ไฮเนเก้นชี้คนแห่ดื่มเบียร์อีโคโนมี-สแตนดาร์ด หลังเศรษฐกิจหดตัว อัดฉีด 80 ล้านบาท ระเบิดแคมเปญ “Heineken-A World without Strangers” จัดกิจกรรมประกวดหนังสั้นกับ 4 ผู้กำกับหนังรุ่นใหม่ ชิงรางวัลไปเที่ยวต่างประเทศ หวังมัดใจฐานลูกค้าเก่า-ใหม่ สมาชิกเพิ่มเป็นหลักหมื่น สิ้นปีนี้เบียร์ไฮเนเก้นโต 3%
นายรอนนี่ เตียว ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดเบียร์ในช่วงปลายปีนี้ บริษัทฯมุ่งเน้น 2 แคมเปญ ได้แก่ “แคมเปญการแข่งขัน"ไฮเนเก้น โรด ทู เดอะ รอยัล โทรฟี่” เพื่อมอบประสบการณ์กอล์ฟระดับเวิลด์คลาสแก่นักกอล์ฟ โดยเป็นแคมเปญต่อเนื่อง 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2550-2552 และล่าสุดได้ทุ่ม 80 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ Heineken-A World without Strangers ที่เชื่อมโยงกับโฆษณาชุด Just Say Hi ภายใต้แนวคิด “โลกนี้ไม่มีคนแปลกหน้า เพียงเราเปิดใจ”
ทั้งนี้ภายในแคมเปญได้จัดกิจกรรมประกวดแนวคิดในการทำหนังสั้น เพื่อชิงรางวัลไปเที่ยวต่างประเทศกับ 4 ผู้กำกับหนังรุ่นใหม่ ซึ่งประกอบด้วย คมกฤต ตรีวิมล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ,บรรจง ปิสัญธนะกูล และทรงยศ สุขมากอนันต์ ในประเทศที่เลือกไปทำหนังสั้น ผู้สนใจสามารถกรอกใบสมัคร ตามร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อสร้างความผูกพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และคาดว่ามีผู้สนใจเข้ามาร่วมกิจกรรมหลักหมื่นรายผ่านทางเว็บไซต์ ที่ www.heisociety.com ,www.Heinekenthai.com จากปัจจุบันมีฐานลูกค้า 2 หมื่นราย
อีกทั้งบริษัทฯได้เน้นการนำเสนอนวัตกรรม อาทิ การเปิดตัวเบียร์ไฮเนเก้น ปาโก้ ที่เป็นขวดอลูมิเนียมเข้ามาจำหน่าย เพื่อสร้างประสบการณ์การดื่มให้กับผู้ดื่มไฮเนเก้น และตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเบียร์พรีเมียมที่มีส่วนแบ่ง 95% ส่วนช่วงปลายปีนี้นำเบียร์ถังขนาด 5 ลิตร กลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้ง โดยจะเน้นจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก อีกทั้งเตรียมเปิดลานเบียร์สดในเดือนพฤศจิกายน นี้ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับเทศกาลเฉลิมฉลองปลายปีที่กำลังจะมาถึงนี้ คาดว่าสิ้นปีนี้เบียร์ไฮเนเก้นจะเติบโต 3% ส่วนเบียร์ไทเกอร์และเบียร์เชียร์ เติบโต 20%
แนวโน้มตลาดเบียร์โดยรวมปีนี้มีมูลค่า 106,000 ล้านบาท หรือประมาณ 2,100 ล้านลิตร มีอัตราเติบโต 5% จากการเติบโตของเบียร์อีโคโนมูลค่า 87,980 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 83% และเบียร์สแตนดาร์ดมูลค่า 10,600 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของตลาด ซึ่งทั้งสองเซกเมนต์มีอัตราการเติบโตกว่า 5% เนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย จึงหันไปดื่มเบียร์ราคาถูก ขณะที่เบียร์พรีเมียมมูลค่า 7,420 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7% เติบโต 1-2% ทั้งนี้คาดว่าในปีหน้านี้มูลค่าเบียร์เพิ่มเป็น 110,000 ล้านบาท
นายรอนนี่ เตียว ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดเบียร์ในช่วงปลายปีนี้ บริษัทฯมุ่งเน้น 2 แคมเปญ ได้แก่ “แคมเปญการแข่งขัน"ไฮเนเก้น โรด ทู เดอะ รอยัล โทรฟี่” เพื่อมอบประสบการณ์กอล์ฟระดับเวิลด์คลาสแก่นักกอล์ฟ โดยเป็นแคมเปญต่อเนื่อง 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2550-2552 และล่าสุดได้ทุ่ม 80 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ Heineken-A World without Strangers ที่เชื่อมโยงกับโฆษณาชุด Just Say Hi ภายใต้แนวคิด “โลกนี้ไม่มีคนแปลกหน้า เพียงเราเปิดใจ”
ทั้งนี้ภายในแคมเปญได้จัดกิจกรรมประกวดแนวคิดในการทำหนังสั้น เพื่อชิงรางวัลไปเที่ยวต่างประเทศกับ 4 ผู้กำกับหนังรุ่นใหม่ ซึ่งประกอบด้วย คมกฤต ตรีวิมล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ,บรรจง ปิสัญธนะกูล และทรงยศ สุขมากอนันต์ ในประเทศที่เลือกไปทำหนังสั้น ผู้สนใจสามารถกรอกใบสมัคร ตามร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อสร้างความผูกพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และคาดว่ามีผู้สนใจเข้ามาร่วมกิจกรรมหลักหมื่นรายผ่านทางเว็บไซต์ ที่ www.heisociety.com ,www.Heinekenthai.com จากปัจจุบันมีฐานลูกค้า 2 หมื่นราย
อีกทั้งบริษัทฯได้เน้นการนำเสนอนวัตกรรม อาทิ การเปิดตัวเบียร์ไฮเนเก้น ปาโก้ ที่เป็นขวดอลูมิเนียมเข้ามาจำหน่าย เพื่อสร้างประสบการณ์การดื่มให้กับผู้ดื่มไฮเนเก้น และตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเบียร์พรีเมียมที่มีส่วนแบ่ง 95% ส่วนช่วงปลายปีนี้นำเบียร์ถังขนาด 5 ลิตร กลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้ง โดยจะเน้นจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก อีกทั้งเตรียมเปิดลานเบียร์สดในเดือนพฤศจิกายน นี้ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับเทศกาลเฉลิมฉลองปลายปีที่กำลังจะมาถึงนี้ คาดว่าสิ้นปีนี้เบียร์ไฮเนเก้นจะเติบโต 3% ส่วนเบียร์ไทเกอร์และเบียร์เชียร์ เติบโต 20%
แนวโน้มตลาดเบียร์โดยรวมปีนี้มีมูลค่า 106,000 ล้านบาท หรือประมาณ 2,100 ล้านลิตร มีอัตราเติบโต 5% จากการเติบโตของเบียร์อีโคโนมูลค่า 87,980 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 83% และเบียร์สแตนดาร์ดมูลค่า 10,600 ล้านบาท คิดเป็น 10% ของตลาด ซึ่งทั้งสองเซกเมนต์มีอัตราการเติบโตกว่า 5% เนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย จึงหันไปดื่มเบียร์ราคาถูก ขณะที่เบียร์พรีเมียมมูลค่า 7,420 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7% เติบโต 1-2% ทั้งนี้คาดว่าในปีหน้านี้มูลค่าเบียร์เพิ่มเป็น 110,000 ล้านบาท