xs
xsm
sm
md
lg

ขุนคลังชี้น้ำมันไม่ฉุดเงินเฟ้อ-แนะ ปชป.ระวังมาตรการ 30 %

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ฉลองภพ" ฮึด เปิดแถลงด่วนหลังกลับจากประชุมไอเอ็มเอฟ ให้ความมั่นใจเศรษฐกิจไทยเดินหน้าได้ แม้ราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด ระบุยังไม่สร้างแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อ ส่วนมาตรการ 30% ยังจำเป็นต่อสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยน เตือนรัฐบาลใหม่อย่าปรับเปลี่ยนมั่ว ลุ้นเงินเจบิกสร้างโครงการขนาดใหญ่ คาดการณ์ปีหน้าจีดีพี 5% พร้อมทิ้งทวนเสนอรูปแบบการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ต่อครม.อังคารหน้า

ภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมระดับรัฐมนตรีคลังของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก วานนี้ (26 ต.ค.) นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง เปิดแถลงข่าวด่วนที่กระทรวงการคลัง เขากล่าวถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ว่า ยังไม่ได้สร้างแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลดำเนินนโยบายอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สามารถดูแลอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมายไม่เกิน 3.5%ได้ และยังสามารถรับมือกับราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ โดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยยังอยู่ในระดับ 1% กว่า ส่วนทางการจะมีมาตรการอื่นๆ มาดูแลอัตราเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยนในระยะนี้หรือไม่ โดยเฉพาะที่มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งนั้น ขึ้นกับสถานการณ์

"ขณะนี้มาตรการต่างๆ ของไทยสามารถดูแลด้านต่างๆ ได้ดีอยู่แล้ว จะเห็นว่าค่าเงินของบางประเทศแข็งค่ามากกว่าเงินบาท พร้อมยืนยันว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นสูงยังไม่กระทบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก เนื่องจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมาธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ กันมาดูแลอัตราเงินเฟ้อเป็นหลัก ดังนั้น จึงทำให้รับมือกับราคาน้ำมันได้ดี โดยเป้าหมายของธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเน้นการดูแลเสถียรภาพด้านราคามากขึ้น"

กรณีมีพรรคการเมือง (พรรคประชาธิปัตย์) หาเสียงว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% นายฉลองภพกล่าวว่า รัฐบาลใหม่ต้องพิจารณาให้ดีและให้ดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากที่ผ่านมา มาตรการดังกล่าวที่ออกมาป้องกันภาวะเงินทุนไหลเข้า ซึ่งถือเป็นภาวะที่อยู่ในช่วงไม่ปกติ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการออกมาดูแล แต่หากในอนาคตปัญหาดังกล่าวผ่อนคลายลง และรัฐบาลเห็นว่าไม่มีความจำเป็นก็สามารถยกเลิกหรือแก้ไขได้

"ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมว่าภาวะตลาดเงินเป็นปกติหรือไม่ หากในภาวะปกติค่าเงินไม่มีความผันผวนก็ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการใดๆ แต่ช่วงนี้ไม่ใช่ภาวะปกติ เห็นได้ว่าประเทศต่างๆ กำลังประสบปัญหาเงินทุนไหลเข้าเช่นเดียวกัน เช่น อินเดีย ปัญหาเงินทุนไหลเข้าสร้างแรงกดันต่ออัตราแลกเปลี่ยนทุกประเทศ และหากความผันผวนยังมีอยู่จะทำให้ประเทศต่างๆ มีแนวโน้มการออกมาตรการมากำกับการไหลเข้า-ออกของเงินมากขึ้น" นายฉลองภพกล่าวและว่า เศรษฐกิจในปีหน้าจะขยายตัวได้ในระดับ 5% โดยมีการลงทุนที่ฟื้นตัวขึ้นเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ยังต้องติดตามปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อการส่งออกของไทย"

ขอลุยเมกะโปรเจ็กต์ทิ้งทวน

นายฉลองภพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลเริ่มชี้แจงนักลงทุนว่ากำลังพยายามผลักดันการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจ็กต์) ให้เกิดขึ้น โดยขณะนี้แผนการกู้เงินเพื่อนำมาใช้ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าบางเส้นทางนั้นยังรอความชัดเจนจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) คาดว่าจะได้รับคำตอบในเร็ว ๆ นี้ แต่ยังมีทางเลือกอื่นร่วมด้วย เช่น การกู้จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน หรือ กู้ภายในประเทศควบคู่กันกับการกู้ต่างประเทศ ในขณะที่สายสีแดงเส้นตลิ่งชัน-บางซื่อจะใช้เงินกู้ในประเทศทั้งหมด

เสนอรูปแบบหวยบนดินให้ ครม.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้รัฐบาลชุดปัจจุบันจะอยู่ในฐานะรัฐบาลรักษาการ แต่มองว่าสามารถเดินหน้าเสนอรูปแบบการออกสลาก 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดินต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ เนื่องจากไม่ใช่นโยบายใหม่แต่เป็นการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อประชาชน อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นคงต้องรอให้ร่างแก้ไขพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เสนอโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้วเสร็จก่อน ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังและสำนักงานสลากจะพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมเพื่อรองรับ

นายฉลองภพ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทย (TMB) ว่า กระทรวงการคลังพร้อมใส่เงินเพิ่มทุนให้กับธนาคารทหารไทยตามที่ได้มีข้อตกลงไว้ โดยมั่นใจว่าจะสามารถหาเงินมาชำระค่าหุ้นเพิ่มได้ตามกำหนด ส่วนจะขายหุ้นที่ถือไว้ตัวใดนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่ามีเงินเพียงพอแน่นอน

"การเพิ่มทุนแบงก์ทหารไทยครั้งนี้จะเพียงพอสำหรับการทำธุรกิจของธนาคารในระยะ 3-4 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการรองรับการปล่อยสินเชื่อ ไม่ใช่เพราะธนาคารมีปัญหาด้านการเงิน แต่จะทำให้ธนาคารขยายธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ส่วนการเข้ามาของกลุ่มพันธมิตรใหม่จากต่างประเทศที่จะถือหุ้นเกินกว่า 25% เป็นไปตามเงื่อนไขของพันธมิตรที่จะเข้ามาเพิ่มทุน เพราะพันธมิตรต้องการเข้ามามีบทบาท"
กำลังโหลดความคิดเห็น