ตลาดเครื่องเสียงภายในบ้านลดฮวบ17%ปีนี้ “ไพโอเนียร์” เปิดเซกเม้นต์สินค้าใหม่หวังรั้งตำแหน่งผู้นำอีกสมัย ชูคุณสมบัติเสียงสู้คู่แข่งหน้าใหม่อย่าง “ฟิลิปส์” ที่หาญกล้าประกาศท้าชิงเก้าอี้
นายซาโตรุ คุโรซากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คโทรนิคน์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดเครื่องเสียงภายในบ้านมูลค่า 1,500 ล้านบาท พบว่าครึ่งปีที่ผ่านมา ตลาดลดลงถึง 17%ในแง่มูลค่า ส่วนในแง่จำนวน จาก 170,000 เครื่อง เหลือ 160,000 เครื่อง เช่นกัน แม้ในตลาดยังมีหลายๆแบรนด์ให้ความสำคัญกับตลาดนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็น โซนี่ พานาโซนิค เอเจ
อย่างไรก็ตามในปีนี้มีแบรนด์ ฟิลิปส์ อีก 1 แบรนด์ ที่กำลังให้ความสำคัญกับเครื่องใช้ฟ้าภายในบ้านในหมวดเครื่องเสียง โดยเฉพาะโฮมเธียเตอร์ ซึ่งประกาศขอขึ้นเป็นผู้นำหลังจากนี้
ด้านนายซาโตรุ ได้กล่าวถึงคู่แข่งรายใหม่นี้ว่า บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำในกลุ่มเครื่องเสียงประเภทโฮมเธียเตอร์นี้ได้ เนื่องจากเชื่อมั่นในการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างที่คาดว่าจะช่วยต่อยอดเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์ อีกทั้งมองว่า คุณภาพเสียงของไพโอเนียร์ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคยังคงให้การตอบรับที่ดี ขณะที่สินค้าทั่วไปในท้องตลาด มองว่ายังให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเสียงอยู่
ผุด มินิ แมกซ์ รักษาบัลลังก์ โฮมเธียเตอร์
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวเซกเม้นต์เครื่องเสียงภายในบ้านขึ้นมาใหม่ คือ “มินิแมกซ์” โดยได้ดึง ดา เอ็นโดฟิน มาเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย เพื่อช่วยในการทำตลาดสำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายช่วงอายุตั้งต่ 20-25 ปี มีไลฟ์สไตล์ชอบเทคโนโลยี และฟังเพลง ซึ่งมีที่อยู่อาศัยแบบคนเมือง ต้องใช้พื้นที่ที่จำกัด ประเภท คอนโดมิเนียม และอพาทเม้นต์ทั่วไป มั่นใจว่าจะช่วยให้กลุ่มโฮมเธียเตอร์ยังคงเป็นผู้นำตลาดอีกครั้ง จากส่วนแบ่งทางการจาก 20-25% เป็น 30% อีกด้วย
ปัจจุบันตลาดเครื่องเสียงภายในบ้านมูลค่า 1,500 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ไมโคร เธียเตอร์ 40% 2.มินิ เธียเตอร์ 40% และ3.โฮมเธียเตอร์ 20% โดยในปีนี้กลุ่มมินิ เธียเตอร์ เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตลดลง 30-40% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพราะผู้บริโภคมองว่ามีขนาดใหญ่เกินไป จึงมุ่งซื้อสินค้ากลุ่มอื่นทดแทน ขณะที่กลุ่มมินิและโฮมเธียเตอร์ กลับเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นแทน
นายซาโตรุ คุโรซากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ อีเล็คโทรนิคน์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดเครื่องเสียงภายในบ้านมูลค่า 1,500 ล้านบาท พบว่าครึ่งปีที่ผ่านมา ตลาดลดลงถึง 17%ในแง่มูลค่า ส่วนในแง่จำนวน จาก 170,000 เครื่อง เหลือ 160,000 เครื่อง เช่นกัน แม้ในตลาดยังมีหลายๆแบรนด์ให้ความสำคัญกับตลาดนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็น โซนี่ พานาโซนิค เอเจ
อย่างไรก็ตามในปีนี้มีแบรนด์ ฟิลิปส์ อีก 1 แบรนด์ ที่กำลังให้ความสำคัญกับเครื่องใช้ฟ้าภายในบ้านในหมวดเครื่องเสียง โดยเฉพาะโฮมเธียเตอร์ ซึ่งประกาศขอขึ้นเป็นผู้นำหลังจากนี้
ด้านนายซาโตรุ ได้กล่าวถึงคู่แข่งรายใหม่นี้ว่า บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำในกลุ่มเครื่องเสียงประเภทโฮมเธียเตอร์นี้ได้ เนื่องจากเชื่อมั่นในการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างที่คาดว่าจะช่วยต่อยอดเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์ อีกทั้งมองว่า คุณภาพเสียงของไพโอเนียร์ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคยังคงให้การตอบรับที่ดี ขณะที่สินค้าทั่วไปในท้องตลาด มองว่ายังให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเสียงอยู่
ผุด มินิ แมกซ์ รักษาบัลลังก์ โฮมเธียเตอร์
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวเซกเม้นต์เครื่องเสียงภายในบ้านขึ้นมาใหม่ คือ “มินิแมกซ์” โดยได้ดึง ดา เอ็นโดฟิน มาเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย เพื่อช่วยในการทำตลาดสำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายช่วงอายุตั้งต่ 20-25 ปี มีไลฟ์สไตล์ชอบเทคโนโลยี และฟังเพลง ซึ่งมีที่อยู่อาศัยแบบคนเมือง ต้องใช้พื้นที่ที่จำกัด ประเภท คอนโดมิเนียม และอพาทเม้นต์ทั่วไป มั่นใจว่าจะช่วยให้กลุ่มโฮมเธียเตอร์ยังคงเป็นผู้นำตลาดอีกครั้ง จากส่วนแบ่งทางการจาก 20-25% เป็น 30% อีกด้วย
ปัจจุบันตลาดเครื่องเสียงภายในบ้านมูลค่า 1,500 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ไมโคร เธียเตอร์ 40% 2.มินิ เธียเตอร์ 40% และ3.โฮมเธียเตอร์ 20% โดยในปีนี้กลุ่มมินิ เธียเตอร์ เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตลดลง 30-40% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพราะผู้บริโภคมองว่ามีขนาดใหญ่เกินไป จึงมุ่งซื้อสินค้ากลุ่มอื่นทดแทน ขณะที่กลุ่มมินิและโฮมเธียเตอร์ กลับเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นแทน