รพ.สมิติเวช วางหมากก้าวสู่ “ Hospitals Digital” ในอีก 5 ปี ควัก 500 ล้านบาท เปิดตัว “Infotainment” เทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาด้านบริการของโรงพยาบาล 3 แห่ง ชูความครบวงจรด้านการบริการสร้างความต่าง หนีการแข่งขันเทคโนโลยีการรักษาไม่แตกต่างกัน หวั่นพิษเศรษฐกิจกระทบรายได้รวมพลาดเป้าโต 20%
นายเรมอนด์ ฌอง กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงพยาบาลสมิติเวช เปิดเผยว่า นโยบายของโรงพยาบาลสมิติเวชต้องการก้าวเข้าสู่ “ Hospitals Digital” หรือการมีเทคโนโลยีที่เชื่อมโลกทางการแพทย์และสาธารณสุขเข้ากับโลกแห่งการสื่อสารและความบันเทิง ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ ดังนั้นได้ทุ่มงบ 500 ล้านบาท เปิดตัวบริการใหม่ภายใต้ชื่อ “Infotainment” เทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาด้านบริการของโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์และเพลิดเพลินกับรูปแบบความบันเทิง
ทั้งนี้การวางเป้าหมายสู่ “Hospitals Digital” เนื่องจากการปัจจุบันการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านการรักษาแต่ละโรงพยาบาลมีความทัดเทียมกัน ในขณะที่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยทำให้การบริการของโรงพยาบาลมีความครบวงจรมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี ซึ่งในอนาคตทางโรงพยาบาลจะทยอยนำนวัตกรรมใหม่เข้ามาเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมให้สามารถแข่งขันในตลาดสุขภาพระดับสากลได้
สำหรับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้วางติดตั้งโรงพยาบาลสมิติเวช 3 สาขา ได้แก่ สุขุมวิท ศรีนครินทร์ และศรีราชา รวมกว่า 300 จุด โดยสาขานำร่อง คือ ที่ สุขุมวิท ใช้งบในเบื้องต้น 16 ล้านบาท คาดว่าจะติดตั้งระบบดังกล่าว 272 ห้องภายในสิ้นปีนี้ ส่วนอีก 2 สาขา จะเริ่มในต้นปีหน้านี้
ทั้งนี้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ป่วยสามารถใช้บริการนี้ผ่านจอโทรทัศน์ที่ใช้ระบบการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ซึ่งโรงพยาบาลสมิติเวช นับเป็นรายแรกที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำบริการดังกล่าวมาใช้ในโรงพยาบาล
ล่าสุดทางโรงพยาบาลได้เปิดตัวไนท์ คลีนิก หรือบริการรักษาในช่วงเวลากลางคืน เจาะกลุ่มคนไข้ที่ไม่มีเวลารักษาในช่วงกลางวันหรือเกิดอาการป่วยฉุกเฉิน โดยเป็นโมเดลนำร่องในสาขานี้เท่านั้น หากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีวางแผนจะขยายไปยังสาขาอื่นๆ ซึ่งขณะนี้เปิดบริการได้ 1 เดือน มีผู้มาใช้บริการ 10% เท่านั้น
สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกนี้ มีอัตราการเติบโต 16% เป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับรายได้ทั้งปีนี้ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 20% ซึ่งคาดว่าจะไม่เป็นตามเป้าหมาย ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ถดถอย โดยปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าของโรงพยาบาล แบ่งเป็น ต่างประเทศ 37% ส่วนภายในประเทศ 63% อย่างไรก็ตามการก้าวสู่ “ Hospitals Digital” ของโรงพยาบาลสมิติเวช คาดว่าจะเห็นภาพชัดเจนใน 3 ปีนี้
นายเรมอนด์ ฌอง กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงพยาบาลสมิติเวช เปิดเผยว่า นโยบายของโรงพยาบาลสมิติเวชต้องการก้าวเข้าสู่ “ Hospitals Digital” หรือการมีเทคโนโลยีที่เชื่อมโลกทางการแพทย์และสาธารณสุขเข้ากับโลกแห่งการสื่อสารและความบันเทิง ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ ดังนั้นได้ทุ่มงบ 500 ล้านบาท เปิดตัวบริการใหม่ภายใต้ชื่อ “Infotainment” เทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาด้านบริการของโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์และเพลิดเพลินกับรูปแบบความบันเทิง
ทั้งนี้การวางเป้าหมายสู่ “Hospitals Digital” เนื่องจากการปัจจุบันการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านการรักษาแต่ละโรงพยาบาลมีความทัดเทียมกัน ในขณะที่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยทำให้การบริการของโรงพยาบาลมีความครบวงจรมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี ซึ่งในอนาคตทางโรงพยาบาลจะทยอยนำนวัตกรรมใหม่เข้ามาเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมให้สามารถแข่งขันในตลาดสุขภาพระดับสากลได้
สำหรับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้วางติดตั้งโรงพยาบาลสมิติเวช 3 สาขา ได้แก่ สุขุมวิท ศรีนครินทร์ และศรีราชา รวมกว่า 300 จุด โดยสาขานำร่อง คือ ที่ สุขุมวิท ใช้งบในเบื้องต้น 16 ล้านบาท คาดว่าจะติดตั้งระบบดังกล่าว 272 ห้องภายในสิ้นปีนี้ ส่วนอีก 2 สาขา จะเริ่มในต้นปีหน้านี้
ทั้งนี้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ป่วยสามารถใช้บริการนี้ผ่านจอโทรทัศน์ที่ใช้ระบบการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ซึ่งโรงพยาบาลสมิติเวช นับเป็นรายแรกที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำบริการดังกล่าวมาใช้ในโรงพยาบาล
ล่าสุดทางโรงพยาบาลได้เปิดตัวไนท์ คลีนิก หรือบริการรักษาในช่วงเวลากลางคืน เจาะกลุ่มคนไข้ที่ไม่มีเวลารักษาในช่วงกลางวันหรือเกิดอาการป่วยฉุกเฉิน โดยเป็นโมเดลนำร่องในสาขานี้เท่านั้น หากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีวางแผนจะขยายไปยังสาขาอื่นๆ ซึ่งขณะนี้เปิดบริการได้ 1 เดือน มีผู้มาใช้บริการ 10% เท่านั้น
สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกนี้ มีอัตราการเติบโต 16% เป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับรายได้ทั้งปีนี้ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 20% ซึ่งคาดว่าจะไม่เป็นตามเป้าหมาย ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ถดถอย โดยปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าของโรงพยาบาล แบ่งเป็น ต่างประเทศ 37% ส่วนภายในประเทศ 63% อย่างไรก็ตามการก้าวสู่ “ Hospitals Digital” ของโรงพยาบาลสมิติเวช คาดว่าจะเห็นภาพชัดเจนใน 3 ปีนี้