสมัคร เกี่ยวกับเหตุที่อาจจะก่อให้เกิดการเลื่อน หรือล้มเลือกตั้งเป็นเรื่องที่ดีแต่น่าเสียดายที่นายสมัคร ไม่รู้ตัวว่า กำลังเป็นผู้สร้างเงื่อนปมให้การเลือกตั้งต้องถูกล้มหรือเลื่อนออกไป

โดยเฉพาะพฤติกรรมการหาเสียงของนายสมัครและพรรคพลังประชาชนนั้นเป็นพฤติกรรมที่สร้างเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้า เช่น ปราศรัยโจมตี พล.อ.เปรม ติณนสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ หรือการท้าทายขั้วการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามตลอดเวลา และต้องการเอาผลชนะการเลือกตั้งเพื่อ ฟอกผิดใน พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว เท่านั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยต่อต้านระบอบทักษิณ และพร้อมจะออกมาเดินขบวนครั้งใหญ่อีกครั้งหากมีการฟอกผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นการ ท้าทายกระบวนการยุติธรรมที่กำลังไต่สวนพฤติกรรมคอรัปชั่นของ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่หลายคดี

นายสุริยะใส กล่าวว่า การเดินสายประกาศฟอกผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แบบนี้และไม่มีความตั้งใจจะเสนอนโยบายใหม่ๆ อะไรก็เท่ากับพรรคพลังประชาชนจงใจส่งสัญญาณให้ฝ่ายตรงข้ามหรือคนที่เคยขับไล่ระบอบทักษิณจำเป็นต้องเตรียมตัวเดินขบวนอีกรอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ฉะนั้นหากนายสมัครยังใช้ท่วงทำนองระรานคนอื่นแบบนี้ยิ่งจะทำลายความ เชื่อมั่นของประชาชน จนไม่มีความคาดหวังต่อการเลือกตั้ง และในที่สุดอาจทำให้ ารเลื่อนการเลือกตั้งมีความชอบธรรมก็ได้ หากมีการล้มการเลือกตั้งจริงนายสมัคร และพรรคพลังประชาชนก็ต้องรับผิดชอบเพราะเป็นเงื่อนไขของปัญหา
กำลังโหลดความคิดเห็น