สำนักพระราชวังแถลงการณ์พระอาการประชวรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาเผยอุณหภูมิพระวรกายเป็นปรกติ ผลของการตรวจพระโลหิตแสดงว่าการอักเสบของพระอันตะ(ลำไส้ใหญ่) ลดน้อยลงอีก ทรงบริหารพระวรกายเพื่อเพิ่มพระกำลังกล้ามเนื้อและเสวยได้มากขึ้น พระอาการทั่วไปดี ด้านประเทศสมาชิกกลุ่มอาเซียนได้ติดตามและไต่ถามถึงพระอาการประชวรด้วยความเป็นห่วง
วานนี้(19 ต.ค.) สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 7 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานพระอาการว่า อุณหภูมิพระวรกายเป็นปรกติ ผลของการตรวจพระโลหิตแสดงว่าการอักเสบของพระอันตะ(ลำไส้ใหญ่) ลดน้อยลงอีก ทรงบริหารพระวรกายเพื่อเพิ่มพระกำลังกล้ามเนื้อและเสวยได้มากขึ้น พระอาการทั่วไปดี
ทูตฟินแลนด์-ไนจีเรีย-ฝรั่งเศสถวายพระพร
บรรยากาศการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววานนี้ ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศก็ยังคงเดินทางมาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบุคคลสำคัญและผู้มีชื่อเสียงที่มาลงนามถวายพระพรในช่วงเช้า ได้แก่ นายอำพน กิตติอำพน,นายแก้วสรร อติโพธิ,นางภัทรียา เบญจพลชัย,นายวิชัย เบญจรงคกุล,ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ว่าที่เลขาธิการอาเซียน,นายปัญญา นิรันดร์กุลที่เดินทางมาพร้อมกับนางอัมพัน นิรันด์กุล ผู้เป็นมารดา,เขาทราย กาแล็กซี่,นายนิวัติ เหล่าสุวรรณวัฒน์,มิสเตอร์แดนนี่ แมกคัฟเฟอร์ตี้,นายเกริกไกร จีระแพทย์ ,นายศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร,นายสิระวิชญ์ สงวนสันติกุล,พล.ท.สำเริง ศิวาดำรงค์ ฯลฯ
ทั้งนี้ ดร.สุรินทร์ กล่าวว่า เหล่าประเทศสมาชิกในอาเซียนต่างถามไถ่ถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยความเป็นห่วง เพราะรู้ดีว่าพระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทุกคน และอยากให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
ด้าน Mr.Lars Backstrom เอกอัครราชทูตประเทศฟินแลนด์ประจำประเทศไทย ได้เดินทางมาลงนามถวายพระพรและทูลเกล้าฯ ถวายกระเช้าดอกไม้สด พร้อมกล่าวว่า ในนามของประชาชนชาวฟินแลนด์ ขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ทั้งนี้ตนเองรู้สึกซาบซึ้งที่เห็นประชาชนชาวไทยพร้อมใจกันมาถวายพระพร
ขณะที่ Mrs. Fola. V. Aiyedun จากสถานทูตไนจีเรียประจำประเทศไทย ได้ลงนามถวายพระพรว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนไนจีเรีย ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหายป่วยในเร็ววัน
ต่อมา ฯพณฯ โลรองต์ บีลี เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส เดินทางมาลงนามถวายพระพร และทูลเกล้าฯแถวายแจกันดอกไม้สด แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และปิดท้ายที่ นายดนัย อุดมโชค นักเทนนิสขวัญใจชาวไทย ที่กล่าวว่า อยากเป็นส่วนหนึ่งในการลงนามถวายพระพร ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของชาวไทยไปนานๆ ขอให้พระองค์หายจากการประชวรโดยเร็ว ทั้งนี้ ตนจะเดินทางไปแข่งขันเทนนิส ในรายการซัมซุง ซีคิวตี้ส์ คัพ ที่ประเทศเกาหลี ระหว่างวันที่ 22-28 ต.ค.จึงมาขอพรจากพระองค์ท่าน และตั้งใจว่าการเดินทางไปแข่งขันคราวนี้ จะทำเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และไปรักษาแชมป์เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์-ส้ม-ข้าวกล่อง
สำหรับบรรยากาศการลงนามถวายพระพรในช่วงบ่าย ยังคงคับคั่งไปด้วยบุคคลสำคัญ ดารานักร้อง นักแสดง และประชาชนเดินทางมาร่วมถวายพระพรจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม มีการชุลมุนเกิดขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากประชาชนที่มาเฝ้าฟังพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่างวิ่งกรูเข้ามายังจุดลงนามถวายพระพรเพื่อรับแจกพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ นายบรรพต โรจน์รุ่งสัตย์ เจ้าของร้านชัดโปสเตอร์นำมาแจก โดยพระบรมฉายาลักษณ์ดังกล่าวเป็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 โดยมีพระบรมฉายาลักษณ์ 13 แบบ ประกอบด้วยขนาดโปสเตอร์ 10,000 ใบ และขนาดเอ 4 จำนวน 8,000 ใบ รวมทั้งสิ้น 18,000 ใบ
ทั้งนี้ นายบรรพต ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชน
ต่อมา นายดิษธร วัชโรทัย ผู้อำนวยการกองงานส่วนพระองค์และรองประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ฉลองพระองค์สูทสีฟ้า ขนาดเอ 4 ปักตรามูลนิธิฯ มามอบให้แก่ประชาชนที่มาลงนามถวายพระพร ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก โดยมีประชาชนบางรายวิงวอนขอเจ้าหน้าที่มากกว่า 1 ใบ เพราะต้องการนำไปฝากญาติพี่น้อง และจะนำไปใส่กรอบติดไว้ที่บ้าน
สำหรับบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงเดินทางมาลงนามในช่วงบ่าย ได้แก่ ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย,กลุ่มธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่,ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,วิทยาลัยนอร์ธกรุงเทพ,บริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ,นายอดิศร เกียรติโชควิวัฒน์,คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต,พล.ต.ต.อรรถกฤษณะ ธารีฉัตร,พล.ต.ท. สถาพร ดวงแก้ว,สมาคมตลกแห่งประเทศไทย นำโดยนายถั่วแระ เชิญยิ้ม
ต่อมา เวลาประมาณ 15.40 น. นายเหงียน ยูย ฮืง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เดินทางลงนามถวายพระพรและทูลเกล้าฯถวายกระเช้าดอกไม้สด แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เอกอัคราชทูตเวียดนาม กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ได้รับความนับถืออย่างสูงจากประชาชนชาวไทยและทั่วโลก โดยหนึ่งในนั้น ก็มีชาวเวียดนามร่วมอยู่ด้วย และภายใต้พระบารมีที่พระองค์ทรงครองราชย์ 60 ปี พระองค์ได้ปกครองประเทศให้พสกนิกรชาวไทยอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข และภายใต้พระบารมี ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทย ได้พัฒนารุดหน้าไปมาก ทั้งนี้ เมื่อทราบว่า พระองค์ประชวร ในนามราษฎรชาวเวียดนาม ขอถวายพระพรขอให้พระองค์ มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง และหายเป็นปกติโดยเร็ว และขอให้ประชาชนชาวไทยภายใต้พระบารมีของพระองค์ มีแต่ความสุขเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังนำส้มจำนวน 40 ลังมาแจกให้กับประชาชนด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังนำข้าวกล่องจำนวน 600 กล่อง ซึ่งหลวงปู่บุญญฤทธิ์ได้ทูลเกล้าฯ ถวาย มอบให้กับประชาชน ณ ลานด้านหน้าพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดยมีเมนูเป็นข้าวผัดไข่ดาว
วานนี้(19 ต.ค.) สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 7 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานพระอาการว่า อุณหภูมิพระวรกายเป็นปรกติ ผลของการตรวจพระโลหิตแสดงว่าการอักเสบของพระอันตะ(ลำไส้ใหญ่) ลดน้อยลงอีก ทรงบริหารพระวรกายเพื่อเพิ่มพระกำลังกล้ามเนื้อและเสวยได้มากขึ้น พระอาการทั่วไปดี
ทูตฟินแลนด์-ไนจีเรีย-ฝรั่งเศสถวายพระพร
บรรยากาศการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววานนี้ ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศก็ยังคงเดินทางมาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบุคคลสำคัญและผู้มีชื่อเสียงที่มาลงนามถวายพระพรในช่วงเช้า ได้แก่ นายอำพน กิตติอำพน,นายแก้วสรร อติโพธิ,นางภัทรียา เบญจพลชัย,นายวิชัย เบญจรงคกุล,ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ว่าที่เลขาธิการอาเซียน,นายปัญญา นิรันดร์กุลที่เดินทางมาพร้อมกับนางอัมพัน นิรันด์กุล ผู้เป็นมารดา,เขาทราย กาแล็กซี่,นายนิวัติ เหล่าสุวรรณวัฒน์,มิสเตอร์แดนนี่ แมกคัฟเฟอร์ตี้,นายเกริกไกร จีระแพทย์ ,นายศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร,นายสิระวิชญ์ สงวนสันติกุล,พล.ท.สำเริง ศิวาดำรงค์ ฯลฯ
ทั้งนี้ ดร.สุรินทร์ กล่าวว่า เหล่าประเทศสมาชิกในอาเซียนต่างถามไถ่ถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยความเป็นห่วง เพราะรู้ดีว่าพระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทุกคน และอยากให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
ด้าน Mr.Lars Backstrom เอกอัครราชทูตประเทศฟินแลนด์ประจำประเทศไทย ได้เดินทางมาลงนามถวายพระพรและทูลเกล้าฯ ถวายกระเช้าดอกไม้สด พร้อมกล่าวว่า ในนามของประชาชนชาวฟินแลนด์ ขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ทั้งนี้ตนเองรู้สึกซาบซึ้งที่เห็นประชาชนชาวไทยพร้อมใจกันมาถวายพระพร
ขณะที่ Mrs. Fola. V. Aiyedun จากสถานทูตไนจีเรียประจำประเทศไทย ได้ลงนามถวายพระพรว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนไนจีเรีย ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหายป่วยในเร็ววัน
ต่อมา ฯพณฯ โลรองต์ บีลี เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส เดินทางมาลงนามถวายพระพร และทูลเกล้าฯแถวายแจกันดอกไม้สด แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และปิดท้ายที่ นายดนัย อุดมโชค นักเทนนิสขวัญใจชาวไทย ที่กล่าวว่า อยากเป็นส่วนหนึ่งในการลงนามถวายพระพร ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของชาวไทยไปนานๆ ขอให้พระองค์หายจากการประชวรโดยเร็ว ทั้งนี้ ตนจะเดินทางไปแข่งขันเทนนิส ในรายการซัมซุง ซีคิวตี้ส์ คัพ ที่ประเทศเกาหลี ระหว่างวันที่ 22-28 ต.ค.จึงมาขอพรจากพระองค์ท่าน และตั้งใจว่าการเดินทางไปแข่งขันคราวนี้ จะทำเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และไปรักษาแชมป์เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์-ส้ม-ข้าวกล่อง
สำหรับบรรยากาศการลงนามถวายพระพรในช่วงบ่าย ยังคงคับคั่งไปด้วยบุคคลสำคัญ ดารานักร้อง นักแสดง และประชาชนเดินทางมาร่วมถวายพระพรจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม มีการชุลมุนเกิดขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากประชาชนที่มาเฝ้าฟังพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่างวิ่งกรูเข้ามายังจุดลงนามถวายพระพรเพื่อรับแจกพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ นายบรรพต โรจน์รุ่งสัตย์ เจ้าของร้านชัดโปสเตอร์นำมาแจก โดยพระบรมฉายาลักษณ์ดังกล่าวเป็นภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 โดยมีพระบรมฉายาลักษณ์ 13 แบบ ประกอบด้วยขนาดโปสเตอร์ 10,000 ใบ และขนาดเอ 4 จำนวน 8,000 ใบ รวมทั้งสิ้น 18,000 ใบ
ทั้งนี้ นายบรรพต ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชน
ต่อมา นายดิษธร วัชโรทัย ผู้อำนวยการกองงานส่วนพระองค์และรองประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ได้นำพระบรมฉายาลักษณ์ฉลองพระองค์สูทสีฟ้า ขนาดเอ 4 ปักตรามูลนิธิฯ มามอบให้แก่ประชาชนที่มาลงนามถวายพระพร ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก โดยมีประชาชนบางรายวิงวอนขอเจ้าหน้าที่มากกว่า 1 ใบ เพราะต้องการนำไปฝากญาติพี่น้อง และจะนำไปใส่กรอบติดไว้ที่บ้าน
สำหรับบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงเดินทางมาลงนามในช่วงบ่าย ได้แก่ ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย,กลุ่มธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่,ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,วิทยาลัยนอร์ธกรุงเทพ,บริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ,นายอดิศร เกียรติโชควิวัฒน์,คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต,พล.ต.ต.อรรถกฤษณะ ธารีฉัตร,พล.ต.ท. สถาพร ดวงแก้ว,สมาคมตลกแห่งประเทศไทย นำโดยนายถั่วแระ เชิญยิ้ม
ต่อมา เวลาประมาณ 15.40 น. นายเหงียน ยูย ฮืง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เดินทางลงนามถวายพระพรและทูลเกล้าฯถวายกระเช้าดอกไม้สด แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เอกอัคราชทูตเวียดนาม กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ได้รับความนับถืออย่างสูงจากประชาชนชาวไทยและทั่วโลก โดยหนึ่งในนั้น ก็มีชาวเวียดนามร่วมอยู่ด้วย และภายใต้พระบารมีที่พระองค์ทรงครองราชย์ 60 ปี พระองค์ได้ปกครองประเทศให้พสกนิกรชาวไทยอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข และภายใต้พระบารมี ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทย ได้พัฒนารุดหน้าไปมาก ทั้งนี้ เมื่อทราบว่า พระองค์ประชวร ในนามราษฎรชาวเวียดนาม ขอถวายพระพรขอให้พระองค์ มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง และหายเป็นปกติโดยเร็ว และขอให้ประชาชนชาวไทยภายใต้พระบารมีของพระองค์ มีแต่ความสุขเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังนำส้มจำนวน 40 ลังมาแจกให้กับประชาชนด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังนำข้าวกล่องจำนวน 600 กล่อง ซึ่งหลวงปู่บุญญฤทธิ์ได้ทูลเกล้าฯ ถวาย มอบให้กับประชาชน ณ ลานด้านหน้าพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดยมีเมนูเป็นข้าวผัดไข่ดาว