xs
xsm
sm
md
lg

ซีเอ็มจีเปิดเกมโฟกัสกลุ่มเสื้อผ้าโหมแรงเลอร์-รีลอนช์แบรนด์ซาส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซีเอ็มจี ประกาศเดินเกมรุกทุกยุทธ์ศาสตร์รบทั้งในและต่างประเทศ ระบุแผนปีนี้โฟกัสกลุ่มเสื้อผ้าอีก 2 เดือนเตรียมรีลอนซ์แบรนด์ซาส พร้อมหันหน้าบุกยีนส์แรงเลอร์ หลังทิ้งตลาดมาปีเศษ ยกเครื่องใหม่หวังยังยึดอันดับ 3 ตลาดยีนส์ เชื่อหลังทำตลาด ส่งต่อยอดรวมบริษัททะลุ 5 พันล้านบาทแน่

นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป จำกัด หรือซีเอ็มจี เปิดเผยถึงการทำตลาดในกลุ่มเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป ว่า จากนี้จะรุกทำตลาดทุกรูปแบบมากขึ้น โดยจะโฟกัสที่กลุ่มสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้าในปีนี้เป็นตัวชูโรงการทำตลาด จากทุกกลุ่มสินค้าที่มีอยู่กว่า 30 กลุ่มในเครือ ทั้งนี้บริษัทฯได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของการเติบโตในตลาดกลุ่มนี้

รูปแบบการจัดทำสินค้ากลุ่มดังกล่าว บริษัทฯมีแนวทางทำตลาด 1.มุ่งเน้นการออกสินค้าตรงกลุ่มลูกค้าปรับให้ทันสมัย (ออกสินค้าเป็นรุ่นพิเศษ จำกัดรุ่น) 2.อบรมเทคนิคการขายให้กับพนักงาน 3.ทำโปรโมชั่น พร้อมทั้งการคิดอะไรใหม่ๆเข้าเสริมตลาดหลีกหนีความจำเจในตลาด 4.ตกแต่งชอป เคาน์เตอร์ให้ดูโดเด่นสะดุดตามากที่สุดเพื่อดึงความสนใจ

พร้อมกันนี้บริษัทฯยังเตรียมรีลอนช์ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าแบรนด์ ซาส (Zasch)ใหม่ในอีกช่วง 2-3 เดือน เนื่องจากแบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จักมากพอและไม่สามารถทำยอดได้ตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งอาจจะดึงดาราดังจากประเทศเกาหลีเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อเข้ากับกระแส ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดและพร้อมดำเนินการ

โดยล่าสุดบริษัทฯได้เล็งเห็นช่องว่างในตลาดกลุ่มสินค้ายีนส์ที่มีโอกาสเติบโตสวนภาวะเศรษฐกิจโดยรวมแม้จะอยู่ในช่วงขาลง แต่ยีนส์ยังสามารถทำยอดขายได้ดีอยู่

เมื่อดูจากยอดขาย 5 เดือนแรกของปี การเติบโตของกลุ่มยีนส์ ภายใต้แบรนด์ แรงเลอร์ (Wrangler) มีมากถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากการทำตลาดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่หยุดการทำตลาดมากกว่าปีครึ่ง ต่อจากนี้ไปบริษัทฯจะต้องทำตลาดมากขึ้นทั้งนี้ได้จัดงบประมาณกว่า 20-30 ล้านบาท เพื่อโปรโมตแบรนด์ในตลาดผ่านทางสื่อโฆษณา จัดโรดโชว์ตามมหาวิทยาลัย สื่อทางวิทยุ เว็บไซต์ต่างๆ พร้อมกับการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อต้องการรักษาระดับการเติบโตในกลุ่มนี้สิ้นปีให้ยังโต 10 –15% ที่วางไว้

ที่ผ่านมาหลังจากที่ได้เป็นเอเย่นต์ขายแบรนด์ดังกล่าวมากว่า 57 ปี ที่ผ่านมาได้จับกลุ่มวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 16- 30ปี ซึ่งส่วนใหญ่ยอดขายจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น กว่า 80-90% แบ่งเป็นผู้ชาย70% ผู้หญิงอีก 30% ขายผ่านช่องทางขาย 150 เคาน์เตอร์ทั่วประเทศ ชอปแรงเลอร์อีก 5 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ หัวหิน เซ็นทรัลปิ่นเกล้า สำโรง แฟชั่นไอส์แลนด์ กลุ่มลูกค้ายังให้การตอบรับดีอยู่ โดยจากนี้ไปบริษัทฯมองว่าสมควรทำตลาดเพื่อที่จะกระตุ้นตลาดเต็มที่

ทั้งนี้บริษัทฯต้องการทำตลาดรักษาระดับของมาร์เก็ตแชร์ที่มีอยู่ 20% จากมูลค่าตลาดยีนส์ที่มีมูลค่าอยู่กว่า 6,000 ล้านบาท อยู่อันดับ 3 ในตลาดแมส รองจากลีวายโดยปัจจุบันตลาดยีนส์แบ่งออก 3 เซกเม้นต์ 1. ตลาดราคาถูก 2.ตลาดแมส 3.ไฮเอนด์

นอกจากการมุ่งทำตลาดในประเทศ ยังให้ความสำคัญกับการส่งออกเพิ่มเติม โดยจะผลักดันสินค้าทั้งหมดที่บริษัทฯมีการส่งออก ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 แบรนด์ ประกอบด้วย แบรนด์เอสแฟร์ PUPPET EVOLUZIONE ZASCH ส่งออกไปยังประเทศในแถบเอเชียเพิ่มเติมจาก 9 ประเทศที่เข้าขยาย เช่น เวียดนาม มาเลเซีย สิงค์โปร์ พม่า ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยหวังว่าปี 2551 น่าจะขยายเครือข่ายครบ 15 ประเทศเพิ่มเติมตามทางการเปิดของเซ็นทรัล กรุ๊ป อีกด้วย

สำหรับผลประกอบการปีนี้ หลังจากการมุ่งมั่นการทำตลาดบริษัทฯเชื่อว่าจะสามารถทำยอดขายทั้งในและต่างประเทศพุ่งขึ้น โดยตั้งเป้าว่ายอดขายส่งออกจะต้องมากขึ้นเป็น 150 ล้านบาท จากเดิมที่ยอดการส่งออกจบที่ 100 ล้านบาท ส่งต่อให้ยอดขายในรวมปีนี้จบอยู่ที่ 5 พันล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 4,600 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น