xs
xsm
sm
md
lg

อคส.ทุ่มหมื่นล.ผุดคอนโด-ศูนย์ธุรกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-“พิสุทธิ์”เปิดแผนสร้างรายได้ให้อคส. เตรียมทุ่มหมื่นล้านพัฒนาพื้นที่เดิมที่เป็นคลังสินค้าที่ราษฎร์บูรณะ ผุดคอนโดมีเนียม และแหล่งรวมธุรกิจบริการ ศูนย์ค้าปลีก คาดทำให้อคส.มีรายได้เพิ่มเป็นปีละ 3,000 ล้านบาท ส่วนข้าวหายที่พิจิตร ได้สั่งย้ายหัวหน้าคลังจ.พิจิตรเข้ากรุ พร้อมตั้งกรรมการสอบแล้ว หากพบมีเอี่ยวเล่นงานหนัก โทษสูงสุดไล่ออก
นายพิสุทธิ์ ชลากรกุล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.ได้จัดทำแผนการพัฒนาองค์กรอคส.ให้สามารถดำเนินธุรกิจและมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ ซึ่งได้มีการนำเสนอโครงการต่อกรรมการบริหารองค์การคลังสินค้า (บอร์ดอคส.) และนางอรนุช โอสถานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้ว และได้รับความชื่มชมจากรมช.พาณิชย์ ซึ่งได้ส่งให้เลขาธิการรมช.ไปศึกษารายละเอียด แต่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากบอร์ด
โดยแผนที่จะดำเนินการนั้น จะพัฒนาคลังสินค้าที่ราษฎร์บูรณะ 2 แห่ง พื้นที่รวม 40 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมริมน้ำ ขนาดความสูง 50 ชั้น จำหน่ายให้ชาวต่างชาติ และแหล่งรวมธุรกิจบริการ เช่น ดีลเลอร์รถยนต์ ค้าปลีก ศูนย์พยาบาล เป็นต้น มูลค่าการลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท ใช้เวลาพัฒนาโครงการ 30 เดือน โดยนำเงินที่ได้ไปลงทุนในการพัฒนาคลังเก็บสินค้าและห้องเย็นขนาดใหญ่ที่มีความทันสมัย และระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ที่จ.ร้อยเอ็ด จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ชลบุรี ซึ่งจะสร้างรายได้ให้อคส.จากปีละไม่ถึง 1,000 ล้านบาท เป็น 3,000 ล้านบาท/ปี
ส่วนการแก้ไขปัญหาข้าวหายที่จ.พิจิตรนั้น นายพิสุทธิ์กล่าวว่า ได้มีคำสั่งย้ายนายกิตติ มโนธรรมกิจ หัวหน้าคลังจ.พิจิตร เข้ามาประจำในส่วนกลาง และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและความผิดทางวินัยกรณีข้าวสูญหายที่จังหวัดพิจิตรให้ได้ผลภายใน 30 วัน แต่คาดว่าจะได้ข้อเท็จจริงภายใน 7-10 วัน ซึ่งจะอ้างอิงการสอบสวนของทางตำรวจส่วนหนึ่งว่ามีเหตุพิสูจน์ได้ว่าเจ้าหน้าที่ของอคส.มีส่วนรวมในการทุจริตหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย โทษสูงสุด คือ ถึงขั้นไล่ออก
“หลังจากที่อคส.ได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มคลังทั่วประเทศ และขอความร่วมมือโกดังต่างๆให้เจาะช่องขนาดเท่าหัวลอดเพื่อส่องดูข้าวในสต๊อก จะติดตามประเมินผลทุกสัปดาห์เพื่อปรับปรุงหรือเพิ่มมาตรการใดๆอีก รวมถึงการโยกย้ายตัวบุคคล หากพบว่าส่วนใดยังมีช่องโหว่หรืออาจเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย” นายพิสุทธิ์ กล่าว
สำหรับกรณีตำรวจพบหลักฐานเพิ่มว่ามีข้าวหายที่จ.พิจิตรเพิ่มอีก 994 ตัน จากเดิม 54,000 กระสอบนั้น เป็นคดีเดิมที่มีการฟ้องทางกฎหมายและอยู่ระหว่างเรียกค่าเสียหาย ไม่เกี่ยวกับข้าวหาย 54,000 กระสอบ (6,200 ตัน) ซึ่งความคืบหน้าข้าวจำนวนนี้ได้คืนแล้ว 30,000 กระสอบ (3,000 ตัน) และอยู่ระหว่างการเช็คน้ำหนักและส่งมอบให้อคส.
นายพิสุทธิ์กล่าวว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น