ธุรกิจโรงพิมพ์ปีนี้ต้นร้ายปลายดี ครึ่งปีแรกตลาดไม่โต เศรษฐกิจพ่นพิษเจ้าของสินค้าแห่ลดปริมาณการพิมพ์ลง ส่วนปลายปีรับอานิสงส์การเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่มีพระชนมายุครบ 80 ปี โรงพิมพ์ตะวันออก ควานหาลูกค้าเพิ่ม 6-7 รายทดแทนปริมาณการพิมพ์ลด 15% ล่าสุดทุ่ม 60 ล้านบาทซื้อเครื่องพิมพ์ใหม่ สิ้นปีตั้งเป้าโต 10% จากการมีรายได้ 660 ล้านบาท
นายวีระ เหล่าวิทวัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์ให้กับนิตยสาร หนังสือพิมพ์ ฯลฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงพิมพ์ในปีนี้อัตราการเติบโตจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้สภาพตลาดจะทรงตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ส่งผลให้เจ้าของสินค้าลดปริมาณการพิมพ์ลง สำหรับของบริษัทพบว่าปริมาณการพิมพ์ลดลง 10-15% แต่ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าภาวะตลาดโรงพิมพ์จะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นเช่นเดียวกับครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีที่แล้วตรงปีที่มีการเฉลิมเฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี และปีปลายนี้จะมีการเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่มีพระชนมายุครบ 80 ปี
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 60 ล้านบาท ซื้อเครื่องพิมพ์อีก 2 เครื่อง จากเดิมมีทั้งหมด 9 เครื่อง และเพิ่มเครื่องบรรจุซองพลาสติกอีก 1 เครื่อง เครื่องเย็บลวดแบบมีห่วงสำหรับใส่แฟ้ม โดยไม่ต้องเจาะรูที่ชิ้นงาน รวมทั้งเครื่องติดรายชื่ออัตโนมัติ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น จากในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ลูกค้าในส่วนของหนังสือพิมพ์มาใหม่ 3 ฉบับ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ดาราเดลี่ บางกอกทูเดย์ และนิเคอิ จากเดิมบริษัทมีลูกค้าหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ ได้แก่ ผู้จัดการ ทันหุ้น บางกอกทูเดย์ ส่วนแมกกาซีนมีลูกค้าเกือบ 30 ฉบับ ได้แก่ ลิปส์ เป็นต้น และปลายปีนี้บริษัทคาดว่าจะเพิ่มอีก 3-4 ฉบับ
ส่วนด้านปัญหาต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น บริษัทสามารถควบคุมได้ จากการบริหารการจัดการด้านพลังงาน และการปรับเครื่องพิมพ์ที่เสื่อมสภาพการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้กระดาษนำเข้าจากต่างประเทศมีราคาถูกลง หลังจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมากระดาษนำเข้าได้ปรับราคาเพิ่มขึ้น ส่วนด้านราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบแก่ธุรกิจโรงพิมพ์ไม่มากนัก เพราะเป็นมีต้นทุนการดำเนินงานเพียง 1% เท่านั้น
สำหรับปัจจุบันโรงพิมพ์ตะวันออก อยู่ในอันดับสามของตลาดรองจากเครืออัมรินทร์ และศิริวัฒนา โดยผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% จากการมีรายได้ 660 ล้านบาท และกำไร 120 ล้านบาท หรือโต 10% ซึ่งหากปีนี้ไม่มีปัจจัยลบด้านภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง บริษัทตั้งเป้ามีรายได้อัตราการเติบโต 20% สำหรับในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน รายได้มีอัตราการเติบโต 10% ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้จากการมีลูกค้าเพิ่มขึ้น
นายวีระ เหล่าวิทวัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์ให้กับนิตยสาร หนังสือพิมพ์ ฯลฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงพิมพ์ในปีนี้อัตราการเติบโตจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้สภาพตลาดจะทรงตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ส่งผลให้เจ้าของสินค้าลดปริมาณการพิมพ์ลง สำหรับของบริษัทพบว่าปริมาณการพิมพ์ลดลง 10-15% แต่ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าภาวะตลาดโรงพิมพ์จะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นเช่นเดียวกับครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีที่แล้วตรงปีที่มีการเฉลิมเฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี และปีปลายนี้จะมีการเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่มีพระชนมายุครบ 80 ปี
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 60 ล้านบาท ซื้อเครื่องพิมพ์อีก 2 เครื่อง จากเดิมมีทั้งหมด 9 เครื่อง และเพิ่มเครื่องบรรจุซองพลาสติกอีก 1 เครื่อง เครื่องเย็บลวดแบบมีห่วงสำหรับใส่แฟ้ม โดยไม่ต้องเจาะรูที่ชิ้นงาน รวมทั้งเครื่องติดรายชื่ออัตโนมัติ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น จากในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ลูกค้าในส่วนของหนังสือพิมพ์มาใหม่ 3 ฉบับ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ดาราเดลี่ บางกอกทูเดย์ และนิเคอิ จากเดิมบริษัทมีลูกค้าหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ ได้แก่ ผู้จัดการ ทันหุ้น บางกอกทูเดย์ ส่วนแมกกาซีนมีลูกค้าเกือบ 30 ฉบับ ได้แก่ ลิปส์ เป็นต้น และปลายปีนี้บริษัทคาดว่าจะเพิ่มอีก 3-4 ฉบับ
ส่วนด้านปัญหาต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น บริษัทสามารถควบคุมได้ จากการบริหารการจัดการด้านพลังงาน และการปรับเครื่องพิมพ์ที่เสื่อมสภาพการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้กระดาษนำเข้าจากต่างประเทศมีราคาถูกลง หลังจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมากระดาษนำเข้าได้ปรับราคาเพิ่มขึ้น ส่วนด้านราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบแก่ธุรกิจโรงพิมพ์ไม่มากนัก เพราะเป็นมีต้นทุนการดำเนินงานเพียง 1% เท่านั้น
สำหรับปัจจุบันโรงพิมพ์ตะวันออก อยู่ในอันดับสามของตลาดรองจากเครืออัมรินทร์ และศิริวัฒนา โดยผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% จากการมีรายได้ 660 ล้านบาท และกำไร 120 ล้านบาท หรือโต 10% ซึ่งหากปีนี้ไม่มีปัจจัยลบด้านภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง บริษัทตั้งเป้ามีรายได้อัตราการเติบโต 20% สำหรับในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน รายได้มีอัตราการเติบโต 10% ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้จากการมีลูกค้าเพิ่มขึ้น