ป.ป.ช.รับเรื่องร้องนายกรัฐมนตรี และพวก กรณีอุ้มไอทีวี ไว้พิจารณา พร้อมชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง-อาญา อดีตอธิบดีกรมบังคับคดี กรณีไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ในการขายทอดตลาดที่ดินของศาลจังหวัดธัญบุรี
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องที่ นายการุณ ใสงาม สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยื่นเรื่องกล่าวหาพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี คุณหญิงทิพาวดี เมฆสววรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ว่าปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีการยกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานกับบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) โดยจงใจ ปล่อยให้คลื่นวิทยุโทรทัศน์ที่รัฐรับกลับคืนมา ถูกละเมิดนำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการไว้พิจารณา และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สรุปเรื่อง และนำเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาอีกครั้ง
"นอกจากนี้ ยังรับเรื่องที่มีผู้กล่าวหา นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กับพวก ว่าร่วมกันยกเลิกพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตในกิจการโทรคมนาคม ตาม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 จากร้อยละ11 เป็นอัตราร้อยละ 0 เป็นเหตุให้รัฐขาดรายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดังกล่าวนับหมื่นล้านบาทไว้พิจารณาด้วยเช่นกัน" นายกล้านรงค์ กล่าว
**อดีตอธิบดีกรมบังคับคดีเจอเชือด
นายกล้านรงค์ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดทางวินัย และอาญา นายประมาณ ตียะไพบูลย์สิน ผู้พิพากษา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมบังคับคดี กรณีไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีในการขายทอดตลาด ร้อยละ 5 ของจำนวนเงินที่ขายได้ จำนวน 897 ล้านบาท ในการบังคับคดีของศาลจังหวัดธัญบุรี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า กรมบังคับคดี มีหน้าที่ต้องหักค่าธรรมเนียมการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 318 และ 319 จากเงินดังกล่าว ก่อนจ่ายเงินที่เหลือให้ผู้มีสิทธิรับเงิน
"การที่ผู้ถูกกล่าวหาเห็นชอบด้วยกับการสั่งคืนเงิน 70 ล้านบาท โดยไม่หักหรือเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาด ร้อยละ 5 จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ถูกต้อง และไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำผิดทางวินัยร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ และฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง และมีมูลเป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 มาตรา 154 และมาตรา 157" นายกล้านรงค์ กล่าว
**ตั้งอนุฯไต่สวนคดีทุจริตปุ๋ยอินทรีย์
นายกล้านรงค์ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า มีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง จำนวน 4 เรื่อง คือ 1 .เรื่องกล่าวหา อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ อดีตเลขานุการ รมว. เกษตรและสหกรณ์ ทุจริตในการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ (ปุ๋ยหมัก) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปี 45 ของกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมี นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
2. เรื่องกล่าวหา ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กับพวก กำหนดราคากลางค่าก่อสร้างในการประกวดราคาจ้างขุดลอกและก่อสร้างกำแพงดินริมคลองหัวควน ตำบลกมลา สูงกว่าความเป็นจริง โดยมี นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
3. เรื่องกล่าวหา อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภูมิภาค ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กับพวก ทุจริตในการอนุมัติสินเชื่อโครงการที่ดินจัดสรร และเข้ามีส่วนได้เสียกับโครงการฯ ทำให้ธนาคารฯ ได้รับความเสียหาย โดยมี นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
4. เรื่องกล่าวหา พนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ยักยอกเงินฝาก ของลูกค้าธนาคารฯ จำนวน 4,149,000 บาท โดยมี นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องที่ นายการุณ ใสงาม สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยื่นเรื่องกล่าวหาพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี คุณหญิงทิพาวดี เมฆสววรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ว่าปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีการยกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานกับบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) โดยจงใจ ปล่อยให้คลื่นวิทยุโทรทัศน์ที่รัฐรับกลับคืนมา ถูกละเมิดนำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการไว้พิจารณา และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สรุปเรื่อง และนำเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาอีกครั้ง
"นอกจากนี้ ยังรับเรื่องที่มีผู้กล่าวหา นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กับพวก ว่าร่วมกันยกเลิกพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตในกิจการโทรคมนาคม ตาม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 จากร้อยละ11 เป็นอัตราร้อยละ 0 เป็นเหตุให้รัฐขาดรายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดังกล่าวนับหมื่นล้านบาทไว้พิจารณาด้วยเช่นกัน" นายกล้านรงค์ กล่าว
**อดีตอธิบดีกรมบังคับคดีเจอเชือด
นายกล้านรงค์ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดทางวินัย และอาญา นายประมาณ ตียะไพบูลย์สิน ผู้พิพากษา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมบังคับคดี กรณีไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีในการขายทอดตลาด ร้อยละ 5 ของจำนวนเงินที่ขายได้ จำนวน 897 ล้านบาท ในการบังคับคดีของศาลจังหวัดธัญบุรี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า กรมบังคับคดี มีหน้าที่ต้องหักค่าธรรมเนียมการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 318 และ 319 จากเงินดังกล่าว ก่อนจ่ายเงินที่เหลือให้ผู้มีสิทธิรับเงิน
"การที่ผู้ถูกกล่าวหาเห็นชอบด้วยกับการสั่งคืนเงิน 70 ล้านบาท โดยไม่หักหรือเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาด ร้อยละ 5 จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ถูกต้อง และไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำผิดทางวินัยร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ และฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง และมีมูลเป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 มาตรา 154 และมาตรา 157" นายกล้านรงค์ กล่าว
**ตั้งอนุฯไต่สวนคดีทุจริตปุ๋ยอินทรีย์
นายกล้านรงค์ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า มีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง จำนวน 4 เรื่อง คือ 1 .เรื่องกล่าวหา อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ อดีตเลขานุการ รมว. เกษตรและสหกรณ์ ทุจริตในการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ (ปุ๋ยหมัก) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปี 45 ของกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมี นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
2. เรื่องกล่าวหา ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กับพวก กำหนดราคากลางค่าก่อสร้างในการประกวดราคาจ้างขุดลอกและก่อสร้างกำแพงดินริมคลองหัวควน ตำบลกมลา สูงกว่าความเป็นจริง โดยมี นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
3. เรื่องกล่าวหา อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภูมิภาค ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กับพวก ทุจริตในการอนุมัติสินเชื่อโครงการที่ดินจัดสรร และเข้ามีส่วนได้เสียกับโครงการฯ ทำให้ธนาคารฯ ได้รับความเสียหาย โดยมี นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน
4. เรื่องกล่าวหา พนักงานธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ยักยอกเงินฝาก ของลูกค้าธนาคารฯ จำนวน 4,149,000 บาท โดยมี นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน