ผู้จัดการรายวัน – คาสิโอ ส่งคอลเลคชั่นใหม่เพิ่มความถี่อัดตลาดครึ่งปีหลังอีก 100 รุ่น พร้อมเพิ่มงบเพิ่มเป็น 20% ทำตลาด หลังพบยอด 7 เดือนหดตัวไม่ถึงเป้าที่วางไว้ เร่งเครื่องทำตลาดหนักหวังยอดสิ้นปีโต 15%
นายรังสรรค์ กุลปิยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์สินค้านาฬิกา คาสิโอ บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด (ซีเอ็มจี) เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯจะรุกทำตลาดมากยิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มคอลเลคชั่นใหม่ที่กำลังจะลอนซ์ลงตลาดอีกประมาณ 100 คอลเลคชั่น ทั้งนี้การลอนซ์คอลเลคชั่นใหม่ๆเฉลี่ยแล้วจะมีประมาณ 200 รุ่น เฉลี่ยเดือนละ 10-20 รุ่น ทั้งภายใต้แบรนด์คาสิโอ จี ช็อก และเบบี้ จี ประกอบกับกระแสค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นยังช่วยให้ราคาสินค้าดังกล่าว ลดลง 5-10% ซึ่งจะมีส่วนในการกระตุ้นยอดขายอีกด้วย
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังจะเพิ่มงบในการทำตลาดเพิ่มมากขึ้นอีกเป็น 20% จากเดิมในปีที่ผ่านมาใช้ไป 10% ของยอดขายทั้งหมด
ทั้งนี้ต้องการจะผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตไว้ 15% แต่ที่ผ่านมาพบว่าจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจส่งผลกระทบให้ยอดขายไม่เข้าเป้า ดังนั้นนับจากนี้บริษัทฯจะมุ่งเน้นการทำตลาดโดยจะเน้น 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในเชิงรุกด้วยกลยุทธ์ ซีอาร์เอ็ม เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรงและเป็นการสร้างรอยัลตี้ได้มากยิ่งขึ้น 2.การมองหาช่องทางการจำหน่ายให้แข่งกันแต่ละจุด จากในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 300 แห่ง ทั้งตัวแทนจำหน่าย และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และ 3.การสร้างจุดต่างในการเป็นผู้นำตลาด ด้วยคุณภาพและสินค้าในราคาที่เหมาะสม
“ปัจจัยลบทางด้านการเมืองเศรษฐกิจตั้งแต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคนั้น ทำให้บริษัทฯมียอดขายในช่วง7 เดือนที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ต่อนี้ไปบริษัทฯต้องทำตลาดมากขึ้นซึ่งช่วงไตรมาสที่ 4 ที่มีเทศกาลสำคัญซึ่งเคยสร้างยอดขายคิดเป็นกว่า 60% ของรายได้ทั้งปี”
ล่าสุด บริษัทฯเปิดตัว “จีช็อก มัด แมน” นาฬิกาสปอร์ตแฟชั่นรุ่นใหม่ซึ่งมีจุดขายในการสั่นสะเทือนทุกสภาวะ เพื่อกระตุ้นตลาดนาฬิกาสปอร์ตพร้อมทั้งเตรียมเปิดตัว รุ่น กัลฟ์ แมน โดยคาดว่าการออกสินค้าตัวใหม่สอดรับการแข่งขันตลาดนาฬิกาในครึ่งปีหลังนี้ยังเชื่อว่า จะมีการแข่งขันที่รุนแรง ดูได้จากการจัดงานแฟร์ นาฬิกา กว่า 3-4 งานใหญ่ต่อเนื่องรวมทั้งการใช้โปรโมชั่นและนวัตกรรมสินค้ามากระตุ้นยอดซื้ออย่างรุนแรงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเจรจานำเข้านาฬิกาแบรนด์ใหม่ อีก 1 แบรนด์ จากปัจจุบันมีนาฬิกาที่ทำตลาดอยู่ทั้งหมด 5 แบรนด์ ได้แก่ คาสิโอ คิดเป็น 55% ของยอดขาย , เกสส์ 30% และ ไนกี้ มาร์คเอคโค่และนอร์ติก้าร์ รวมกัน 15%
นายรังสรรค์ กุลปิยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์สินค้านาฬิกา คาสิโอ บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด (ซีเอ็มจี) เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯจะรุกทำตลาดมากยิ่งขึ้น ทั้งการเพิ่มคอลเลคชั่นใหม่ที่กำลังจะลอนซ์ลงตลาดอีกประมาณ 100 คอลเลคชั่น ทั้งนี้การลอนซ์คอลเลคชั่นใหม่ๆเฉลี่ยแล้วจะมีประมาณ 200 รุ่น เฉลี่ยเดือนละ 10-20 รุ่น ทั้งภายใต้แบรนด์คาสิโอ จี ช็อก และเบบี้ จี ประกอบกับกระแสค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นยังช่วยให้ราคาสินค้าดังกล่าว ลดลง 5-10% ซึ่งจะมีส่วนในการกระตุ้นยอดขายอีกด้วย
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังจะเพิ่มงบในการทำตลาดเพิ่มมากขึ้นอีกเป็น 20% จากเดิมในปีที่ผ่านมาใช้ไป 10% ของยอดขายทั้งหมด
ทั้งนี้ต้องการจะผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตไว้ 15% แต่ที่ผ่านมาพบว่าจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจส่งผลกระทบให้ยอดขายไม่เข้าเป้า ดังนั้นนับจากนี้บริษัทฯจะมุ่งเน้นการทำตลาดโดยจะเน้น 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในเชิงรุกด้วยกลยุทธ์ ซีอาร์เอ็ม เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรงและเป็นการสร้างรอยัลตี้ได้มากยิ่งขึ้น 2.การมองหาช่องทางการจำหน่ายให้แข่งกันแต่ละจุด จากในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 300 แห่ง ทั้งตัวแทนจำหน่าย และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และ 3.การสร้างจุดต่างในการเป็นผู้นำตลาด ด้วยคุณภาพและสินค้าในราคาที่เหมาะสม
“ปัจจัยลบทางด้านการเมืองเศรษฐกิจตั้งแต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคนั้น ทำให้บริษัทฯมียอดขายในช่วง7 เดือนที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ต่อนี้ไปบริษัทฯต้องทำตลาดมากขึ้นซึ่งช่วงไตรมาสที่ 4 ที่มีเทศกาลสำคัญซึ่งเคยสร้างยอดขายคิดเป็นกว่า 60% ของรายได้ทั้งปี”
ล่าสุด บริษัทฯเปิดตัว “จีช็อก มัด แมน” นาฬิกาสปอร์ตแฟชั่นรุ่นใหม่ซึ่งมีจุดขายในการสั่นสะเทือนทุกสภาวะ เพื่อกระตุ้นตลาดนาฬิกาสปอร์ตพร้อมทั้งเตรียมเปิดตัว รุ่น กัลฟ์ แมน โดยคาดว่าการออกสินค้าตัวใหม่สอดรับการแข่งขันตลาดนาฬิกาในครึ่งปีหลังนี้ยังเชื่อว่า จะมีการแข่งขันที่รุนแรง ดูได้จากการจัดงานแฟร์ นาฬิกา กว่า 3-4 งานใหญ่ต่อเนื่องรวมทั้งการใช้โปรโมชั่นและนวัตกรรมสินค้ามากระตุ้นยอดซื้ออย่างรุนแรงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเจรจานำเข้านาฬิกาแบรนด์ใหม่ อีก 1 แบรนด์ จากปัจจุบันมีนาฬิกาที่ทำตลาดอยู่ทั้งหมด 5 แบรนด์ ได้แก่ คาสิโอ คิดเป็น 55% ของยอดขาย , เกสส์ 30% และ ไนกี้ มาร์คเอคโค่และนอร์ติก้าร์ รวมกัน 15%