พิษณุโลก/เพชรบูรณ์ – เผย 33 รีสอร์ตหรูบนเขาค้อที่กำลังเป็นปัญหาเป็นเพียง “ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง” เท่านั้น ระบุยังมีที่ รอส.อีก 3 แปลงที่วันนี้กลายเป็นรีสอร์ต–บ้านพักตากอากาศสุดหรู–ที่ดินของนายทุนใหญ่ รอวันขึ้นเขียงถูกตรวจสอบยกกระบิ หลังทยอยหมดอายุสัญญายืมใช้พื้นที่ตั้งแต่ปี 52-59 ขณะที่นายหน้า/นายทุน ซื้อที่ดินบนสมรภูมิรอวันกองทัพปล่อยมือก่อนวิ่งออกเอกสารสิทธิ
แหล่งข่าวสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพย์ เปิดเผยว่า การใช้ประโยชน์ในที่ดินแถบ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ที่กำลังมีปัญหาถูกตรวจสอบจากกองทัพภาคที่ 3 อยู่ในขณะนี้ โดยข้อเท็จจริงไม่ได้มีเฉพาะพื้นที่ ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ เท่านั้น แต่ยังมีปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้ทั้งหมด 4 แปลง หรือ 4 พื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ในอดีต จุดที่กำลังเป็นปัญหาเป็นแปลงแรกที่จะสิ้นสุดอายุการขอใช้ประโยชน์ในปี 50 นี้เท่านั้น
โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ฯได้มีหนังสือลงวันที่ 27 เม.ย.50 ส่งถึงอธิบดีฯในฐานะเจ้าของพื้นที่ รายงานผลการตรวจสอบแปลงที่ดิน ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ขอยืมใช้พื้นที่เป็นเวลา 30 ปี แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ 1) พื้นที่จำนวน 57,500 ไร่ พื้นที่ทำกินถัดจากตลอดแถวถนน 1 กิโลเมตร บนถนน นางั่ว-หนองแม่นา จำนวน 40,000 ไร่ และตลอดแถวระยะ 1 กิโลเมตร ถนนเขาค้อ-สะเดาะพง จำนวน 17,500 ไร่จะหมดอายุครบสัญญาขอยืมพื้นที่ในปี 2550
2) พื้นที่ดินตลอดแถวระยะ 1 กิโลเมตรของถนน ป่าแดง-หนองแม่นา จำนวน 30,000 ไร่ และระยะตลอดแถวถนน 1 กิโลเมตรเขาช่องลม-บุ่งน้ำเต้า จำนวน 20,875 ไร่จะหมดอายุครบสัญญาขอยืมพื้นที่ในปี 2552, 3) พื้นที่ริมถนนบ้านเล่าลือและเพชรดำจำนวน 5,625 ไร่ จะครบสัญญาขอยืมในปี 2556 และ 4) พื้นที่ดินที่เหลือ แถบ ต.ริมสีม่วง คือ บ้านเล่าลี่ และบ้านเพชรช่วยจะครบสัญญาขอยืมจากกรมป่าไม้ในปี 2559
สำหรับพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 3 จะหมดสัญญาขอยืมในปี 2550 นี้ คือ ริมถนนนางั่ว-หนองแม่นา เป็นถนนที่ตัดขึ้นมาจากในเขต ต.นางั่ว ใกล้กับ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ถึง อ.เขาค้อ เป็นสูงชัน ไม่เป็นที่นิยมของการก่อสร้างรีสอร์ต พบเห็นแค่แปลงเกษตรและบ้านลักษณะรีสอร์ตแค่ 1-2 ราย แต่เมื่อถึงเขาค้อ (สี่แยกรื่นฤดี) มุ่งหน้า ต.หนองแม่นา พบว่า เป็นแหล่งทำเลใหม่ของนายทุน ครอบคลุมพื้นที่หมู่ 1 และ หมู่ 2 ต.หนองแม่นา ซึ่งมีปัญหาซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดิน รอส.และมีรีสอร์ตขนาดใหญ่คือ ภูชิดดาว-ไร่ปลายภู และรีสอร์ตไร่เบิร์ดวิว และรีสอร์ตของปลัดอำเภอเขาค้อ
แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า เมื่อเดือน ส.ค.49 กองทัพภาคที่ 3 ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อขอต่อสัญญาขอใช้พื้นที่ต่อ ในสมัย พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 แต่เรื่องเงียบหายไป
อย่างไรก็ตาม การทำเรื่องขอต่ออายุใช้พื้นที่ของกองทัพภาคที่ 3 ทำให้กลุ่มนายทุนที่รู้ข้อมูลภายในมีความมั่นใจซื้อขายเปลี่ยนมือมากขึ้น เพราะยังไม่เห็นการต่อสัญญาจากกรมป่าไม้ โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 1 ต.หนองแม่นา ที่หมดสัญญาในปีนี้ ผู้ใหญ่บ้านจึงกล้าประกาศกับนายทุนว่า ปีนี้ทหารจะหมดอำนาจลง ผู้นำชุมชนสามารถจะรับรองสิทธิแก่ผู้มาอยู่ใหม่อย่างถูกต้องเพื่อรอการออกเอกสารสิทธิต่อไป
แหล่งข่าวบอกว่า ตามปกติการขอยืมใช้เป็นระยะเวลา 30 ปี ต่อสัญญาขอใช้อีก 10 ปี ณ วันนี้กองทัพยังไม่ได้ส่งคืนพื้นที่ทั้งหมดแก่กรมป่าไม้ ความรับผิดชอบจึงอยู่ที่กองทัพภาคที่ 3 รวมไปถึงผู้ละเมิดข้อตกลงต่างๆ ซึ่งโดยข้อเท็จจริงแล้ว ทหารได้ยืมพื้นที่ของกรมป่าไม้ในเขต ต.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ในยุคสมัยที่ปราบลัทธิคอมมิวนิสต์สำเร็จใหม่ๆ ถ้าเทียบกับเหตุการณ์ปัจจุบันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง วันนี้ “อ.เขาค้อ” กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีการก่อสร้างรีสอร์ตจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งก่อสร้างที่เป็นรีสอร์ตในเขต อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ทางสำนักฯได้ทำทะเบียนประวัติไว้หมดแล้ว ทั้งผู้ถือกรรมสิทธิ์และผู้ครอบครองรีสอร์ตอยู่ในเขตที่ดินจัดสรรราษฎรอาสา (รอส.) เขต 4 ตำบล 32 หมู่บ้าน คือ ต.สะเดาะพง ต.ริมสีม่วง ต.เขาค้อ และ ต.หนองแม่นา ที่หลายแปลงทำผิดสัญญาข้อตกลงการจัดสรรของทหาร พร้อมกับจัดทำประวัติรีสอร์ตที่อยู่นอกเขต ซึ่งมีเอกสารสิทธิ คือ บ้านทุ่งตีนผา ต.แคมป์สน และที่ดินแปลงติดถนนสาย 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) หลังจากมีนายทุนซื้อขายเปลี่ยนมือหลายรอบ ตลอดจนก่อสร้างรีสอร์ตจำนวนมาก
“กรณีราษฎรอาสา ควรแก้ไขก่อนคืนให้แก่กรมป่าไม้ อันดับแรก คือ ต้องปลด รสอ.ที่ทำผิดข้อตกลง และเพิกถอนออกจากพื้นที่โดยปล่อยให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นที่ว่างเปล่า จากนั้นค่อยเจรจาหาข้อยุติว่าจะทำอย่างไร ขึ้นอยู่กับ พล.ท.จริเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ว่า ใช้บทไม้แข็ง ขับไล่ผู้บุกรุกหรือไม่ หรือหากใช้ไม้อ่อนก็เป็นการตัดสินใจที่เสี่ยง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากตัดสินใจลงไปแล้วจะกลายเป็นบรรทัดฐานการขอยืมพื้นที่อื่นของประเทศไทย แต่เชื่อว่า ทางออกที่ดีที่สุด คือ การต่อสัญญาขอยืมใช้ไปอีก 10 ปี แต่คงไม่ใช่ 3 หรือ 5 ปีแน่นอน”แหล่งข่าวกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันที่ 2 พ.ค.50 นี้กองกิจการพลเรือน กองพลทหารม้าที่ 3 เพชรบูรณ์จะเข้าหารือกับนายอำเภอเขาค้อ ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับนายทุนรุกที่ดิน รอส. ขณะที่วันที่ 3 พ.ค.50 นายวิชัย แหลมวิไล อธิบดีกรมป่าไม้ จะเข้าพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ อ.เขาค้อ ในพื้นที่ที่มีปัญหาการบุกรุกของนายทุน
อนึ่ง พื้นที่แถบ อ.เขาค้อ เกือบทั้งหมด กองทัพภาคที่ 3 ขอยืมใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ โดยจัดสรรให้แก่ รอส. แต่ชาวบ้านซึ่งเป็น รอส.กลับนำที่ดินไปขายต่อ อย่างผิดเงื่อนไข อ้างว่าเป็นการลงทุนร่วมหรือปล่อยให้เช่า ทั้งนี้ ข้อมูลกองพลทหารม้าที่ 1 เพชรบูรณ์ เข้าตรวจสอบรีสอร์ตบนที่ดิน รอส.เดิม พบว่า มีสิ่งปลูกสร้างที่ผิดระเบียบ เงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ดินจำนวนมาก กระทั่งได้เชิญผู้ครอบครองที่ดิน 33 รายมาชี้แจง และแจ้งความดำเนินคดีจำนวน 9 ราย นอกจากนี้ยังมีที่ดินอีกจำนวนมาก ที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือไปสู่นายทุนแล้วเพียงแต่ไม่ปรากฏสิ่งปลูกสร้างให้เห็น