xs
xsm
sm
md
lg

อัด‘ขิงแก่’ตั้งธงวันเลือกตั้ง ส.ส.ร.พลาดท่าฝ่ายคว่ำรธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยามฯ ระบุ“ม็อบไข่แม้ว”ขาดหัวใจขับเคลื่อน ล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ แต่เชื่อยังชุมนุมถ่วงเวลา รอนายใหญ่กลับคืนสู่อำนาจ ยกอดีต “จอม พล.ป.”เคยติดคุก แต่กลับมาได้เพราะรัฐประหาร เตือนสติ คมช.อย่าประมาท ติงโฆษณารับร่าง รธน.สู้ฝ่ายล้ม รธน.ไม่ได้ พร้อมชี้จุดพลาด “ขิงแก่” กำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้า ทำให้ตกเป็นฝ่ายตั้งรับ

รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี วันที่ 25 มิ.ย. นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นักวิชาการอิสระ และนางสโรชา พรอุดมศักดิ์ ร่วมดำเนินรายการ โดยได้กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งล่าสุดได้ไปยื่นหนังสือเปิดผนึกถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ให้พิจารณากราบบังคมทูลลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี และประธานองคมนตรี ว่า สุดท้ายการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเหล่านี้ก็ไม่มีอะไรใหม่ พยายามเรียกร้องอะไรต่อมิอะไรไปเรื่อย ที่สำคัญไม่ได้ทำตามที่เคยพูด เช่น ว่าจะเคลื่อนไป บก.ทบ.เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ก็ไม่ได้ไป ว่าจะถ่ายทอดสดการสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กลายเป็นเทป ว่าจะแฉเทปลับคมช.ก็ไม่ใช่

และเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ว่าจะอยู่หน้า บก.ทบ.ถึง 5 ทุ่ม อยู่แค่ 6 โมงกว่าๆ เพราะฝนตำหนักก็กลับแล้วสรุปเอาง่ายๆ ว่าได้ชัยชนะแล้ว ทำให้ผู้มาชุมนุมขาดความเชื่อมั่น นอกจากนี้ตัวเลขของผู้ชุมนุมก็ยังไม่ถึงหลักแสนอย่างที่แกนนำยกขึ้นมากล่าวอ้าง โดยเฉพาะหากดูจำนวนประชาชน ที่ร่วมเคลื่อนขบวนไปหน้า บก.ทบ. เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาจากที่รวมคนได้ 1 หมื่นเศษ แต่เมื่อไปถึงก็เหลือเพียงครึ่งเดียว การชุมนุมจึงยังไม่มีพลังกดดัน หากวันเสาร์ที่ผ่านมาแกนนำสามารถดึงให้ผู้ร่วมชุมนุมยืนหยัดได้สักหนึ่งคืน เชื่อว่า คมช.จะมีความกดดันมากกว่านี้

ในทางกลับกันดันมีรายงานข่าวออกมาในเช้าวันต่อมา ว่า การชุมนุมเมื่อวันเสาร์มีการจ่ายเงินให้กับผู้ชุมนุมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อมีการเผยแพร่ภาพการจ่ายเงินให้กับผู้ชุมนุมของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง11 สะท้อนให้เห็นว่า ม็อบขาดหัวใจในการเคลื่อนไหว อีกทั้งล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ ดังนั้นหากยังเป็นอย่างนี้อีกม็อบจะเริ่มโรยราไปเอง

ผู้ดำเนินรายการ ยังเชื่อว่า ม็อบจะปักหลักชุมนุมไปเรื่อยๆ พยายามซื้อเวลา รอโอกาสว่า สักวันหนึ่ง จะเป็นทีของพวกเขาบ้าง ม็อบเหล่านี้ไม่คิดว่าการชุมนุมจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลาอันใกล้ ดังนั้นจึงพยายามแตกตัวสร้างกระแสและปูพื้นเพื่อรอเวลา อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประมาทม็อบเหล่านี้เด็ดขาด เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ตายในทางกายภาพ อีกทั้ง คมช.เองยังมีปัญหาให้คบคิดอยู่อีกมาก ดังนั้นจงได้อย่าประมาทหรือดูเบาอย่างเด็ดขาด

ขณะเดียวกัน ผู้ดำเนินรายการ ยังได้หยิบยกการกลับเข้ามามีอำนาจทางการเมืองของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม มาเปรียบเทียบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ในอดีต จอม พล.ป.พิบูลสงคราม มีหลายๆ อย่างคล้ายกับ พ.ต.ทักษิณ เคยตกต่ำถึงขั้นที่ถูกรัฐบาลในขณะนั้นจับกุมในข้อหาอาชญากรสงคราม ตาม พ.ร.บ.อาชญากรสงคราม พ.ศ.2488 จึงเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ติดคุกนานถึง 88 วัน ก่อนที่จะถูกนำตัวส่งฟ้องศาล ต่อมาศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นกฎหมายย้อนหลัง ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ถือเป็นโมฆะ ลงโทษจำเลยไม่ได้ ไม่สามารถเอาผิดย้อนหลังได้ จนในที่สุดมีการรัฐประหารขึ้นอีกในปี 2490 จนนำมาสู่การคืนสู่อำนาจอีกครั้งของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ดังนั้นจึงเป็นไปได้หรือไม่ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังซื้อเวลาเพื่อรอกลับสู่อำนาจอีกครั้งหนึ่ง

**ติง ส.ส.ร.โดนฝ่ายต้าน เอาเท้าลูบหน้า

ในช่วง 2 ผู้ดำเนินรายการ สนทนาถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์มติชนลงโฆษณาของใยสนับสนุนและต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ในฉบับเดียวกันว่า ในหน้า 5 ของหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันที่ 25 มิ.ย. ส.ส.ร.ได้ลงโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันฝ่ายต่อต้านการทำรัฐประหาร ก็ลงโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน โดยนำเอาเหตุผลของ ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ มาลงตีพิมพ์

ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ค่าโฆษณาเต็มหน้าขาวดำในหนังสือพิมพ์มติชนนั้น ตกวันละ 240,000 บาท โดยยังไม่รวมเอกสารคู่มือ และสติ๊กเกอร์ แสดงว่าเขาทำงานกันเป็นระบบ เป็นกระบวนการ และเชื่อว่าค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งน่าจะมาจากฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ และที่สำคัญคือเนื้อหาที่นำเสนอ ได้น่าสนใจกว่าฝ่าย ส.ส.ร. เพราะมีการใช้สัญลักษณ์ที่สื่อให้เห็นชัดว่าทหารเข้ามาครอบงำรัฐธรรมนูญและเหยียบประชาชน และมีคำอธิบายเหตุผลของการไมรับร่างฯ ว่า เพื่อเป็นสัญลักษณ์การต่อต้านการรัฐประหาร และเอารัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาใช้ ขณะที่โฆษณาของ ส.ส.ร.ที่ทำออกมานั้น ไม่มีอะไร มีแค่บอกว่าให้รับเพื่อไปสู่การเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีความหมายอะไรเพราะการเลือกตั้งถึงอย่างไรก็ต้องมี แม้ว่าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน แต่ คมช.ก็ไปเลือกเอารัฐธรรมนูญฉบับเก่ามาใช้ได้ แล้วอย่างนี้จะยึดอำนาจไปทำไม

ผู้ดำเนินรายการ วิเคราะห์ต่อว่า สิ่งที่มองไม่เห็นในขณะนี้คือ รัฐบาลกำลังทำอะไร เพราะ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุเรื่องวันเลือกตั้งกลับไปกลับมา อีกทั้งยังไปพูดคุยกับ ส.ส.ร. โดยไปกำหนดว่าวันที่ 19 ส.ค. จะเป็นวันลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ปรากฏว่าจนถึงเวลานี้ ยังไม่เห็นร่างกฎหมายว่าด้วยการลงประชามติออกมาเลย ซึ่งพอตรวจสอบไปก็พบว่าเรื่องจ่อคิวที่จะเข้าวิป สนช.สัปดาห์หน้า สรุปแล้วอย่างเร็วถ้าได้พิจารณาใน สนช.วันที่ 9 ก.ค.

ถามว่าแล้วจะผ่าน 3 วาระรวดเลยหรือไม่ เพราะปกติแล้วต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน ซึ่งคิดว่าไม่น่าที่จะทันวันที่รัฐบาลกำหนดเมื่อดูโฆษณาที่ออกมายังไม่เห็นว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะส่งผลดีต่อประเทศไทยตรงไหน แทนที่รัฐบาลออกมาประชาสัมพันธ์ในเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่กลับปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมาทำอย่างนี้ เหมือนถูกเขาเอาเท้ามาลูบหน้า ทั้งๆ ที่ในข้อเท็จจริงแล้วคณะรัฐประหารชุดนี้ ไม่ได้ใช้อำนาจเผด็จการเลย ใช้เพียงวันเดียวคือวันที่ 19 ก.ย.เท่านั้น

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ มีรากฐานมาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งธงของกลุ่มต่อต้านรัฐประหารคือ เขาต้องการที่จะใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2540 ไปก่อน แล้วเลือกตั้ง จากนั้นจึงกลับไปแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเรายอมรับว่า พวกเราเองก็ไม่ชอบการทำรัฐประหาร แต่เมื่อเกิดรัฐประหารแล้ว ก็ต้องถือว่าคณะรัฐประหารคือ รัฐาธิปัตย์ ซึ่งสามารถออกกฎหมายต่างๆ และทำอะไรหลายๆ อย่างตามที่เขาต้องการได้ ซึ่งในอดีตเป็นมาอย่างนี้

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า การกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้า แล้วรัฐบาลไม่สามารถทำให้มีรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดออกมา จะเลือกตั้งได้อย่างไร การตั้งธงอย่างนี้ถือว่าล้มเหลว โดยครั้งนี้ดูเหมือนจะต้องเป็นฝ่ายตั้งรับอีกแล้ว เพราะถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ผ่าน ก็จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นอย่างแน่นอน คืออาจจะมีการหยิบเอารัฐธรรมนูญ ปี 2540 ขึ้นมาปัดฝุ่น เพื่อให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าฝ่ายต่อต้านเขาต้องการอย่างนั้น และถ้าจะเปรียบว่าประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งก็ต้องจบ เพราะเราต้องดูอะไรอีกพอสมควร
กำลังโหลดความคิดเห็น