xs
xsm
sm
md
lg

‘เสนาะ’ยอมขอโทษ‘ประชัย’เทียบอนุบาลการเมือง-มัชฌิมาซัดคนแก่เจ้าอารมย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เสนาะ” ขอโทษ “ประชัย พลั้งปากเทียบเป็นเด็กอนุบาลทางการเมือง เผยเหตุขัดแย้งเรื่องพัฒนาแหล่งน้ำที่แตกต่างกัน ด้านเด็ก “ป๋าเหนาะ” ไล่ส่งระบุ “ประชัย-มัชฌิมา” ลาออกจะเป็นผลดีต่อการทำงานการเมืองตามนโยบายได้ดีขึ้น ด้าน ด้านลิ้วล้อ “มัชฌิมา” อ้างทิ้งประชาราชเพราะชาวบ้านไม่เอา “เสนาะ” บอกเป็นแค่คนแก่เจ้าอารมย์ ยันหนุน “ประชัย” นั่งหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ปชป.เตรียมลุยขอนแก่น จัดงาน ปชป.คืนถิ่นอีสาน จี้รัฐบาลเร่งยกเลิกกฎอัยการศึก อดีตที่ปรึกษานายกฯยุค “ป๋าเปรม” ตั้งพรรคเสียงประชาชน

นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวระหว่างพบปะประชาชนชาวจ.ขอนแก่น วานนี้ (7 ต.ค.) กล่าวถึงการวิจารณ์ประสบการณ์ทางการเมือง ของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตประธานคณะผู้บริหารพรรคประชาราช เทียบเท่าชั้นอนุบาลว่า เป็นความพลั้งปากของตนที่ไปเปรียบเทียบกับเรื่องการศึกษา ความจริง นายประชัย เก่งทุกเรื่อง ซึ่งต้องขอโทษด้วย และไม่มีปัญหาคาใจกับนายประชัยแล้ว ส่วนความเห็นที่ไม่ตรงกันกับนายประชัย ในเรื่องนโยบายนั้นคือ เรื่องพัฒนาแหล่งน้ำ ที่นายประชัย ต้องการให้ขุดบ่อน้ำ 19 ล้านบ่อ แต่ตนเห็นว่า ควรพัฒนาระบบชลประทานเดิมให้มีประสิทธิภาพ สำหรับจำนวน ส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสานที่คาดหวังไว้ประเมินไม่ได้ เพราะการเมืองยังไม่นิ่ง
นายสุชาติ บรรดาศักดิ์ สมาชิกพรรคประชาราช คนใกล้ชิดนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่าการแยกตัวออกไปของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตประธานคณะผู้บริหารพรรคประชาราช และอดีตสมาชิกพรรค ในกลุ่มมัชฌิมา จะไม่ส่งผลกระทบต่อพลังทางการเมืองของพรรคอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันจะเป็นผลดี ทำให้พรรคสามารถดำเนินนโยบายทางการเมือง ตามจุดยืน ของพรรคได้อย่างไม่มีเงื่อนไข ส่วนในอนาคตจะรวมกับพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาหรือไม่ยังบอกไม่ได้ แต่วันนี้พรรคยังคงเดินหน้าต่อไป
นายสุชาติ กล่าวว่า นายเสนาะ พร้องแกนนำพรรคได้เดินทางไปจังหวัดมหาสารคามและขอนแก่น เพื่อพบปะสมาชิกพรรค และวันนี้(8 ต.ค.)นายเสนาะและแกนนำพรรค จะเปิดแถลงข่าวแสดงจุดยืนทางการเมืองของพรรคอีกครั้งเวลา 10.00 น.ณ ที่ทำการพรรค
นายธนชาติ ไชยทองพันธ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สกลนครกลุ่มมัชฌิมา กล่าวว่า จากการหารือกลุ่มมัชฌิมา จ.สกลนครทั้ง 8 คนมีมติลาออกจากพรรคประชาราช เนื่องจากรับไม่ได้กับการนำพาพรรคของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช และตามที่ได้พบปะชาวบ้านต่างส่ายหน้า บอกไม่เอานายเสนาะที่ทำงานการเมือง แบบโบราณ ที่ผ่านมานายเสนาะไม่เคยมีผลงานให้กับบ้านเมืองอ้างแต่ว่าปั้นนายกรัฐมนตรีมาหลายคน ซึ่งความเป็นจริงนายกรัฐมนตรีเป็นคนปั้นนายเสนาะมากกว่า ผลงานที่โดดเด่นของนายเสนาะที่ชาวบ้านรับรู้ก็คือสนามกอล์ฟที่วัด
“วันนี้นายเสนาะเป็นเพียงคนแก่เจ้าอารมณ์คนหนึ่งแล้วจะอาสามานำพาประเทศชาติบ้านเมืองได้อย่างไร ขณะที่บ้านเมืองต้องการคนดีมีความรู้ความสามารถ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาราชครั้งนี้นายเสนาะไม่ควรตีโพยตีพายกล่าวโทษ คนอื่นแต่ควรจะดูที่ตัวเองก่อน” นายธนชาติ กล่าว
นายธนชาติกล่าวว่า กลุ่มมัชฌิมาสกลนครพร้อมสนับสนุนนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เป็นหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตยที่กลุ่มจะไปเข้าสังกัดใหม่ เพราะว่ามีความรู้ ความสามารถโดดเด่นเทียบกับหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นได้ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้โพลในพื้นที่ยังพบว่านายประชัยชาวบ้านรับได้ อยากได้คนมีความสามารถ ด้านเศรษฐกิจเข้ามาแก้ไขปัญหาความเดือร้อน

ปชป.จี้รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึก
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ คาดว่าพรรคจะเปิดตัวผู้สมัครอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ หลังจากหลังจากที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ และมีการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งแล้ว และ
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ โดยมั่นใจว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ที่นั่ง ส.ส.เพิ่มจากครั้งที่ผ่านมา โดยพื้นที่ภาคกลาง คาดว่า จะได้ที่นั่ง ส.ส.เพิ่มจาก 8 ที่นั่ง เป็น 40 ที่นั่ง ภาคตะวันออก คาดว่าจะได้10 ที่นั่ง ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ได้ที่นั่งเพิ่ม เนื่องจากพรรคจะส่งผู้สมัครที่เคยได้คะแนนอันดับรองจากผู้ที่ชนะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีระดับคะแนนไม่แตกต่างกันมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่าในภาคกลาง จะมีปัญหาเรื่องการส่งผู้สมัครทับซ้อนกับพรรคชาติไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรกันหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า สำหรับปัญหาทับซ้อนกับพรรคพันธมิตรนั้น ขึ้นอยู่กับผู้สมัคร แต่ความสัมพันธ์กับพรรคพันธมิตรจะหลีกเลี่ยงเฉพาะพื้นที่ของหัวหน้าพรรคเท่านั้น ส่วนจังหวัดอื่นๆจะมีการแข่งขันกันตามปกติ ทั้งนี้ การปราศรัยหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์นั้น จะเริ่มทำหลังจากที่ได้หมายเลขผู้สมัคร อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าในบางพื้นที่ เช่น ภาคอีสาน จะไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งกวาดที่นั่ง ส.ส.ทั้งหมด
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายจอน อึ้งภากรณ์ อดีต ส.ว.กทม. ระบุว่าที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำอะไรเพื่อประชาชน ว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำอะไรเพื่อประชาชน ก็คงอยู่มาถึงทุกวันนี้ไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ได้ริเริ่มทำโครงการสำคัญ เช่น กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา แต่ก็ไม่เคยพูดโอ้อวด เหมือนพรรคอื่นทำ เพราะถือว่าโครงการต่างๆมาจากเงินภาษีของประชาชน
“ที่คุณจอนบอกว่าไม่มีโครงการช่วยเหลือคนจนนั้น ผมเข้าใจว่าคุณจอน เป็นคนมีอันจะกิน จึงเข้าไม่ถึงข้อมูลที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำให้กับคนจนเหล่านั้น”
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาลหารือเพื่อยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ 35 จังหวัด ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมายืนยันกำหนดวันเลือกตั้ง 23 ธันวาคม ทั้งนี้การยกเลิกประกาศกฎอัยการศึกจะทำให้บรรยากาศ การแข่งขันและการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสมบูรณ์

ลุยอีสาน12-13ตุลาคมนี้
ด้าน นายวิฑูรย์ นามบุตร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันที่ 8 ตุลาคม พรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุม เพื่อกำหนดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยการประชุมจะมีการเสนอรายชื่อ ว่าที่ผู้สมัคร เพื่อกลั่นกรองผู้สมัครที่มีชื่อเสียงและความพร้อมที่สุด
นายวิฑูรย์ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสานพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคเตรียมดำเนินโครงการ ปชป. คืนสู่อีสาน ระหว่างวันที่ 12-13 ตุลาคมนี้ ที่จังหวัดขอนแก่น โดยจะจัดกิจกรรม เพื่อรวบรวมความคิดเห็นของภาคประชาชน องค์กรท้องถิ่น เพื่อนำมาปรับปรุงเป็นนโยบายประชาชนของพรรค ซึ่งวันดังกล่าว จะมีงานทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้บรรพชนผู้ร่วมก่อตั้งพรรคและทำพิธีบายศรีสู่ขวัญจากผู้อาวุโส
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์มีผู้ก่อตั้งพรรคเป็น ส.ส.จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ช่วงที่ผ่านมา พรรคมีจำนวน ส.ส.น้อยมาก พรรคเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคจะได้จำนวน ส.ส.ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมการเลือกตั้งในครั้งนี้ ทุกพรรคจะมีโอกาสได้ที่นั่ง ส.ส.ในภาคอีสานเท่าเทียมกัน โดยจะไม่มีลักษณะพรรคคุมเสียงข้างมากในภาคอีสานเหมือนที่ผ่านมา

อดีตที่ปรึกษา“ป๋าเปรม”ตั้งพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก โรงแรมรามาการ์เด้นส์ว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (7 ต.ค.) พรรคเสียงประชาชน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่ได้เปิดตัวกรรมการบริหารพรรค 18 คน รวมถึงผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรคและนโยบายของพรรค โดยมีนายกำจร เชาวน์รัตน์ หัวหน้าพรรคเสียงประชาชน เป็นประธาน ซึ่งนายกำจร เป็นอดีต ส.ว. ที่ได้รับการแต่งตั้ง และเคยเป็นที่ปรึกษา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขณะที่ พล.อ.ชัย สุวรรณภาพ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด สมัยที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ได้มาร่วมงานในวันนี้และจะทำงานทางการเมืองกับพรรคเสียงประชาชนด้วย
นายกำจร ให้สัมภาษณ์ โดยยืนยันว่า พรรคเสียงประชาชน ไม่ใช่พรรคธุรกิจการเมือง และพร้อมเสนอตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมั่นใจว่า พรรคเสียงประชาชนจะได้ที่นั่ง ส.ส. อย่างน้อย 50 ที่นั่ง จากการที่พรรคจะส่งผู้สมัครลงทั่วประเทศ โดยจะเน้นพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน เพราะเคยทำงานในพื้นที่ดังกล่าวมาหลายปี ทั้งนี้ จะชูประเด็นความใจซื่อ มือสะอาด เป็นตัวหลักในการหาเสียง
นายกำจร กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่าประชาชนไม่ได้ “โง่” แต่ที่ผ่านมาถูกชี้นำ ในทางที่ผิด และวันนี้ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ ซึ่งพรรคเสียงประชาชน เปรียบเสมือนน้ำใหม่ ที่เข้ามาในเส้นทางการเมือง โดยมั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ จึงเสนอตัวเข้ามา


“สุวัจน์”ชูนโยบายแก้หนี้-ราคาพืชผลตก
ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า ยังไม่ทราบถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งพรรค ทราบแต่ว่า กกต.รับจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองเรียบร้อยไปแล้วย
ส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้งของ จ.นครราชสีมา ซึ่งทาง กกต.เตรียมไว้ 5 รูปแบบ จะมีรูปแบบไหนที่เหมาะสมบ้างนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนทราบว่าทาง กกต.นครราชสีมา จะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ความคิดเห็นในวันที่ 8 ต.ค. ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดฯ เพื่อที่ กกต.จะรับฟังความคิดเห็น เพื่อพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมที่สุด สำหรับตนคิดว่าหลักเกณฑ์ต่างๆคงจะเป็นหลักเกณฑ์ที่ได้รับการยอมรับ เรื่องนี้ถ้าทุกฝ่ายยอมรับในกติกา ยอมรับหลักเกณฑ์แล้ว ต่อไปการแข่งขันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มของนายวิรัช รัตนเศรษฐ และกลุ่มของนางจินดา เชิดขัย เข้าสังกัดพรรคพลังประชาชนจะมีการดึงเข้ามาร่วมกับพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ยังกล่าวถึงความแตกแยก ในพรรคประชาราชว่า ตนอยากเห็นพรรคการเมืองตอนนี้ได้นิ่ง ตราบใดที่ยังไม่นิ่งถ้ายังมีความเคลื่อนไหว อาจจะทำให้พี่น้องประชาชนสับสน ฉะนั้น ตอนนี้ถ้าสถานการณ์ต่างๆ ของพรรคที่กำลังจะเกิดใหม่ นิ่ง และเรียบร้อย จะเป็นเรื่องที่ดี พี่น้องประชาชนจะไม่สับสน จะได้คิดกันว่าจะเลือกใคร พรรคไหน
สำหรับนโยบายพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่จะนำเสนอต่อประชาชน โดยเฉพาะชาวภาคอีสานนั้นพรรคกำลังเตรียมอยู่ แต่ส่วนตัวเห็นว่า สิ่งที่ชาวอีสานประสบมาตลอดคือราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ปัญหาแหล่งน้ำ ปัญหาหนี้สินและความด้อยโอกาสในสังคม สิ่งเหล่านี้ต้องแก้ไขและทำเป็นนโยบายพรรค เพราะถ้าพรรคไหนแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนอีสานในเรื่องเหล่านี้ ก็จะชนะการเลือกตั้ง

ห่วงประชาชนสับสนทางการเมือง
ส่วนสถานการณ์การเมืองจากนี้ถึงวันเลือกตั้งนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในภาพรวม ตนเป็นห่วงอยู่ 2 อย่าง คือความสับสนทางการเมืองของพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งตนอยากเห็นพรรคการเมืองต่างๆ ลงตัวโดยเร็วเพื่อลดความสับสนและทำให้ประชาชนเห็นภาพชัดเจนจะได้มีการตัดสินใจทางการเมืองที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ และอยากเห็นการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรมโดยเฉพาะไม่อยากเห็นการซื้อเสียงเกิดขึ้นอีก
“ขอให้พรรคการเมืองต่างๆช่วยกันรักษาสิ่งนี้เอาไว้ดูแลคนของตนเองให้ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ประชาชนมีความศรัทธาต่อระบบการเลือกตั้งเพราะถ้าการเมืองไม่สามารถเรียกศรัทธาจากประชาชนได้ประเทศชาติก็ล้มเหลว ประชาชนไม่ยอมรับบทบาทของพรรคการเมืองถึงแม้จะผ่านการเลือกตั้งมาแล้วและเข้าไปเป็นรัฐบาลประชาชนก็ไม่ยอมรับเพราะขาด ความชอบธรรมแล้วตั้งแต่จุดเริ่มต้น ฉะนั้นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรมเท่านั้นจึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้”

“หญิงหน่อย”ชี้รธน.ทำอดีตส.ส.ย้ายพรรค
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ถ้ายิ่งมีการเลือกตั้งเร็วเท่าไหร่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและต่อประเทศชาติมาก ซึ่งนายกรัฐมนตี และ กกต.ก็ได้ประชุมร่วมกันและแสดงความพร้อมแล้วว่าในวันที่ 23 ธ.ค.มีความเหมาะสมที่จะจัดการเลือกตั้ง จึงไม่ควรที่จะมีความพยายามที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพราะผลที่ตามมาคือนานาประเทศที่มองประเทศไทยในการคืนสู่ประชาธิปไตยจะไม่เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวถึงการย้ายพรรคของอดีต ส.ส.ในพรรคการเมืองต่างๆ ขณะนี้ว่าเป็นเพราะการตั้งใจเขียนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้เกิดความปั่นป่วนทางการเมืองให้มากที่สุดอยู่แล้ว มีการตั้งใจและเจตนาให้มีการย้ายไปย้ายมา ของอดีต ส.ส. แต่ความที่เป็นนักการเมืองถ้าไม่มีจุดยืนและแสดงการไม่มีจุดยืน ไม่ยึดมั่นในคำพูด ประชาชนที่ทราบก็จะไม่สนับสนุนนักการเมืองผู้นั้น
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวสนับสนุนรัฐบาลและ กกต.ที่จะจัดวาระแห่งชาติในการรณรงค์เลือกตั้งให้บริสุทธ์ ยุติธรรม ทั้งเรื่องการใช้อำนาจรัฐ การซื้อเสียง การใช้สิ่งที่ไม่ถูกต้องทั้งหลายอย่างเด็ดขาด และการที่พล.อ.สุรยุทธ์ นั่งควบตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ก็ยิ่งมั่นใจว่าจะจัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ ไม่มีการใช้อำนาจที่เอื้อประโยชน์กับพรรคใดพรรคหนึ่ง

ควม.โว12ต.ค.มีบิ๊กเซอร์ไพร์
ด้านนายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคพรรคความหวังใหม่ แถลงว่า พรรคจะจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันที่ 12 ต.ค.นี้โรงแรมริมปาว เขตเทศบาลเมือง กาฬสินธุ์ โดยการประชุมครั้งนี้จะมีการแถลงนโยบายและเปิดกระบวนการ ทางการเมือง การสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ ที่มีความคิดและมีอุดมการณ์ในทางเดียวกัน โดยปราศจากระบบกลุ่มนายทุน ที่จะแตกต่างจากพรรคการเมืองที่มีการเปิดตัว ที่ยัง เป็นระบบการเมืองล้าหลังรูปแบบเดิม เพราะการเคลื่อนไหวนั้นเป็นการสร้างภาพและการระดมทุนให้กับนักเลือกตั้ง ที่จะหวังเพียงการเข้ามาเป็น ส .ส.ให้กับนายทุนเพียงไม่กี่คน ยังคงภาพเจรจาในเรื่องผลประโยชน์จะเห็นได้จากการแตกหักของพรรคประชาราช ที่มีนายเสนาะ เทียนทอง เป็นหัวหน้าพรรค กับการหาหัวหน้าพรรคการเมืองที่ต้องการเพียงการใช้เงินในการเลือกตั้งเท่านั้น
“แนวทางของพรรคความหวังใหม่ ด้านนโยบายที่จะมีการประกาศอย่างชัดเจนในวันที่ 12 ตุลาคม โดยพรรคความหวังใหม่ จะขอเป็นพรรคที่จะน้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาปรับใช้ ควบคู่ไปกับการสร้างคุณธรรมทางความคิด ด้วยสังคมอุดมการณ์ ที่จะเป็นการหันหลังในกับระบบของนักเลือกตั้ง”
นายชิงชัย กล่าวว่า หลังจากแถลงนโยบาย พรรคจะเปิดเวทีให้ สมาชิกพรรค ที่เข้าร่วมงาน ได้มีเวทีในการเสวนาปัญหาประเทศไทย เมื่อตกผลึกก็จะนำเอามาเป็น แนวทางในการทำงานของพรรค นอกจากนี้ก็จะมีการเปิดตัว ผู้สมัคร ส .ส. รวมไปถึง บิ๊กเซอร์ไพซ์ โดยเฉพาะบุคลากรสำคัญที่เชื่อว่า จะทำให้ประชาชนหันมาสนใจและร่วมกันเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยให้มีคุณมากยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น