ตาก - ประธานหอการค้าจังหวัดตากเผย มูลค่าส่งออกชายแดนแม่สอดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ชะลอตัวลง 20% ระบุเป็นผลมาจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่ชัดเจน แต่เชื่อหากมีการเลือกตั้งโดยเร็วทุกอย่างน่าจะดีขึ้น วอนทุกฝ่ายยุติการสร้างความวุ่นวายเพื่อชาติ
นายอำพล ฉัตรไชยาฤกษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่ชัดเจนในช่วงที่ผ่านมาส่งผลทำให้การค้าชายแดนด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ชะลอตัวลง โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกลดลงประมาณ 20 % เหลือประมาณ 1,300 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าส่งออกประมาณ 1,600 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากมีการจัดการเลือกตั้งในช่วงปลายปีนี้เชื่อว่า น่าจะทำให้สถานการณ์การค้าการส่งออกดีขึ้น
ขณะเดียวกันบอกว่า สิ่งที่นักธุรกิจปรารถนามากที่สุดในเวลานี้ คือ ความสงบและยุติความวุ่นวายทุกอย่าง เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งให้ได้ หากจะมีการเคลื่อนไหวก็ต้องให้เป็นไปตามกฎกติกา หรือเป็นการเคลื่อนไหวในสภาที่เป็นสากลมากกว่าและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
"ปัญหาที่เกิดขึ้นของประเทศไทย เป็นเรื่องของคนไทยด้วยกันเอง ไม่เกี่ยวกับประเทศไหนๆ ทั้งสิ้น เราต้องคุยกันเอง เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างยุติ แล้วเดินไปข้างหน้า อย่างไรก็ตาม หลังตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินคดียุบพรรคการเมืองแล้ว น่าจะทำให้เกิดมิติใหม่ทางการเมืองขึ้น ทั้งภาคการเมือง-ภาคประชาชน น่าจะพัฒนาตนเองได้ เรียนรู้บทเรียนที่เกิดขึ้นได้มาก" นายอำพล กล่าว
สำหรับการส่งออกชายแดนด้านอำเภอแม่สอด ที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ประธานหอการค้าจังหวัดตาก ระบุว่า ยังเป็นผลมาจากการที่ค่าเงินจั๊ตของพม่าตกต่ำลง ทำให้กำลังซื้อของพม่าลดลง และพม่าหันไปซื้อสินค้าของจีนมากขึ้นเนื่องจากมีราคาถูกกว่าของไทย ขณะเดียวกันที่ผ่านมาทางพม่าเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าจากไทยทำให้การส่งออกล่าช้า และปัญหาสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ทรุดตัว ให้ไม่สามารถใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนถ่ายสินค้าได้ ต้องใช้รถขนาดเล็กแทน จึงทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้จากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นหอการค้าทั้งฝ่ายไทยและพม่า ได้ทำการเปิดเจรจาหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันแล้ว ซึ่งทางทั้งสองฝ่ายจะนำปัญหาเข้าไปพูดคุยกับระดับรัฐบาลของทั้งสองประเทศ เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหา โดยปัญหาดังกล่าวนี้คงต้องแก้ในระดับรัฐบาลเท่านั้น แต่เบื้องต้นยังไม่มีผลที่ชัดเจน
นายอำพล ฉัตรไชยาฤกษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่ชัดเจนในช่วงที่ผ่านมาส่งผลทำให้การค้าชายแดนด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ชะลอตัวลง โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกลดลงประมาณ 20 % เหลือประมาณ 1,300 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าส่งออกประมาณ 1,600 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากมีการจัดการเลือกตั้งในช่วงปลายปีนี้เชื่อว่า น่าจะทำให้สถานการณ์การค้าการส่งออกดีขึ้น
ขณะเดียวกันบอกว่า สิ่งที่นักธุรกิจปรารถนามากที่สุดในเวลานี้ คือ ความสงบและยุติความวุ่นวายทุกอย่าง เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งให้ได้ หากจะมีการเคลื่อนไหวก็ต้องให้เป็นไปตามกฎกติกา หรือเป็นการเคลื่อนไหวในสภาที่เป็นสากลมากกว่าและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
"ปัญหาที่เกิดขึ้นของประเทศไทย เป็นเรื่องของคนไทยด้วยกันเอง ไม่เกี่ยวกับประเทศไหนๆ ทั้งสิ้น เราต้องคุยกันเอง เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างยุติ แล้วเดินไปข้างหน้า อย่างไรก็ตาม หลังตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินคดียุบพรรคการเมืองแล้ว น่าจะทำให้เกิดมิติใหม่ทางการเมืองขึ้น ทั้งภาคการเมือง-ภาคประชาชน น่าจะพัฒนาตนเองได้ เรียนรู้บทเรียนที่เกิดขึ้นได้มาก" นายอำพล กล่าว
สำหรับการส่งออกชายแดนด้านอำเภอแม่สอด ที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ประธานหอการค้าจังหวัดตาก ระบุว่า ยังเป็นผลมาจากการที่ค่าเงินจั๊ตของพม่าตกต่ำลง ทำให้กำลังซื้อของพม่าลดลง และพม่าหันไปซื้อสินค้าของจีนมากขึ้นเนื่องจากมีราคาถูกกว่าของไทย ขณะเดียวกันที่ผ่านมาทางพม่าเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าจากไทยทำให้การส่งออกล่าช้า และปัญหาสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ทรุดตัว ให้ไม่สามารถใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนถ่ายสินค้าได้ ต้องใช้รถขนาดเล็กแทน จึงทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้จากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นหอการค้าทั้งฝ่ายไทยและพม่า ได้ทำการเปิดเจรจาหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันแล้ว ซึ่งทางทั้งสองฝ่ายจะนำปัญหาเข้าไปพูดคุยกับระดับรัฐบาลของทั้งสองประเทศ เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหา โดยปัญหาดังกล่าวนี้คงต้องแก้ในระดับรัฐบาลเท่านั้น แต่เบื้องต้นยังไม่มีผลที่ชัดเจน