"สุรยุทธ์" ระบุ"สนธิ" จะเล่นการเมืองหรือไม่ เป็นเรื่องส่วนตัว ขณะที่ ครป. ไม่เห็นด้วยที่"สนธิ"จะลงเลือกตั้ง ระบุมีผลต่อภาพลักษ์ของกองทัพ
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า แม้จะ เป็นสิทธิที่ พล.อ.สนธิ จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่ในแง่ของความเหมาะสมแล้ว ถือว่าไม่เหมาะสม และขาดความชอบธรรม เพราะจะทำให้ถูกตีความว่าเป็นยุทธศาสตร์ของการสืบทอดอำนาจแบบใหม่ แม้ พล.อ.สนธิ จะพ้นสถานภาพผผบ.ทบ. หรือเกษียณ อายุราชการไปแล้วก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า พล.อ.สนธิ ยังมีอิทธิพลในกองทัพไทย หาก พล.อ.สนธิ จะลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือตั้งพรรคการเมืองในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ จะทำให้การเลือกตั้ง ถูกสังคมเคลือบแคลงสงสัยว่า กองทัพใช้กลไกอำนาจ และทรัพยากรของกองทัพ และฝ่ายความมั่นคงไปเอื้อประโยชน์ทางการเมืองให้กับ พล.อ.สนธิ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ครป.เห็นว่า ตำแหน่ง ผบ.ทบ. ถือเป็นข้าราชการระดับสูง และให้คุณให้โทษทางการเมืองได้ตลอดเวลา ฉะนั้นหลังพ้นจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. แม้ยังไม่มีข้อห้ามทางกฎหมาย แต่เพื่อสร้างบรรทัดฐานอันดีงามให้กับผู้นำเหล่าทัพในอนาคต แต่หากลงเล่นการเมืองทันทีหลังจากพ้นตำแหน่งหัวหน้าคณะรัฐประหาร จะทำให้สังคมเคลือบแคลง และตีความว่า การรัฐประหารครั้งนี้มีวาระซ่อนเร้น คือ การทำลายขั้วอำนาจทางการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามเท่านั้น ทั้งยังจะทำให้กองทัพไทยขาดความเชื่อมั่น ซึ่งหาก พล.อ.สนธิ อยากลงสมัครรับเลือกตั้ง ควรจะเป็นครั้งถัดไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครป. มีข้อมูลว่า พล.อ.สนธิ จะลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ ใช่หรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า ไม่ยืนยันว่า พล.อ.สนธิ จะลงรับเลือกตั้ง แต่รับรองว่าได้ยินมาว่า พล.อ.สนธิ จะลงเลือกตั้งจริง และตนไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่ พล.อ.สนธิจะลงรับเลือกตั้ง เป็นความคิดของท่าน ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นคนใกล้ชิดท่านอยากลงเล่นการเมือง แล้วไม่มีหัว จึงอยากให้ท่านมาเป็นหัวให้
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะเล่นการเมือง ว่า พล.อ.สนธิ ไม่เคยคุยกับตนในเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่เข้าไปก้าวก่าย และที่หารือกับประธาน คมช. ส่วนใหญ่เป็นเรื่องห้วงเวลาที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า แม้จะ เป็นสิทธิที่ พล.อ.สนธิ จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่ในแง่ของความเหมาะสมแล้ว ถือว่าไม่เหมาะสม และขาดความชอบธรรม เพราะจะทำให้ถูกตีความว่าเป็นยุทธศาสตร์ของการสืบทอดอำนาจแบบใหม่ แม้ พล.อ.สนธิ จะพ้นสถานภาพผผบ.ทบ. หรือเกษียณ อายุราชการไปแล้วก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า พล.อ.สนธิ ยังมีอิทธิพลในกองทัพไทย หาก พล.อ.สนธิ จะลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือตั้งพรรคการเมืองในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ จะทำให้การเลือกตั้ง ถูกสังคมเคลือบแคลงสงสัยว่า กองทัพใช้กลไกอำนาจ และทรัพยากรของกองทัพ และฝ่ายความมั่นคงไปเอื้อประโยชน์ทางการเมืองให้กับ พล.อ.สนธิ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ครป.เห็นว่า ตำแหน่ง ผบ.ทบ. ถือเป็นข้าราชการระดับสูง และให้คุณให้โทษทางการเมืองได้ตลอดเวลา ฉะนั้นหลังพ้นจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. แม้ยังไม่มีข้อห้ามทางกฎหมาย แต่เพื่อสร้างบรรทัดฐานอันดีงามให้กับผู้นำเหล่าทัพในอนาคต แต่หากลงเล่นการเมืองทันทีหลังจากพ้นตำแหน่งหัวหน้าคณะรัฐประหาร จะทำให้สังคมเคลือบแคลง และตีความว่า การรัฐประหารครั้งนี้มีวาระซ่อนเร้น คือ การทำลายขั้วอำนาจทางการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามเท่านั้น ทั้งยังจะทำให้กองทัพไทยขาดความเชื่อมั่น ซึ่งหาก พล.อ.สนธิ อยากลงสมัครรับเลือกตั้ง ควรจะเป็นครั้งถัดไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครป. มีข้อมูลว่า พล.อ.สนธิ จะลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ ใช่หรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า ไม่ยืนยันว่า พล.อ.สนธิ จะลงรับเลือกตั้ง แต่รับรองว่าได้ยินมาว่า พล.อ.สนธิ จะลงเลือกตั้งจริง และตนไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่ พล.อ.สนธิจะลงรับเลือกตั้ง เป็นความคิดของท่าน ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นคนใกล้ชิดท่านอยากลงเล่นการเมือง แล้วไม่มีหัว จึงอยากให้ท่านมาเป็นหัวให้
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะเล่นการเมือง ว่า พล.อ.สนธิ ไม่เคยคุยกับตนในเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่เข้าไปก้าวก่าย และที่หารือกับประธาน คมช. ส่วนใหญ่เป็นเรื่องห้วงเวลาที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง