โชห่วยทนไม่ไหว ร้อง"เกริกไกร"เสนอนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจบริหาร สั่งเบรกค้าปลีกรายใหญ่หยุดขยายสาขา จนกว่าจะมีกฎหมายค้าปลีกออกมาบังคับใช้ หวั่นเกิดเหตุจลาจลเผาห้าง ด้าน"พาณิชย์"ยอมรับสั่งหยุดไม่ได้ เพราะเป็นอำนาจมหาดไทย ฉงนทำไมมาตรฐานการอนุมัติถึงแตกต่างกัน เตือนยักษ์ค้าปลีก เร่งก่อสร้างอาจเสียเงินเปล่า เหตุกฎหมายคุ้มครองห้างที่เปิดบริการแล้ว เผยร่างกฎหมายเข้า สนช.วาระ 2 และ 3 เร็วสุด 14 ธ.ค.นี้ ช้าสุด 19 ธ.ค. ทันเส้นตายพิจารณากฎหมายของรัฐบาลพอดี
นายนิรุทธิ์ วัชราภิชาต เลขาธิการศูนย์ประสานงานผู้ค้าปลีกและผู้ประกอบการอาชีพอิสระของไทย เปิดเผยในการสัมมนา "กฎหมายค้าปลีกเพื่อประชาชน?" จัดโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต วานนี้ (23 พ.ย.)ว่า ได้เสนอให้นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ เสนอต่อ พล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้ใช้อำนาจสั่งการให้ค้าปลีกขนาดใหญ่ หยุดการขยายสาขาชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ จนกว่า พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง พ.ศ. ... จะมีผลบังคับใช้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ค้ารายย่อย (โชห่วย) จากกรณีค้าปลีกขนาดใหญ่เร่งขยายสาขาตามต่างจังหวัด
“หากไม่มีมาตรการเพื่อระงับการเปิดสาขาของค้าปลีกใหญ่ที่กำลังรุกเข้าต่างจังหวัด และการพิจารณาร่างกฎหมายค้าปลีกที่ล่าช้า จะเป็นเหตุให้เกิดการจลาจล และเผาสาขาค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นการปิดถนนเพื่อประท้วงเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่แล้ว” นายนิรุทธิ์กล่าว
นายสกล หาญสุทธิวารินทร์ เลขานุการรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ตั้งใจที่จะผลักดันให้กฎหมายค้าปลีกมีผลบังคับใช้ทันรัฐบาลชุดนี้ และเชื่อว่าคณะกรรมาธิการยกร่างกฎหมายค้าปลีกจะเร่งสรุปการพิจารณาโดยเร็ว
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การขอความร่วมมือให้ร้านค้าปลีกรายใหญ่ชะลอการขยายสาขานั้น รัฐบาลมอบให้เป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ที่กระจายอำนาจไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในการพิจารณาอนุมัติให้เปิดสาขาในพื้นที่ได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็คือ มีข้อจำกัดในเรื่องอำนาจตัดสินใจไม่เหมือนกัน ไม่มีหลักเกณฑ์เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทำให้มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
"ขณะนี้ทำได้แค่เตือนไปยังร้านค้าปลีกที่กำลังก่อสร้างว่า หากกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว สาขาที่กำลังก่อสร้าง แต่ยังไม่ได้เปิดดำเนินการ ก็ต้องเข้าเกณฑ์ภายใต้กฎหมายค้าปลีก โดยต้องยื่นเรื่องให้พิจารณาและอนุญาตก่อนเปิดสาขาได้ ฉะนั้นหากมีการรีบเร่งก่อสร้างก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ อาจเสียงบประมาณเปล่า หากไม่ได้อนุญาตให้เปิดสาขาในพื้นที่นั้นได้” นายยรรยงกล่าว
สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาร่างกฎหมายค้าปลีก ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้น ขณะนี้ คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายที่มีนายวิษณุ เครืองาม เป็นประธานได้ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ไปแล้ว 2-3 ครั้ง หลังจากนี้ จะมีการประชุมอีก 5-6 ครั้ง ก่อนนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อ สนช. วาระ 2 และ 3 อย่างเร็ว ประมาณ 14 ธ.ค. และไม่เกิน 19 ธ.ค.นี้ เนื่องจากวันที่ 19 ธ.ค. เป็นวันสุดท้ายสิ้นสุดการพิจารณากฎหมายต่างๆ ของสนช. จึงเชื่อว่าคณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาเสร็จ และนำเสนอได้ทันรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีการปล่อยข่าวว่า กฎหมายค้าปลีกจะควบคุมธุรกิจการค้าปลีกทั้งหมด ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะกฎหมายค้าปลีกค้าส่ง เป็นกฎหมายที่จะกำหนดกฎกติกาในการแข่งขันของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ผู้ผลิตสินค้า ตลอดจนร้านโชห่วย และคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาค้าปลีกมีความรวดเร็ว ขณะนี้ กรมฯ ได้เตรียมการยกร่างกฎกระทรวงที่จะนำมาบังคับใช้ภายใต้กฎหมายไว้แล้ว ทั้งการกำหนดธุรกิจค้าปลีกค้าส่งที่จะต้องขออนุญาตประกอบธุรกิจ ระเบียบข้อบังคับต่างๆ ซึ่งหากกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะทำให้การปฏิบัติตามกฎหมายทำได้ทันที
รายงานข่าวแจ้งว่า การสัมมนาครั้งนี้ ได้มีเชิญนายธนภณ ตังคณานันท์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย มาร่วมอภิปราย แต่ได้รับการปฎิเสธ โดยอ้างว่าเชิญกระทันหันและติดธุระไม่สามารถเดินทางมาร่วมได้ และจะส่งตัวแทนเข้าร่วม แต่ก็ไม่ได้ส่งใครมาแทน ทั้งนี้ ได้มีฝ่ายกฎหมายของร้านค้าปลีกรายใหญ่ 3-4 ราย เข้ามารับฟังการสัมมนาครั้งนี้ด้วย
**ชาวสนามชัยเขตร้อง มท.
ในวันเดียวกันนี้ นายสมพงษ์ เวชสุขสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลสนามชัยเขต พร้อมด้วยประชาชนได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รมว.มหาดไทย เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งที่จะได้รับผลกระทบจากการเข้ามาเปิดสาขาของเทสโก้ โลตัส ในพื้นที่ อ.พนมสารคาม ซึ่งอยู่ห่างจาก อ.สนามชัยเขต ประมาณ 14 กม. และขณะนี้กำลังจะเข้ามาเปิดสาขาในพื้นที่ ต.บางคู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต อีก ซึ่งการดำเนินกิจการดังกล่าวจะเกิดผลกระทบอย่างรุนแรงแก่ร้านค้าปลีกค้าส่งดั้งเดิม ทำให้ขายของไม่ได้ ประกอบกับปัจจุบัน ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทำให้ร้านค้าได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้ว จึงขอให้ทางรัฐมนตรีฯ ช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหาด้วย
นายนิรุทธิ์ วัชราภิชาต เลขาธิการศูนย์ประสานงานผู้ค้าปลีกและผู้ประกอบการอาชีพอิสระของไทย เปิดเผยในการสัมมนา "กฎหมายค้าปลีกเพื่อประชาชน?" จัดโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต วานนี้ (23 พ.ย.)ว่า ได้เสนอให้นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ เสนอต่อ พล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้ใช้อำนาจสั่งการให้ค้าปลีกขนาดใหญ่ หยุดการขยายสาขาชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ จนกว่า พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง พ.ศ. ... จะมีผลบังคับใช้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ค้ารายย่อย (โชห่วย) จากกรณีค้าปลีกขนาดใหญ่เร่งขยายสาขาตามต่างจังหวัด
“หากไม่มีมาตรการเพื่อระงับการเปิดสาขาของค้าปลีกใหญ่ที่กำลังรุกเข้าต่างจังหวัด และการพิจารณาร่างกฎหมายค้าปลีกที่ล่าช้า จะเป็นเหตุให้เกิดการจลาจล และเผาสาขาค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นการปิดถนนเพื่อประท้วงเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่แล้ว” นายนิรุทธิ์กล่าว
นายสกล หาญสุทธิวารินทร์ เลขานุการรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ตั้งใจที่จะผลักดันให้กฎหมายค้าปลีกมีผลบังคับใช้ทันรัฐบาลชุดนี้ และเชื่อว่าคณะกรรมาธิการยกร่างกฎหมายค้าปลีกจะเร่งสรุปการพิจารณาโดยเร็ว
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การขอความร่วมมือให้ร้านค้าปลีกรายใหญ่ชะลอการขยายสาขานั้น รัฐบาลมอบให้เป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ที่กระจายอำนาจไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในการพิจารณาอนุมัติให้เปิดสาขาในพื้นที่ได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็คือ มีข้อจำกัดในเรื่องอำนาจตัดสินใจไม่เหมือนกัน ไม่มีหลักเกณฑ์เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทำให้มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
"ขณะนี้ทำได้แค่เตือนไปยังร้านค้าปลีกที่กำลังก่อสร้างว่า หากกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว สาขาที่กำลังก่อสร้าง แต่ยังไม่ได้เปิดดำเนินการ ก็ต้องเข้าเกณฑ์ภายใต้กฎหมายค้าปลีก โดยต้องยื่นเรื่องให้พิจารณาและอนุญาตก่อนเปิดสาขาได้ ฉะนั้นหากมีการรีบเร่งก่อสร้างก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ อาจเสียงบประมาณเปล่า หากไม่ได้อนุญาตให้เปิดสาขาในพื้นที่นั้นได้” นายยรรยงกล่าว
สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาร่างกฎหมายค้าปลีก ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้น ขณะนี้ คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายที่มีนายวิษณุ เครืองาม เป็นประธานได้ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ไปแล้ว 2-3 ครั้ง หลังจากนี้ จะมีการประชุมอีก 5-6 ครั้ง ก่อนนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อ สนช. วาระ 2 และ 3 อย่างเร็ว ประมาณ 14 ธ.ค. และไม่เกิน 19 ธ.ค.นี้ เนื่องจากวันที่ 19 ธ.ค. เป็นวันสุดท้ายสิ้นสุดการพิจารณากฎหมายต่างๆ ของสนช. จึงเชื่อว่าคณะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาเสร็จ และนำเสนอได้ทันรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีการปล่อยข่าวว่า กฎหมายค้าปลีกจะควบคุมธุรกิจการค้าปลีกทั้งหมด ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะกฎหมายค้าปลีกค้าส่ง เป็นกฎหมายที่จะกำหนดกฎกติกาในการแข่งขันของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ผู้ผลิตสินค้า ตลอดจนร้านโชห่วย และคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแก้ไขปัญหาค้าปลีกมีความรวดเร็ว ขณะนี้ กรมฯ ได้เตรียมการยกร่างกฎกระทรวงที่จะนำมาบังคับใช้ภายใต้กฎหมายไว้แล้ว ทั้งการกำหนดธุรกิจค้าปลีกค้าส่งที่จะต้องขออนุญาตประกอบธุรกิจ ระเบียบข้อบังคับต่างๆ ซึ่งหากกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะทำให้การปฏิบัติตามกฎหมายทำได้ทันที
รายงานข่าวแจ้งว่า การสัมมนาครั้งนี้ ได้มีเชิญนายธนภณ ตังคณานันท์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย มาร่วมอภิปราย แต่ได้รับการปฎิเสธ โดยอ้างว่าเชิญกระทันหันและติดธุระไม่สามารถเดินทางมาร่วมได้ และจะส่งตัวแทนเข้าร่วม แต่ก็ไม่ได้ส่งใครมาแทน ทั้งนี้ ได้มีฝ่ายกฎหมายของร้านค้าปลีกรายใหญ่ 3-4 ราย เข้ามารับฟังการสัมมนาครั้งนี้ด้วย
**ชาวสนามชัยเขตร้อง มท.
ในวันเดียวกันนี้ นายสมพงษ์ เวชสุขสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลสนามชัยเขต พร้อมด้วยประชาชนได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รมว.มหาดไทย เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งที่จะได้รับผลกระทบจากการเข้ามาเปิดสาขาของเทสโก้ โลตัส ในพื้นที่ อ.พนมสารคาม ซึ่งอยู่ห่างจาก อ.สนามชัยเขต ประมาณ 14 กม. และขณะนี้กำลังจะเข้ามาเปิดสาขาในพื้นที่ ต.บางคู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต อีก ซึ่งการดำเนินกิจการดังกล่าวจะเกิดผลกระทบอย่างรุนแรงแก่ร้านค้าปลีกค้าส่งดั้งเดิม ทำให้ขายของไม่ได้ ประกอบกับปัจจุบัน ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทำให้ร้านค้าได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้ว จึงขอให้ทางรัฐมนตรีฯ ช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหาด้วย