"ปลอด"มาแล้วแจ้งความภาคีฯหมิ่น ข้อหาเสนอรัฐสอบสวนทุจริต อพท.

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- เป็นงงแค่นี้ฟ้องได้ ! ปลอดประสพ แจ้งความหมิ่นประมาท นิคม พุทธา โทษฐานนำข้อสรุปวงเสวนาภาคีคนฮักเจียงใหม่ให้สัมภาษณ์ ว่าจะเสนอรัฐบาลสอบสวนทุจริตฯ อพท. ด้าน ภาคีฯ เตรียมยื่นขอความเป็นธรรม และเสนอตัวเป็นพยาน ระบุเป็นข้อเท็จจริงแถมคำที่สัมภาษณ์ก็ไม่ได้พาดพิงให้เสื่อมเสียเหมือนกับจงใจแกล้ง

นาง กนกวรรณ อุโฆษกิจ หนึ่งในตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ เปิดเผยว่า ตัวแทนของภาคีคนฮักเจียงใหม่เตรียมจะเดินทางไป สภ.อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ในอีก 2-3 วันข้างหน้า เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้แก่ นาย นิคม พุทธา สมาชิกภาคีคนฮักเจียงใหม่ อดีตผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภาคเหนือ ที่ถูก นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตประธานคณะกรรมการบริหารองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) แจ้งความกล่าวหาในข้อหาหมิ่นประมาท

นายนิคม พุทธา ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา และได้ให้การปฏิเสธตามข้อกล่าวหาทั้งหมดต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.อ.หางดง แล้ว และทราบว่า พนักงานสอบสวนกำลังจะส่งสำนวนฟ้องให้แก่อัยการ ในประมาณวันที่ 23 สิงหาคมนี้

ภาคีคนฮักเจียงใหม่ สอบถามรายละเอียดของเรื่องดังกล่าวจากนาย นิคม พุทธา ได้ทราบว่า เนื้อความที่เป็นต้นเรื่องของข้อกล่าวหา มาจากคำให้สัมภาษณ์หนังสือมติชนรายวัน ประจำวันที่ 17 เมษายน 2550 โดยอ้างถึงเวทีเสวนาที่ภาคีคนฮักเจียงใหม่เป็นผู้จัด โดยมีเครือข่ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของ อพท. ทั่วประเทศเข้าร่วม และมีมติออกมาให้รวบรวมความผิดปกติการดำเนินการของ อพท. ในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น การส่อว่าดำเนินการโดยทุจริต การดำเนินการโดยมิชอบ เพื่อจะเสนอต่อ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแล อพท. ต่อไป

"เรามองว่า เหตุมาจากการจัดเวทีของเรา จึงถือว่า ภาคีคนฮักเจียงใหม่ ต้องเข้าไปมีส่วนรับผิดชอบจากการถูกแจ้งความดำเนินคดีนี้ด้วย"

นางกนกวรรณ ยังกล่าวว่า จากการพิจารณาเนื้อหาที่ นายนิคม ให้สัมภาษณ์ พบว่า ถ้อยความที่ให้สัมภาษณ์ก็ไม่ได้เจาะจงให้ร้าย และเป็นการพูดโดยหวังดีต่อส่วนรวม เป็นการตรวจสอบเพื่อประโยชน์สาธารณะ ทั้งนี้ นางกนกวรรณ ขอให้พิจารณาเนื้อความทั้งหมดโดยไม่ตัดทอน ที่นายนิคม ให้สัมภาษณ์ ที่มีเพียง 2 วรรค คือ

" นาย นิคม พุทธา ผู้ประสานงานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ภาคเหนือ กล่าวว่า ในส่วนของการทำโครงการสวนสัตว์เชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี ที่อยู่ในความดูแลของ อพท. ได้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบเพื่อเอาผิดกับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้บริหารระดับสูงของสวนสัตว์รวมถึงผู้บริหารคนอื่น ๆ ในเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่ การใช้งบประมาณ ว่า ที่ผ่านมาผู้บริหารชุดดังกล่าวใช้อำนาจขัดต่อกฎหมายใช้งบประมาณส่อเค้าไปในทางทุจริตและเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องพรือไม่

"สำหรับตัวสวนสัตว์เองซึ่งเวลานี้มีคนไปเที่ยวน้อยมาก และส่อว่าจะขาดทุนนั้นเห็นว่า ให้ตั้งคณะกรรมการที่ประกอบด้วยนักวิชาการและประชาชนในพื้นที่ ตัวแทนจากองค์การพัฒนาเอกชนว่าควรจะจัดการอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น" นายนิคมกล่าว

นางกนกวรรณ ชี้ว่า ถ้อยความทั้งหมดที่ตีพิมพ์นั้น แม้ทราบว่าจะผิดพลาดในรายละเอียดไปจากคำสัมภาษณ์จริงบ้าง แต่หากพิจารณาเอาเฉพาะเนื้อหาที่ตีพิมพ์แล้ว ก็ยังไม่มีจุดใดเลยที่จงใจใส่ร้าย เพราะนี่เป็นมติของที่ประชุมจริง ๆ ว่า จะรวบรวมข้อปัญหา ทุกด้านทั้งเรื่องการส่อว่าจะทุจริตด้วยเพื่อเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรี เพราะในวันนั้นมีการยกประเด็น การก่อสร้างส้วม 8 หลังราคา 11 ล้านบาท ที่เกาะช้าง ซึ่งต่อมามีคณะกรรมมาธิการของ สนช. ไปตรวจสอบก็พบว่าน่าจะมีการทุจริตจริง

นอกจากนั้น หากพิจารณาเนื้อความท่อนแรก ผู้เขียนข่าว ได้ตั้งข้อสงสัยด้วยการใส่คำว่า "หรือไม่" ต่อท้ายเนื้อข่าว โดยสรุปก็คือ ภาคีคนฮักเจียงใหม่ มองว่า นายปลอดประสพ มีอะไรเป็นการส่วนตัวต่อ นายนิคม พุทธา หรือเปล่า เพราะมีครั้งหนึ่งที่ได้ออกรายการโทรทัศน์พร้อมกัน ทางช่อง 9 อสมท และ เมื่อจบรายการมีการทำร้ายนาย ชัยพันธ์ ประภาสะวัต ผู้ร่วมรายการอีกท่านหนึ่ง ขณะที่นายนิคม พุทธา ก็เป็นผู้สนทนาสนับสนุนนายชัยพันธ์

นาง กนกวรรณ ยังระบุว่า เนื่องจากเวลานี้ นายนิคม ประสบปัญหาทางด้านงานอาชีพอันเกิดจากปัญหาภายในมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ที่ได้ระงับการดำเนินกิจกรรมไปก่อนหน้านี้ ทางภาคีคนฮักเจียงใหม่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะขอความช่วยเหลือจาก สภาทนายความด้วยหรือไม่ แต่เบื้องต้นจะขอความเป็นธรรมในระดับพนักงานสอบสวนเสียก่อน เพราะคดีนี้ ไม่น่าจะถึงชั้นศาลด้วยซ้ำไป เพราะล่าสุดในการหารือกับ คณะกรรมการบริหารอพท.ชุดใหม่ ที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีมติร่วมกันระหว่าง ประชาชน กับ บอร์ด อพท. ว่า จะมีการตั้งกรรมการร่วมขึ้นเพื่อพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้น เท่ากับการผลักดันของภาคีคนฮักเจียงใหม่ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นจริงทุกประการ หาใช่การแต่งเรื่องเพื่อใส่ร้ายคนแต่อย่างใด