ศูนย์ข่าวศรีราชา - สระแก้วออกประกาศผังเมืองฉบับใหม่ อุดช่องทางหากินห้างฯใหญ่ทุนต่างชาติ ด้านโชวห่วยรวมตัวต้าน "บิ๊กซี-โลตัส" อีกเฮือกหลังเจอมรสุม "แม็คโคร"
นายศานิตย์ นาคสุขศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการผังเมืองระดับจังหวัด เพื่อพิจารณาการออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เกี่ยวกับอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง
ทั้งนี้ เนื่องด้วย พ.ร.ก.กำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจ เพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ 72 จังหวัด พ.ศ.2546 สิ้นผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 จึงมีผลทำให้ประกาศกรมโยธาธิการและผังเมือง เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เกี่ยวกับอาคารพาณิชยกรรม ประเภทค้าปลีกค้าส่งสิ้นสุดลงตามไปด้วย
หลังจากนั้น ได้มีประกาศใช้บังคับ พ.ร.ก.กำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ 72 จังหวัด พ.ศ.2549 โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการออกประกาศได้ตามความเหมาะสม และความจำเป็นกับศักยภาพพื้นที่ เศรษฐกิจ และสังคม โดยจะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผังเมืองจังหวัด
นายศานิตย์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการได้เห็นด้วยกับร่างประกาศกรมโยธาธิการและผังเมือง ในท้องที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งได้มีการประชุมพิจารณาไปแล้วเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยประกาศฉบับนี้ไม่รวมถึงบริเวณที่ได้มีการประกาศให้ใช้ผังเมืองรวมแล้ว ได้แก่ เขตเทศบาลเมืองสระแก้วและเทศบาลเมืองอรัญประเทศ
ประกาศดังกล่าวห้ามไม่ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อก่อสร้าง ดัดแปลง ใช้หรือเปลี่ยนแปลงเป็นอาคารพาณิชย์ ประเภทค้าปลีกค้าส่งที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันตั้งแต่ 300 ตารางเมตรขึ้นไป เว้นแต่ในท้องที่ 5 เทศบาล ได้แก่ เทศบาลตำบลศาลาลำดวน เทศบาลตำบลวัฒนานคร เทศบาลตำบลเขาฉกรรจ์ เทศบาลตำบลวังน้ำเย็น เทศบาลตำบลตาพระยา และเขตตำบลวัฒนานคร ซึ่งการใช้พื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ 300 ตารางเมตร แต่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ 10 ข้อ อาทิ ที่ดินต้องอยู่ติดถนนสาธารณะที่มีช่องทางจราจร 4 ช่องทาง และอื่นๆ เป็นต้น
ส่วนการใช้ประโยชน์จากที่ดินเกินกว่า 1,000 ตารางเมตร ซึ่งอนุญาตได้เฉพาะเขตเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลวัฒนานครแห่งเดียว โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ คือ อยู่ห่างจากเขตเทศบาลตำบลวัฒนานคร ไม่น้อยกว่า 2 กิโลเมตร ที่ดินต้องอยู่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหรือถนนสาธารณะที่มีช่องทางจราจรไม่น้อยกว่า 6 ช่องทาง หรือมีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า 40 เมตร เป็นต้น
นายศานิตย์ กล่าวต่อว่า ในขณะที่กำลังรอ พ.ร.บ.ค้าปลีกค้าส่ง ที่กระทรวงพาณิชย์กำลังผลักดันเข้าสู่สภาอยู่ จึงต้องมีประกาศฉบับนี้ เพื่ออุดช่องโหว่ป้องกันห้างฯค้าปลีกข้ามชาติเข้ามาตั้งในพื้นที่ ซึ่งประกาศฉบับนี้น่าจะมีผลบังคับใช้ไม่เกิน 6 เดือน แต่ก็มีความจำเป็นเพื่อเป็นการคุ้มครองร้านค้าปลีกและผู้ประกอบการรายย่อยในจังหวัด
ขณะนี้จังหวัดสระแก้วมีนโยบายให้ทุกเทศบาล ชะลอการพิจารณาอนุญาตห้างฯยักษ์ใหญ่ต่างๆ ไปสักระยะก่อน โดยเฉพาะเขตอำเภอเมืองสระแก้ว ที่ผู้ประกอบการรายย่อยร้องเรียนมาว่า ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี และเทสโก้โลตัส จะมาสร้างในพื้นที่หลังจากนี้แล้วจะนำมติที่ประชุมทำเป็นหนังสือส่งให้ผู้บริหารเทศบาลเมืองสระแก้วอีกทางหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา มีห้างฯค้าส่งค้าปลีกต่างชาติ 2 รายมาติดต่อซื้อที่ดินในพื้นที่ ซึ่งทางผู้ประกอบการหลายรายรู้สึกกังวลอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาแม็คโครเพิ่งเปิดไปไม่นานร้านค้าต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดได้ให้นายกเทศมนตรีเมืองสระแก้วเรียกประชุมผู้ประกอบการค้ารายย่อยในพื้นที่ เพื่อหาข้อตกลงและทำความเข้าใจ แต่จนมาถึงบัดนี้ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด ซึ่งผู้ประกอบการรายย่อยดังกล่าววิตกถึงปัญหาเพราะเทศบาลเมืองสระแก้ว จะหมดวาระในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้
นายศานิตย์ นาคสุขศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการผังเมืองระดับจังหวัด เพื่อพิจารณาการออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เกี่ยวกับอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง
ทั้งนี้ เนื่องด้วย พ.ร.ก.กำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจ เพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ 72 จังหวัด พ.ศ.2546 สิ้นผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 จึงมีผลทำให้ประกาศกรมโยธาธิการและผังเมือง เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เกี่ยวกับอาคารพาณิชยกรรม ประเภทค้าปลีกค้าส่งสิ้นสุดลงตามไปด้วย
หลังจากนั้น ได้มีประกาศใช้บังคับ พ.ร.ก.กำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ 72 จังหวัด พ.ศ.2549 โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการออกประกาศได้ตามความเหมาะสม และความจำเป็นกับศักยภาพพื้นที่ เศรษฐกิจ และสังคม โดยจะต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผังเมืองจังหวัด
นายศานิตย์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการได้เห็นด้วยกับร่างประกาศกรมโยธาธิการและผังเมือง ในท้องที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งได้มีการประชุมพิจารณาไปแล้วเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยประกาศฉบับนี้ไม่รวมถึงบริเวณที่ได้มีการประกาศให้ใช้ผังเมืองรวมแล้ว ได้แก่ เขตเทศบาลเมืองสระแก้วและเทศบาลเมืองอรัญประเทศ
ประกาศดังกล่าวห้ามไม่ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อก่อสร้าง ดัดแปลง ใช้หรือเปลี่ยนแปลงเป็นอาคารพาณิชย์ ประเภทค้าปลีกค้าส่งที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันตั้งแต่ 300 ตารางเมตรขึ้นไป เว้นแต่ในท้องที่ 5 เทศบาล ได้แก่ เทศบาลตำบลศาลาลำดวน เทศบาลตำบลวัฒนานคร เทศบาลตำบลเขาฉกรรจ์ เทศบาลตำบลวังน้ำเย็น เทศบาลตำบลตาพระยา และเขตตำบลวัฒนานคร ซึ่งการใช้พื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ 300 ตารางเมตร แต่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ 10 ข้อ อาทิ ที่ดินต้องอยู่ติดถนนสาธารณะที่มีช่องทางจราจร 4 ช่องทาง และอื่นๆ เป็นต้น
ส่วนการใช้ประโยชน์จากที่ดินเกินกว่า 1,000 ตารางเมตร ซึ่งอนุญาตได้เฉพาะเขตเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลวัฒนานครแห่งเดียว โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ คือ อยู่ห่างจากเขตเทศบาลตำบลวัฒนานคร ไม่น้อยกว่า 2 กิโลเมตร ที่ดินต้องอยู่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหรือถนนสาธารณะที่มีช่องทางจราจรไม่น้อยกว่า 6 ช่องทาง หรือมีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า 40 เมตร เป็นต้น
นายศานิตย์ กล่าวต่อว่า ในขณะที่กำลังรอ พ.ร.บ.ค้าปลีกค้าส่ง ที่กระทรวงพาณิชย์กำลังผลักดันเข้าสู่สภาอยู่ จึงต้องมีประกาศฉบับนี้ เพื่ออุดช่องโหว่ป้องกันห้างฯค้าปลีกข้ามชาติเข้ามาตั้งในพื้นที่ ซึ่งประกาศฉบับนี้น่าจะมีผลบังคับใช้ไม่เกิน 6 เดือน แต่ก็มีความจำเป็นเพื่อเป็นการคุ้มครองร้านค้าปลีกและผู้ประกอบการรายย่อยในจังหวัด
ขณะนี้จังหวัดสระแก้วมีนโยบายให้ทุกเทศบาล ชะลอการพิจารณาอนุญาตห้างฯยักษ์ใหญ่ต่างๆ ไปสักระยะก่อน โดยเฉพาะเขตอำเภอเมืองสระแก้ว ที่ผู้ประกอบการรายย่อยร้องเรียนมาว่า ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี และเทสโก้โลตัส จะมาสร้างในพื้นที่หลังจากนี้แล้วจะนำมติที่ประชุมทำเป็นหนังสือส่งให้ผู้บริหารเทศบาลเมืองสระแก้วอีกทางหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา มีห้างฯค้าส่งค้าปลีกต่างชาติ 2 รายมาติดต่อซื้อที่ดินในพื้นที่ ซึ่งทางผู้ประกอบการหลายรายรู้สึกกังวลอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาแม็คโครเพิ่งเปิดไปไม่นานร้านค้าต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดได้ให้นายกเทศมนตรีเมืองสระแก้วเรียกประชุมผู้ประกอบการค้ารายย่อยในพื้นที่ เพื่อหาข้อตกลงและทำความเข้าใจ แต่จนมาถึงบัดนี้ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด ซึ่งผู้ประกอบการรายย่อยดังกล่าววิตกถึงปัญหาเพราะเทศบาลเมืองสระแก้ว จะหมดวาระในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้