xs
xsm
sm
md
lg

เบรกห้างยักษ์ขายต่ำกว่าทุน นำร่องข้าวถุง-น้ำมันพืช-นม "เทสโก้"เมินร่วมมือภาครัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พาณิชย์สั่งเบรกพฤติกรรมขายต่ำกว่าทุน ใครฝ่าฝืนเล่นงานตามกฎหมายทันที พร้อมยกร่างสัญญาตัวอย่างป้องกันการขายต่ำกว่าทุน นำร่องข้าวถุง น้ำมันพืช และผลิตภัณฑ์นม “เทสโก้ โลตัส” เมินร่วมมือรัฐไม่โผล่ประชุมเวิร์กชอป สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทยแฉทุกวันนี้ห้างยักษ์ยังขายต่ำกว่าทุนเพียบ ม็อบสระแก้วร่วมพันเดือดเทศบาลปล่อยบิ๊กซีผุดสาขา ด้านผู้ค้าปลีกรายย่อยทั่วประเทศนัดชุมนุมหน้ารัฐสภาวันนี้หนุนสนช.ผ่านร่างกม.ค้าปลีกค้าส่ง

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กชอป) ร่วมกับผู้ประกอบการห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งรายย่อย ผู้ผลิตสินค้า (ซัปพลายเออร์) และผู้จำหน่าย ประมาณ 100 ราย วานนี้ (13 พ.ย.) ว่า ได้ขอความร่วมมือให้ห้างค้าปลีกรายใหญ่หยุดพฤติกรรมการขายสินค้าต่ำกว่าทุน เช่น การลดราคาสม่ำเสมอตลอดทั้งปี การจัดโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 การรับประกันสินค้าราคาต่ำแน่นอน เพราะขัดกับแนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าระหว่างผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกกับผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย (ไกด์ไลน์ค้าปลีก)

“การขายสินค้าต่ำกว่าทุนนั้น เป็นพฤติกรรมที่ชั่วร้าย จ้องทำลายคู่แข่ง และทำให้ซัปพลายเออร์ได้รับความเสียหายทางธุรกิจ จากการถูกกดราคาซื้อสินค้า ส่วนประชาชน แม้ในระยะแรกๆ จะได้รับประโยชน์จากสินค้าราคาถูกก็จริง แต่ในระยะยาวจะไม่ได้ประโยชน์ เพราะเมื่อคู่แข่งตายหมดแล้ว ห้างค้าปลีกก็จะขายสินค้าราคาสูงขึ้น ซึ่งในประเด็นนี้ หากรับได้รับการร้องเรียน กรมฯ จะเข้าไปดำเนินการตามกฎหมายทันที” นายยรรยงกล่าว

อย่างไรก็ตาม การขายต่ำกว่าทุนที่สามารถทำได้ต่อไป คือ การขายสินค้าเน่าเสียง่ายในช่วงเย็นก่อนปิดห้าง สินค้าชำรุดหรือบกพร่อง การลดราคาล้างสต๊อก หรือขายสินค้าเพื่อเลิกกิจการ

นายยรรยงกล่าวว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขายสินค้าต่ำกว่าทุน กรมฯ จะยกร่างสัญญาตัวอย่าง โดยจะเชิญห้างค้าปลีกรายใหญ่ ซัปพลายเออร์มาหารือร่วมกัน และทำเป็นสัญญาออกมา โดยนำร่องสินค้าที่ได้รับการร้องเรียนมาก 3 รายการก่อน คือ ข้าวถุง น้ำมันพืช และผลิตภัณฑ์นม โดยจะทำให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน จากนั้นจะขยายไปยังสินค้ารายการอื่นๆ ต่อไป

ทั้งนี้ ภายใต้สัญญาตัวอย่างนั้น จะกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนว่าราคาต้นทุนสินค้าจะคิดจากอะไร ซึ่งได้ข้อสรุปว่า จะใช้ราคาในใบอินวอยซ์ หักด้วยส่วนลดทางการค้า ส่วนการขายสินค้าที่เรียกว่าขายต่ำกว่าทุน คือ ราคาสินค้า บวกด้วยค่าใช้จ่ายในการบริหาร ซึ่งกำหนดให้อยู่ที่ 2-6% หากต่ำกว่านี้ ถือว่าเป็นการขายต่ำกว่าราคาต้นทุน และจะกำหนดระยะเวลาการจ่ายเงินค่าสินค้าให้ชัดเจน เช่น 30 วัน ไม่ใช่ 60 วัน 90 วันอย่างในปัจจุบัน รวมทั้งการเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าแรกเข้า (เอนทรานซ์ฟี) ที่จะต้องชัดเจนขึ้น เพราะได้รับแจ้งมาว่าผู้ผลิตบางรายถูกเรียกเก็บค่าแรกเข้าสูงถึง 1 ล้านบาทต่อ 1 รายการสินค้า

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมเวิร์กชอปวานนี้ (13 พ.ย.) ห้างค้าปลีกรายใหญ่มาร่วมประชุมเพียงแม็คโคร เซ็นทรัล และเซเว่น อีเลฟเว่น ส่วนเทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี และคาร์ฟูร์ ไม่มาร่วมประชุม โดยเทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ไม่ได้ให้เหตุผลในการไม่มาประชุม ส่วนคาร์ฟูร์แจ้งว่าติดประชุมที่อื่น และได้รับการแจ้งกระทันหัน แต่ยืนยันว่าพร้อมที่จะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการปฏิบัติตามไกด์ไลน์ค้าปลีกที่ออกมา หรือกำลังปรับปรุงใหม่

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่าห้างค้าปลีกขนาดใหญ่มีการขายสินค้าต่ำกว่าทุนมาก เช่น น้ำปลาตราหอยหลอด บิ๊กซี ขายขวดละ 13 บาท เทสโก้ โลตัส ขวดละ 19 บาท คาร์ฟูร์ ขวดละ 23 บาท ส่วนแม็คโคร ขวดละ 18 บาท ขนมฮานามิ เทสโก้ โลตัสขาย ซองละ 9 บาท แต่ซื้อ 1 แถม 1 เท่ากับซองละ 4.50 บาท คาร์ฟูร์ 9 บาท แต่ไม่แถม ส่วนแม็คโคร 8 บาท ขณะที่ซาปั๊ว ขาย 9 บาท เป็นต้น หรืออย่างเครื่องเล่นดีวีดี ห้างค้าปลีกรายหนึ่งขาย 3,000 บาทแต่ซื้อ 1 แถม 1 และขายเพียงวันเดียว

“การขายต่ำกว่าทุน เป็นพฤติกรรมที่จ้องทำลายคู่แข่ง และทำลายซัปพลายเออร์ หากห้างค้าปลีกอยากให้ประชาชนได้ซื้อของถูก ก็ควรจะสร้างแบรนด์ของตัวเอง แล้วนำมาขาย ไม่ใช่เอาแบรนด์คนอื่นมาขายกดราคาอย่างนี้ แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าในเมื่อซัปพลายเออร์ถูกทำแบบนี้ โดนห้างค้าปลีกนำสินค้าตัวเองไปขายต่ำกว่าทุน ทำไมถึงไม่ออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง” นายสมชายกล่าว

นางสาวพิมพ์สุภา กิตติติรณ ฝ่ายการตลาดสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมสด “หนองโพ” กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ยังไม่ถือว่ามีการแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง เพราะสูตรคำนวณเรื่องการขายต่ำกว่าทุนยังไม่ชัดเจน โดยแต่ละสินค้าควรจะมีการกำหนดราคาขั้นต่ำไปเลยว่าควรจะเป็นเท่าใด หากห้างขายในราคาขั้นต่ำ ก็ได้ใจลูกค้า แต่หากขายเกินกว่าราคาขั้นต่ำ ก็ได้กำไรเพิ่ม ซึ่งลูกค้าจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง

**ม็อบสระแก้วเดือดปล่อยบิ๊กซีผุดสาขา

ในวันเดียวกันนี้ ที่บริเวณหน้าตลาดเก่าสระแก้ว จ.สระแก้ว มีกลุ่มผู้ประกอบการร้านร้านโชวห่วยในพื้นที่เมืองสระแก้ว และใกล้เคียงกว่า 1,000 คน ร่วมชุมนุมเพราะไม่พอใจ นายทรงคุณ เทียนทอง นายกเทศมนตรีเมืองสระแก้ว กรณีที่ปล่อยให้ห้างบิ๊กซี ถมดินเตรียมก่อสร้างห้าง ทั้งที่เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา นายทรงคุณ รับปากต่อกลุ่มโชวห่วยว่า จะไม่มีการก่อสร้างห้างภายในปีนี้

นายวิชัย ชินสมบูรณ์ แกนนำผู้ประกอบการโชวห่วย กล่าวว่า หลังจากที่เทศบาลได้รับปากกับกลุ่มผู้ประกอบการไปแล้วว่าจะไม่ให้มีการก่อสร้างห้างดังกล่าว แต่ขณะนี้ โครงการดังกล่าวกำลังทำการถมดิน และลงฐานรากไปแล้ว นอกจากนี้ เทศบาลอีกได้รับปากกับชาวบ้านว่าจะเร่งออกเทศบัญญัติก็เพิกเฉย ดึงเกมซื้อเวลา ทั้งที่มหาดไทยสั่งให้ชะลอการก่อสร้างห้างบิ๊กซี ก็ไม่สนใจที่จะดำเนินการ

“ที่ผ่านมา จังหวัดได้สั่งให้เทศบาลช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ ส่วนผู้บริหารเทศบาลก็ได้แต่รวมหัวหลอกลวงชาวบ้านไปวันๆ โครงการต่างๆ ที่ขึ้นมาก็ไม่โปร่งใส สมาชิกเทศบาลเมือง ก็ไม่สามารถโต้แย้ง หรือตรวจสอบได้ ไม่มีใครสนใจทุกข์ของประชาชน พวกเราจึงได้รวมตัวกันอีกครั้งเพื่อขับไล่ให้นายกออกไป” นายวิชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่ ว่า หลังจากที่ผู้ประกอบการโชวห่วยชุมนุมกันอยู่ระยะเวลาหนึ่ง นายศานิตย์ นาคสุขศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นายทรงคุณ เทียนทอง นายกเทศบาลเมืองสระแก้ว ได้เดินทางมา ถึงที่ตลาดเก่า ผู้ชุมนุมจึงได้โห่ร้อง ขับไล่นายกฯ และ สมาชิกเทศบาลเมือง แต่หลังจากนั้นได้มีการเจรจาร่วมกันประมาณ 1 ชั่วโมงจึงได้ข้อยุติ

ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมได้ยื่อข้อเรียกร้องต่อเทศบาล 2 ข้อ ดังนี้ คือ 1.ให้เทศบาลเมืองสระแก้วดำเนินการออกคำสั่งระงับการดำเนินการใดๆ เพื่อก่อสร้างอาคารและเร่งดำเนินการเทศบัญญัติท้องถิ่น เพื่อควบคุมการประกอบกิจการค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ 2. การดำเนินการออกเทศบาลบัญญัติ ...ท้องถิ่น ซึ่งในขั้นตอนนี้ ขอให้ทางเทศบาลเมืองสระแก้วดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 16 พ.ย.2550 นี้

หลังจากนั้น ได้มีการลงบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ระหว่างเทศบาลเมืองสระแก้ว โดย นายทรงคุณ เทียนทอง กับตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้าย่อยในชุมชนสระแก้ว คือ นายวิชัย ชินสมบูรณ์ และ นายหฤษณ์ สุขกุล ลงนามร่วมกัน

ด้าน นายทรงคุณ กล่าวกับผู้ประกอบการ ว่า ตนจะยืนเคียงข้างผู้ประกอบการ แม้อาจจะถูกฟ้องได้ก็ตาม เนื่องจากห้างบิ๊กซีได้ขออนุญาตและดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว ซึ่งตนก็จะดำเนินตามขั้นตอนที่ถูกต้องขอให้ผู้ประกอบสบายใจ และขณะนี้ได้ทำหนังสือถึงห้างดังกล่าวแล้ว

**ชุมนุมหนุน สนช.ผ่านร่าง กม.ค้าปลีก

ในวันนี้ (14 พ.ย.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง พ.ศ. ........... โดยบรรจุเป็นวาระพิเศษ ซึ่งจะมีการอภิปรายถึงความจำเป็นในการออกกฎหมายดังกล่าวมาบังคับใช้เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งดั้งเดิมได้รับความเดือดร้อนจากการขยายตัวของห้างค้าปลีกสมัยใหม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ หลังจากที่วิปสนช.ได้รับหลักการร่างกฎหมายดังกล่าวในการประชุมเมื่อวานนี้ (13 พ.ย.)

ในวันเดียวกันนี้ กลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งรายย่อยจากทั่วประเทศ ในเครือข่ายของศูนย์ประสานงานผู้ค้าปลีกและผู้ประกอบการอาชีพอิสระของคนไทย (ศปท.) นำโดยนายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ ประธาน และนายพันธุ์เทพ สุลีสถิร รองประธาน จะเป็นผู้นำการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เพื่อสนับสนุนให้สนช. ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวให้ออกมามีผลบังคับใช้เร็วที่สุด

พร้อมกันนั้น ในช่วงเที่ยงวัน กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงสนช.ผ่านทาง ว่าที่ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ ด้วย โดยการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา จะเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 14.00 น. จึงจะสลายการชุมนุม
กำลังโหลดความคิดเห็น