xs
xsm
sm
md
lg

ใช้คะแนนสอบแลกเสียงทุจริตเลือกตั้งแบบใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วอร์รูมรัฐบาล แฉอีสานเริ่มเปิดศักราชโงก ใช้วิธีใหม่ทุจริตเลือกตั้ง ใช้คะแนนสอบแลกคะแนนเสียง ขณะที่ผู้นำท้องถิ่นซื้อเสียงล่วงหน้านำชาวบ้านทัวร์ต่างประเทศ ด้าน “อภิสิทธิ์” ดีใจรัฐบาลเอาจริงปราบทุจริตเลือกตั้ง กำชับลูกทีมดูกม.เลือกตั้งให้ดี ส่วนพลังประชาชนขายฝันสร้างความสุขให้คนกรุง รถไฟฟ้า 10 สายค่าตั๋ว 15 บาท

นายประสาร มฤคพิทักษ์ ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ในประเทศ (ศปชท.) ในคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก(วอร์รูม) เปิดเผยวานนี้ (5 ต.ค.) ว่า จากการเดินสายจัดการเสวนาพบปะเครือข่ายภาคประชาชน คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในภาคอีสาน เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อเสียงเลือกตั้งว่า นอกจากการซื้อเสียงผ่านบัตรเอทีเอ็มแล้ว ที่จ.นครราชสีมา ได้รับรายงานว่า มีผู้อำนวยการ ครูใหญ่ในโรงเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาได้รับติดต่อให้ครูในโรงเรียนนำคะแนนสอบเป็นเครื่องมือต่อรองกับนักเรียนเพื่อแปรเป็นคะแนนเสียง โดยบอกให้ผู้ปกครองเลือกพรรคไหนเด็กถึงจะได้คะแนนสอบดีๆ ตนได้รับรายงานจากครูในหลายโรงเรียน

นายประสาร กล่าวว่า ครูในหลายโรงเรียนทนไม่ได้ที่พรรคการเมืองหิวโหยคะแนนเสียงจนต้องทำแบบนี้ ขณะนี้นักการเมืองในภาคอีสานหลายแห่งจัดทัวร์ฟรี เพื่อพาผู้นำองค์กรส่วนท้องถิ่น เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต., อบจ. , อสม. ไปเที่ยวต่างประเทศแถบอินเดีย จีน และเมื่อไม่กี่วันมานี้พากันไปเวียดนาม นี่ถือว่า เป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าที่ยังไม่ผิดกฎหมาย เพราะยังไม่มีการประกาศกฤษฎีกาการเลือกตั้ง

นายประสาร กล่าวว่า รัฐบาลประกาศให้การป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งเป็นวาระแห่งชาติ ถือเป็นทิศทางที่สำคัญที่จะต้องปฏิบัติอย่างจริงจังของ กกต. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มิเช่นนั้นรัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงประชามติก็จะสูญเปล่า

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีระบุว่ามีการหาเสียงรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้ให้เงินโดยตรง แต่เป็นการให้บัตรเอทีเอ็มว่า ยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ แต่ถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีการตื่นตัวและพยายามติดตามว่ารูปแบบการทุจริตการเลือกตั้งมีการพัฒนาไปในทางไหน และสิ่งที่ตนย้ำมาโดยตลอดคืออยากให้รัฐบาลและกกต.ยื่นมือเข้าไปหาภาคประชาชนให้มาก เพื่อช่วยกันทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม ทั้งนี้เห็นว่านายกรัฐมนตรีแสดงความมั่นคงแน่วแน่ในการทำให้การเลือกตั้งเที่ยงธรรมอย่างแท้จริง

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงการคัดเลือกตัวผู้สมัครส.ส.ในนามพรรคว่าต้องรอการแบ่งเขตเลือกตั้งให้ชัดเจนก่อน โดยต้องรอกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ เพราะไม่อยากให้มีปัญหาว่าอนุมัติผู้สมัครแล้วเขตเลือกตั้งเปลี่ยนแปลง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยในพิธีประดับเครื่องหมาย ส.ก. และ ส.ข.ของ พรรคประชาธิปัตย์ ตอนหนึ่งว่า การทำหน้าที่ของ ส.ก.และ ส.ข.ในทุกนาทีและทุกย่างก้าว จะต้องตอบแทนสิ่งที่ประชาชนมอบหมายให้ทุกคนเข้ามาทำงาน ขณะที่การดำเนินการของพรรคในทุกระดับ ซึ่งรวมถึงการบริหารภาพรวมของ กทม. ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนกำลังจับจ้องการทำหน้าที่ของเราว่าเป็นอย่างไรแล้วจะสะท้อนกลับมา

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้า ส.ก.และส.ข.ในพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่พึ่งให้ประชาชนไม่ได้ เขาก็คิดว่าผู้ว่าฯกทม.ของพรรคก็พึ่งไม่ได้เช่นกัน และถ้ามีรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ก็คงจะพึ่งไม่ได้ด้วย แต่ในทางกลับกัน ถ้า ส.ก.และส.ข.ของพรรค สามารถดูแลแก้ไขปัญหาด้วยความกระตือรื้อร้นและแสดงออกถึงความสามารถ ในการแก้ปัญหา ประชาชนก็จะเชื่อมั่นผู้ว่าฯกทม.ของพรรคประชาธิปัตย์และไว้วางใจให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ซึ่งตรงนี้สำคัญที่สุด และตนอยากให้ทุกคนตระหนักตลอดเวลา

“ช่วงนี้เป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งพรรคยังไม่ได้อนุมัติคนเลยสักคน เพราะเขตเลือกตั้งก็ยังไม่ทราบว่าแบ่งกันอย่างไร แต่เมื่อเขตเลือกตั้งชัดเจน เราจะได้ตัวผู้สมัครและสามารถทำงานอย่างเป็นระบบได้ ตอนนี้ที่ต้องพูดกับทุกคน เพราะรู้ว่าจะมีแรงกดดันจากการที่บรรดาผู้สมัครจะเดินเข้าหาท่านทั้งหลาย เพราะรู้ว่าท่านอยู่กับมวลชน ความขยันลงพื้นที่เป็นสิ่งที่ดี แต่ขอให้ลงไปโดยยึดถือระบบและองค์กรเป็นหลัก”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ ส.ก.และส.ข.ของพรรคต้องศึกษาข้อกฎหมาย ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะกฎหมายดังกล่าว มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่ถ้าทำอะไรที่ผิดไป ไม่ควรอ้างกฎหมายในอดีต อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วเราจะประสบผลสำเร็จในการเลือกตั้งหรือไม่นั้น อยู่ที่ว่าประชาชนมีความมั่นใจในแนวคิดและความมั่นใจในแนวทางของเรามากน้อยแค่ไหน

วันเดียวกัน นายสมัคร สุนทรเวช ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นประธานจัดสัมมนาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.และนักการเมืองท้องถิ่นของพรรคพลังประชาชน โดยมีการให้ความรู้ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ผู้สมัคร ส.ส.ต้องระวัง และชี้แจงถึงทิศทางของพรรคและนโยบายของพรรคในภาค กทม.ที่จะใช้หาเสียงในการเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนโยบายของพรรคพลังประชาชนที่จะนำมาใช่ ในการหาเสียงในพื้นที่ กทม.นั้นใช้แคมเปญว่า “Healty Bangkok” กรุงเทพฯแข็งแรง 4 ปีแห่งการร่วมสร้างความสุขให้คนกรุงเทพฯ โดยแบ่งเป็น 1.ความสุขของคนกรุงเทพฯ ในการเดินทางที่สะดวกสบายและคล่องตัว โดยจะมีรถไฟฟ้าครอบคลุมทุกพื้นที่ กทม. ฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร 10 เส้นทาง ความยาว 361 กิโลเมตร (ยาวเป็นที่ 3 ของโลก)งบประมาณ 5 แสนล้านบาทเริ่มใช้ได้ใน 3 ปีและสมบูรณ์ใน 6 ปี ค่าโดยสารไม่เกิน 15 บาท ตลอดสายเพิ่มรถเมล์แอร์ ลดค่าโดยสาร และทางด่วนใยแมงมุม รวมทั้งลดค่าทางด่วน

2.ความสุขของเด็กกรุงเทพฯที่จะได้เรียนโรงเรียนดีๆ ใกล้บ้าน 3.ความสุขของ เยาวชนกรุงเทพฯ ที่จะเติบโตในสังคมปลอดภัย ปลอดยาและอบายมุข โดยจะผลักดันให้มีการออก แก้ไขและบังคับใช้กลุ่มกฎหมายต่อต้านอบายมุข อย่างจริงจัง

4. ความสุขของคนกรุงเทพฯจะมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีครอบครัวที่อบอุ่น โดยรณรงค์ให้ทุกวันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว ตามมติ ครม.และภาคเอกชนใดสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมครองครัวอย่างสร้างสรรค์จะไดรับส่วนลดภาษี

5.ความสุขของผู้สูงอายุกรุงเทพฯ ที่จะได้รับการดูแลที่ดีขึ้น โดยสร้างวัฒนธรรมของความกตัญญูรู้คุณ ด้วยภาษีลูกกตัญญู การตรวจสุขภาพฟรีทุกปี สนับสนุนให้มีชมรมผู้สูงอายุ และ 6.ความสุขของกรุงเทพฯที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่ดีขึ้น โดยจะมีการสวนสุขภาพทุกหมู่บ้านและชุมชนทั่วกรุงเทพ 1000 แห่งจะมีสวนลุมเพิ่ม อย่างน้อย 4 แห่งที่บางกะเจ้า ธนบุรี สะพานสูง เป็นต้น ตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อม และสร้างสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นด้วย ็บ้านมั่นคงิ เพื่อความมั่นคงของชีวิตบนที่ดินทำเลเดิม

็สมัครเปิดปราศรัยใหญ่ กทม.แน่

นายสมัคร ให้สัมภาณณ์ว่าพรรคพลังประชาชนจะปราศรัยใหญ่ ในวันที่ 12 ก.ย.ที่ท้องสนามหลวง โดยในวันที่ 6 ต.ค.พรรคจะลงโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ให้ประชาชนได้รับทราบเพราะเห็นว่าบรรยากาศบ้านเมืองขณะนี้ดีแล้วและไม่มีเหตุผลอะไรที่ทาง กทม.จะไม่อนุญาต ส่วนในวันที่18 ต.ค.ตนพร้อมคณะ ก็จะไปปราศรัยที่ จ.เชียงราย คาดว่าไม่น่ามีปัญหา แม้จะเป็นพื้นที่กฎอัยการศึกเพราะเมื่อตอนตนลงไป จ.บุรีรัมย์ แม่ทัพภาคที่2 ก็อนุญาต จึงเชื่อว่าแม่ทัพภาคที่3ก็น่าจะอนุญาต เช่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้ไม่คิดว่าจะมีอะไรทำให้บรรยากาศขุ่นมัว

นายสมัคร กล่าวถึงการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงขึ้นมา ก็ไม่คิดว่า เป็นการสกัดกั้นการหาเสียงของพรรคพลังประชาชน และไม่เชื่อว่าจะสั่งทหารให้ทำอย่างนั้นได้ และคิดว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ คงไม่ยอม เพราะเป็นคำสั่งของ กอ.รมน.ไม่ช้ากฎอัยการศึก ก็คงยกเลิกเพราะการเลือกตั้งก็ต้องเกิดอย่างไร ก็ต้องให้เวลาการทำงานของ ผบ.ทบ.และไม่กังวลที่มีการมองว่าเป็นอำนาจเก่าแล้วจะมาสกัดกั้นเพราะมันไม่มีเหตุผล
กำลังโหลดความคิดเห็น