xs
xsm
sm
md
lg

โชวห่วยเมืองชลฯ ฮึดสู้ ปากช่องนัดต้านเทสโก้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มค้าปลีกและส่งรายย่อยในชลบุรี หนุนรัฐประกาศใช้ฏกหมายค้าปลีกคุมการรุกขยายสาขายักษ์ใหญ่ พร้อมรวมตัวจัดตั้งชมรมผู้ประกอบการค้าปลีก–ส่งพัทยา กระจายข้อมูลให้สังคมรับรู้ถึงพิษภัยต่อสังคมโดยรวม เผยพัทยาเพียงแห่งเดียวมีห้างค้าปลีกรายใหญ่มากถึง 11 แห่ง ไม่นับรวมร้านสะดวกซื้อต่างๆ อีกกว่า 110 สาขา ด้านกลุ่มผู้ค้า ประชาชนชาวปากช่อง นัดต้านเทสโก้ โลตัส เปิดบริการ 29 พ.ย.นี้

วานนี้ ( 27 พ.ย.) กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภานิติบัญญัติแห่งชาติและมหาวิทยาลัยศรีปทุม จังหวัดชลบุรี จัดเสวนาโต๊ะกลมเรื่อง “กฎหมายค้าปลีกเพื่อประชาชน” ณ โรงแรมเมอร์เคียวชลบุรี โดยมีผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งรายย่อยเข้าร่วมฟังเสวนาจำนวนมาก

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรงพาณิชย์ กล่าวว่า ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีมติเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เกี่ยวกับการรับหลักการร่างพระราชบัญญติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ..... มีเจตนารมณ์ที่ต้องการจัดระเบียบธุรกิจค้าปลีกค้าและส่ง เพื่อให้ธุรกิจทุกขนาดและทุกประเภทอยู่ร่วมกันได้ ภายใต้กฎกติกาที่เป็นธรรม รวมทั้งส่งเสริมพัฒนาธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างการตลาดมิให้เกิดการกระจุกตัว

กฎหมายดังกล่าว ต้องการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดต่างๆ และกรอบการดูแลธุรกิจ รวมถึงผล ประโยชน์ของกฎหมายต่อธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของผู้บริโภค และจะมีการจัดเสวนาในรูป เพื่อรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปใช้ในการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายค้าปลีกค้าส่งให้มีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมากขึ้น

ขณะที่นายสกล หาญสุทธิวารินทร์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวยืนยันว่าการออกกฎหมายค้าปลีกค้าส่ง กระทรวงพาณิชย์มิได้มีวัตถุประสงค์ที่จะต่อต้านกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ เพียงแต่ต้องการแบ่งพื้นที่ทำมาหากินให้กับกลุ่มโชวห่วย หรือค้าปลีกรายย่อย ลดปัญหาการปิดตัวของผู้ประกอบการขนาดเล็ก (โชวห่วย) ที่ไม่สามารถแข่งขันกับห้างฯขนาดใหญ่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินการเพื่อออกกฎหมายดังกล่าว ได้รับการต่อต้านหลาก หลายรูปแบบ แต่ตนพร้อมจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ และยังมองว่าหากฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ ย่อมส่งผลกระทบต่อห้างฯใหญ่อย่างแน่นอนเนื่องจากไม่สามารถกำหนดรูปแบบการตลาดได้ตามใจชอบ

ด้านนางสุชาดา นันทะพานิชสกุล อนุกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า ร้านค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ หรือห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ทำให้วิถีชีวิตของประชาชนเปลี่ยนไป เนื่องจากเด็กหรือเยาวชนมักเข้าไปรวมกลุ่มยังสถานประกอบการเหล่านี้ ตนเห็นว่าห้างฯ คือสถานที่ที่ทำให้เด็กและเยาวชนเสียคน ซึ่งในอนาคตหากไม่จำกัดขอบเขตการขยายตัวของห้างฯ รายใหญ่ก็จะส่งผลกระทบต่อประเทศชาติ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างอาจตกอยู่ในมือกลุ่มค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ ซึ่งมีกลุ่มทุนต่างชาติบริหารอยู่

ในส่วนตัวเองก็เป็นผู้ผลิตสินค้า และที่ผ่านมามีความจำเป็นจะต้องส่งสินค้าให้กลุ่มทุนเหล่านี้ และต้องตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขทางการค้าที่เขากำหนด แม้กระทั้งราคาสินค้า โลโก้ ซึ่งหากเราไม่ปฏิบัติตามก็อาจต้องปิดโรงงาน เพราะไม่สามารถขายสินค้าให้กับใครได้ เนื่องจากทุกระบบอยู่ในการบริหารงานของนายทุน”นางสุชาดา กล่าว

ตั้งชมรมชี้ผลเสียการมีห้างฯ ยักษ์

เช่นเดียวกับสิบโทอัครฉัตร สวัสดิโอ ผู้ประกอบการโชวห่วยในพื้นที่ตำบลบางทราย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี กล่าวสนับสนุนให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้โดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นว่าการไม่มีกฎหมายรองรับ ทำให้หน่วยงานภาครัฐไม่สามารถกำหนดกฎเกณฑ์ ในการขยายสาขาของค้าปลีกและส่งรายใหญ่ที่รุกเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่องได้ จนส่งผลต่อผู้ประกอบการรายย่อยจนบางราย ทนต่อกระแสแข่งขันไม่ไหวและต้องปิดตัวไป ที่สำคัญยังก่อให้เกิดการต่อต้านค้าส่งรายใหญ่จนก่อให้เกิดความไม่สงบในพื้นที่

นายสุไอนี เพียรดี ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบ การค้าปลีกค้าส่งคนไทยจังหวัดชลบุรี กล่าวว่าในความเป็นจริงคนชลบุรี ไม่มีใครขัดค้านการเข้ามาของค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่ เพียงแต่ต้องการให้โครงการต่างๆ หยุดขยายสาขาเพื่อรอให้กฎหมายดังกล่าวกำหนดใช้อย่างเป็นทางการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับค้าปลีกรายย่อย เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่เมืองพัทยา มีโมเดิร์นเทรดรายใหญ่จำนวนมากถึง 11 แห่ง ขณะที่เมืองพัทยา มีพื้นที่เพียง 54 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ไม่นับรวมร้านสะดวกซื้อต่างๆ อีกกว่า 110 สาขา ทำให้ค้าปลีกท้องถิ่นที่ดำเนินการอยู่ก่อนต้องปิดตัวเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังเห็นได้ว่าค้าปลีกรายใหญ่เพียง 1 ห้างฯ สามารถทำให้โชวห่วยปิดตัวได้มากถึง 1 พันร้าน และขณะนี้ผู้ประกอบการโชว์ห่วยในพื้นที่มีการรวมตัวกันจัดตั้งชมรมผู้ประกอบการค้าปลีก – ส่งพัทยา เพื่อให้ข้อมูลถึงพิษภัยของการเข้ามาของห้างฯใหญ่ที่เกิดขึ้น และกระตุ้นจิตสำนึกความห่วงแหนในธุรกิจท้องถิ่นให้เกิดขึ้นกับคนไทย

ชี้รายใหญ่-โชวห่วยหากินคนละตลาด

ด้าน นายธนภณ ตังคณานันท์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยกล่าวว่า การมองผู้ค้าปลีกและส่งรายใหญ่เป็นผู้ร้ายนั้น ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะหากมีการแข่งขันและเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ๆไม่กี่ราย ธุรกิจก็จะให้ความสำคัญที่เรื่องของราคาซึ่งผู้ได้รับผลประโยชน์ก็คือผู้บริโภค และในกรณีที่คนส่วนใหญ่มองว่าผุ้ค้าส่งรายใหญ่มีโอกาสสร้างราคาในลักษณะที่ฮั้วกันนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ยกตัวอย่างเช่นการแข่งขันในตลาดเบียร์ ซึ่งผู้ค้าต่างๆ จะงัดกลยุทธการตลาดเข้ามาแข่งขันเพื่อสร้างยอดขาย

“ร้านค้าปลีกและค้าส่งขนาดใหญ่ จะมีกลุ่มลูกค้าคนละตลาดกับร้านโชวห่วย ซึ่งการแข่งขันจะจับคู่กันระหว่างร้านใหญ่กับร้านใหญ่ –ร้านเล็กกับร้านเล็ก นอกจากนั้นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งรายใหญ่ก็มีกติตาในการทำโปรโมชั่น โดยกำหนดปริมาณการซื้อสินค้า เพื่อต้องการให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคทุกคน ซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อระบบโชวห่วย” นายธนภณ กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากที่นายกสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวจบได้มีกลุ่มผู้สัมมนาบางกลุ่ม กล่าวตำหนิความคิดเห็นของนายกสมาคมผู้นี้ โดยให้ความเห็นที่ขัดแย้งว่าตามหลักสากลแล้วหากในธุรกิจนั้นๆ มีผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายย่อมก่อให้เกิดการฮั้วด้านราคา ซึ่งย่อมส่งผลเสียต่อผู้ประกอบการรายย่อยอย่างแน่นอน

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในวันเดียวกันนี้ ชาวปากช่อง ได้ชุมนุมต้านการเปิดเทสโก้ โลตัส สาขาปากช่อง และมีนัดหมายกันว่า ในวันที่ 29 พ.ย. นี้ ซึ่งเป็นวันเปิดบริการวันแรกของเทสโก้ฯ จะมีการรวมตัวชุมนุมใหญ่อีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น