ผู้จัดการรายวัน – ไพโอเนียร์กัดฟันสู้พิษเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง หวังไปถึงฝัน 2,000 ล้านบาท จาก 1,600 ล้านบาทในปีก่อน เชื่อการใช้เงินช่วงปลายปี บวกสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังดีขึ้นช่วยได้มาก พร้อมตบเท้าส่งขบวนพลาสม่า ทีวี ระดับไฮเอนด์ อีก 4 โมเดล หัวหอกดันรายได้ให้ขยับเพิ่มอีกแรง ขณะที่ 6 เดือนแรก ปั่นรายได้ได้เพียง 800 ล้านบาท เท่าปีที่ผ่านมา
นายซาโตรุ คุโรซากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา (เม.ย. 50 - ก.ย. 50) บริษัทฯทำได้เพียง 800 ล้านบาท เท่าปีกับที่ผ่านมา ส่งผลให้ครึ่งปีหลัง บริษัทฯจะต้องทำตลาดหนักมากขึ้น เพื่อให้รายได้รวมเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ประมาณ 1,800-2,000 ล้านบาท จากเดิมในปีที่ผ่านมามีรายได้รวมอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าจากปัจจัยบวก 2 ประการในครึ่งปีหลัง ซึ่งได้แก่ พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี และสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังดีขึ้น จะช่วยให้บริษัทฯมีรายได้ตามเป้า
นอกจากนี้บริษัทฯจะเน้นการเปิดตัวสินค้าใหม่ร่วมด้วย ล่าสุดได้เปิดตัวพลาสม่าทีวี ระดับไฮเอนด์ รุ่นคูโร (KURO) จำนวน 4 โมเดล แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.HD Ready ขนาด 42 นิ้ว และ 50 นิ้ว ราคาจำหน่าย 119,900 บาท และ 179,900 บาท ตามลำดับ และ2.Full HD ขนาด 50 นิ้ว และ 60 นิ้ว ซึ่งยังไม่ได้กำหนดราคาไว้ในขณะนี้ ภายใต้งบการตลาดรวม 50 ล้านบาท ที่จะใช้สำหรับทำตลาดสินค้าเอวีและเครื่องเสียงในกลุ่มแยกชิ้นได้ตลอดปีงบประมาณ 2550/2551
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า พลาสม่าทีวีคูโร จะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์ที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์จอภาพคุณภาพสูงได้เป็นอย่างดี หรือมียอดขายในปีแรกไม่ต่ำกว่า 2,000 เครื่อง จากปกติในแต่ละเดือนบริษัทฯมียอดขายพลาสม่าทีวีอยู่ที่ 100-150 เครื่อง ซึ่งปีนี้บริษัทฯได้มีการปรับราคาสินค้าตามกลไกของตลาดให้ลดลงด้วย เช่น พลาสม่าทีวี ขนาด 42 นิ้ว ประเภท HD Ready ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา จากเดิมราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1.3 แสนบาท ขณะนี้เหลือเพียง 1 แสนบาท
อย่างไรก็ตามบริษัทฯเชื่อมั่นว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสม่าทีวี จะสร้างรายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% จากรายได้รวมทั้งหมด ขณะที่รายได้หลักของบริษัทฯ มาจากสินค้า 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.เครื่องเสียงบ้าน 50% และ2.เครื่องเสียงรถยนต์ 50% โดยพลาสม่าทีวี จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องเสียงบ้าน
นายซาโตรุ กล่าวเพิ่มเติมว่า มูลค่าตลาดรวมพลาสม่าทีวีปีนี้ คาดว่าจะโตขึ้นอีก 20% หรือประมาณ 3.5 – 4 หมื่นเครื่อง ซึ่งในตลาดนี้มีสินค้าระดับพรีเมี่ยมอยู่เพียง 5-10% เท่านั้น ซึ่งไพโอเนียร์เป็นผู้นำในกลุ่มพรีเมี่ยมนี้ด้วย ขณะที่ 8 เดือนที่ผ่านมา ตลาดพลาสม่าทีวีเติบโตขึ้น 20% คิดเป็นมูลค่า 18,000 ล้านบาท เทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นายซาโตรุ คุโรซากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา (เม.ย. 50 - ก.ย. 50) บริษัทฯทำได้เพียง 800 ล้านบาท เท่าปีกับที่ผ่านมา ส่งผลให้ครึ่งปีหลัง บริษัทฯจะต้องทำตลาดหนักมากขึ้น เพื่อให้รายได้รวมเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ประมาณ 1,800-2,000 ล้านบาท จากเดิมในปีที่ผ่านมามีรายได้รวมอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าจากปัจจัยบวก 2 ประการในครึ่งปีหลัง ซึ่งได้แก่ พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี และสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังดีขึ้น จะช่วยให้บริษัทฯมีรายได้ตามเป้า
นอกจากนี้บริษัทฯจะเน้นการเปิดตัวสินค้าใหม่ร่วมด้วย ล่าสุดได้เปิดตัวพลาสม่าทีวี ระดับไฮเอนด์ รุ่นคูโร (KURO) จำนวน 4 โมเดล แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.HD Ready ขนาด 42 นิ้ว และ 50 นิ้ว ราคาจำหน่าย 119,900 บาท และ 179,900 บาท ตามลำดับ และ2.Full HD ขนาด 50 นิ้ว และ 60 นิ้ว ซึ่งยังไม่ได้กำหนดราคาไว้ในขณะนี้ ภายใต้งบการตลาดรวม 50 ล้านบาท ที่จะใช้สำหรับทำตลาดสินค้าเอวีและเครื่องเสียงในกลุ่มแยกชิ้นได้ตลอดปีงบประมาณ 2550/2551
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า พลาสม่าทีวีคูโร จะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์ที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์จอภาพคุณภาพสูงได้เป็นอย่างดี หรือมียอดขายในปีแรกไม่ต่ำกว่า 2,000 เครื่อง จากปกติในแต่ละเดือนบริษัทฯมียอดขายพลาสม่าทีวีอยู่ที่ 100-150 เครื่อง ซึ่งปีนี้บริษัทฯได้มีการปรับราคาสินค้าตามกลไกของตลาดให้ลดลงด้วย เช่น พลาสม่าทีวี ขนาด 42 นิ้ว ประเภท HD Ready ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา จากเดิมราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1.3 แสนบาท ขณะนี้เหลือเพียง 1 แสนบาท
อย่างไรก็ตามบริษัทฯเชื่อมั่นว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสม่าทีวี จะสร้างรายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% จากรายได้รวมทั้งหมด ขณะที่รายได้หลักของบริษัทฯ มาจากสินค้า 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.เครื่องเสียงบ้าน 50% และ2.เครื่องเสียงรถยนต์ 50% โดยพลาสม่าทีวี จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องเสียงบ้าน
นายซาโตรุ กล่าวเพิ่มเติมว่า มูลค่าตลาดรวมพลาสม่าทีวีปีนี้ คาดว่าจะโตขึ้นอีก 20% หรือประมาณ 3.5 – 4 หมื่นเครื่อง ซึ่งในตลาดนี้มีสินค้าระดับพรีเมี่ยมอยู่เพียง 5-10% เท่านั้น ซึ่งไพโอเนียร์เป็นผู้นำในกลุ่มพรีเมี่ยมนี้ด้วย ขณะที่ 8 เดือนที่ผ่านมา ตลาดพลาสม่าทีวีเติบโตขึ้น 20% คิดเป็นมูลค่า 18,000 ล้านบาท เทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน