ดีทแฮล์ม แอ่นอกตรึงราคาสินค้า แม้ต้องแบกรับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น ด้านแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า เจอศึกหนัก คู่แข่งงัดสงครามราคาเข้าสู้ ส่งผลสินค้ากลุ่มเฮ้าส์โฮลด์ทรงตัวปรับแผนมุ่งกลุ่มบิวตี้ หวังดันยอดขายตามเป้าปีนี้
นายชูเกียรติ โตกมลธรรม ผู้จัดการแผนก บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ดูแลกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ บราวน์ (Braun) เปิดเผยว่า ในภาพรวมของบริษัทฯปีนี้ยังคงจำหน่ายสินค้าในราคาเดิม ยังไม่มีแผนปรับขึ้นแต่อย่างไร แม้ว่าปีนี้บริษัทฯจะมีต้นทุนต่างๆเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องจากราคาน้ำมันที่ขยับขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนด้านต่างๆสูงขึ้นตามมา ขณะเดียวกันสินค้าระดับพรีเมี่ยมปีนี้ มองว่าเริ่มได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน กล่าวคือ ลูกค้าเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมในการซื้อสินค้า ที่มีราคาลดลงแต่ยังคงคุณภาพและความเป็นพรีเมี่ยมอยู่
โดยสินค้าในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ บราวน์ (Braun) ซึ่งเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน จาก 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.กลุ่มเฮ้าส์โฮลด์ เช่น กาต้มกาแฟไฟฟ้า เครื่องปั่นอเนกประสงค์ และ2.กลุ่มบิวตี้ ได้แก่ เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า เครื่องถอนขนไฟฟ้า ล่าสุดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มเฮ้าส์โฮลด์มียอดขายทรงตัว เนื่องจากในตลาด แบรนด์ฟิลิปส์ ซึ่งเป็นคู่แข่งหลัก มีการใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาเข้ามาใช้อยู่ตลอดเวลา เฉลี่ยลดราคาลงจากเดิมประมาณ 20-30% ขณะที่กลุ่มบิวตี้เป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวของรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% มาจากสินค้าที่จับกลุ่มผู้หญิงอย่าง เครื่องถอนขนไฟฟ้า
ทั้งนี้สัดส่วนรายได้จากกลุ่มเฮ้าส์โฮลด์ในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 30-40% และมีแนวโน้มลดลง แต่บริษัทฯจะพยายามรักษาสัดส่วนคงไว้เท่านี้ให้ได้ ขณะที่กลุ่มบิวตี้ที่มีกว่า 60% สามารถแบ่งได้เป็นสินค้าของกลุ่มผู้ชาย 75-80% และหญิง 15-20% ซึ่งแนวโน้มผุ้หญิงมียอดขายดีขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นในช่วง 2-3 เดือนสุดท้านของปีนี้ บริษัทฯจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เป็นกลุ่มบิวตี้มากยิ่งขึ้นประมาณ 2รายการ เช่น เครื่องถอนขนสำหรับผู้หญิง ในรุ่น X’elle และเครื่องโกนหนวดไฟฟ้า Braun Cruzer รุ่น Braun Activator เชื่อมั่นว่าจะทำให้แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้ามีรายได้เติบโตขึ้นอย่างน้อย 5-10% แม้ว่าจะต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 15% ก็ตาม
นายชูเกียรติ กล่าวอีกว่า ช่วง 2 ปีก่อน แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการเติบโตประมาณ 10-15% ส่วนปีที่ผ่านมาเติบโตเพียง 5-10% ส่วนปีหน้ามองว่าหากแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมในเซกเม้นต์ที่บริษัทฯบริหารอยู่ จะทำตลาดในลักษณะการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆมากขึ้น แต่ถ้าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองยังไม่ดีขึ้น ราคาก็ยังเป็นกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้อยู่ ขณะที่ดีทแฮล์ม จะมุ่งในเรื่องของการสร้างแบรนด์และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเป็นครั้งคราว
นายชูเกียรติ โตกมลธรรม ผู้จัดการแผนก บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ดูแลกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ บราวน์ (Braun) เปิดเผยว่า ในภาพรวมของบริษัทฯปีนี้ยังคงจำหน่ายสินค้าในราคาเดิม ยังไม่มีแผนปรับขึ้นแต่อย่างไร แม้ว่าปีนี้บริษัทฯจะมีต้นทุนต่างๆเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องจากราคาน้ำมันที่ขยับขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนด้านต่างๆสูงขึ้นตามมา ขณะเดียวกันสินค้าระดับพรีเมี่ยมปีนี้ มองว่าเริ่มได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน กล่าวคือ ลูกค้าเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมในการซื้อสินค้า ที่มีราคาลดลงแต่ยังคงคุณภาพและความเป็นพรีเมี่ยมอยู่
โดยสินค้าในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ บราวน์ (Braun) ซึ่งเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน จาก 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.กลุ่มเฮ้าส์โฮลด์ เช่น กาต้มกาแฟไฟฟ้า เครื่องปั่นอเนกประสงค์ และ2.กลุ่มบิวตี้ ได้แก่ เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า เครื่องถอนขนไฟฟ้า ล่าสุดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มเฮ้าส์โฮลด์มียอดขายทรงตัว เนื่องจากในตลาด แบรนด์ฟิลิปส์ ซึ่งเป็นคู่แข่งหลัก มีการใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาเข้ามาใช้อยู่ตลอดเวลา เฉลี่ยลดราคาลงจากเดิมประมาณ 20-30% ขณะที่กลุ่มบิวตี้เป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวของรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% มาจากสินค้าที่จับกลุ่มผู้หญิงอย่าง เครื่องถอนขนไฟฟ้า
ทั้งนี้สัดส่วนรายได้จากกลุ่มเฮ้าส์โฮลด์ในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 30-40% และมีแนวโน้มลดลง แต่บริษัทฯจะพยายามรักษาสัดส่วนคงไว้เท่านี้ให้ได้ ขณะที่กลุ่มบิวตี้ที่มีกว่า 60% สามารถแบ่งได้เป็นสินค้าของกลุ่มผู้ชาย 75-80% และหญิง 15-20% ซึ่งแนวโน้มผุ้หญิงมียอดขายดีขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นในช่วง 2-3 เดือนสุดท้านของปีนี้ บริษัทฯจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่เป็นกลุ่มบิวตี้มากยิ่งขึ้นประมาณ 2รายการ เช่น เครื่องถอนขนสำหรับผู้หญิง ในรุ่น X’elle และเครื่องโกนหนวดไฟฟ้า Braun Cruzer รุ่น Braun Activator เชื่อมั่นว่าจะทำให้แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้ามีรายได้เติบโตขึ้นอย่างน้อย 5-10% แม้ว่าจะต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 15% ก็ตาม
นายชูเกียรติ กล่าวอีกว่า ช่วง 2 ปีก่อน แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการเติบโตประมาณ 10-15% ส่วนปีที่ผ่านมาเติบโตเพียง 5-10% ส่วนปีหน้ามองว่าหากแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมในเซกเม้นต์ที่บริษัทฯบริหารอยู่ จะทำตลาดในลักษณะการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆมากขึ้น แต่ถ้าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองยังไม่ดีขึ้น ราคาก็ยังเป็นกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้อยู่ ขณะที่ดีทแฮล์ม จะมุ่งในเรื่องของการสร้างแบรนด์และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเป็นครั้งคราว