วงการนายหน้าที่ดินเชียงใหม่ป่วน โรงงานยาสูบมูลค่าหมื่นล้านแท้ง

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- วงการนายหน้าในเชียงใหม่ป่วน หลังโรงงานยาสูบที่มีแผนจะย้ายมาที่ อ.สันทราย ถูกระงับ เผยต้องสูญเงินมัดจำที่ดินให้ชาวบ้านรวมแล้วกว่า 10 ล้านบาท เหตุไปกว้านซื้อหวังเก็งกำไรขายให้นักลงทุนสร้างบ้านจัดสรร ระบุนักลงทุนบางรายหัวใส เตรียมเปิดบริษัทรอหวังเข้าร่วมวงโครงการ18,000ล้านบาทด้วย

แหล่งข่าวจากวงการนายหน้าค้าที่ดิน ในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตั้งแต่มีข่าวว่าโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง จะไม่ย้ายมาที่ อ.สันทราย เลยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้เพียง 1 กิโลเมตร เหมือนกับที่เคยออกข่าวมาเมื่อสมัยรัฐบาลที่แล้วว่าจะย้ายโรงงานยาสูบมาทั้งหมด ทำให้ในช่วงปี 47-48 มีการซื้อขายที่ดินเพื่อเก็งกำไรกันจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนจากส่วนกลางหลายราย เข้ามาติดต่อขอซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างบ้านจัดสรรเตรียมไว้ขายให้แก่พนักงานของโรงงานยาสูบ แต่เมื่อมีการยืนยันแน่นอนแล้วว่า จะไม่มีการย้ายโรงงานยาสูบ ทำให้บรรดานักลงทุนต่างเก็บโครงการกลับกรุงเทพฯกันหมด ส่วนนายหน้าค้าที่ดินที่ต้องวางมัดจำกับชาวบ้านที่เตรียมขายที่ดินให้ ก็ต้องสูญเสียเงินในส่วนนี้เอง

สำหรับราคาที่ดินที่มีการซื้อขายกันนั้น หากห่างจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ไปประมาณ 1-2 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงานมวนใบยาสูบ ของกระทรวงการคลัง ที่ปัจจุบันยังคงเป็นโกดังเก็บใบยาสูบอยู่ ราคาจะตกตารางวาละ 10,000-12,000 บาท แต่ถ้าห่างไกลออกไปหรือเข้าซอย ห่างจากถนนเชียงใหม่-แม่โจ้-พร้าวออกไปอีก ราคาก็จะถูกลงเล็กน้อย

"เงินมัดจำที่นายหน้าวางไว้กับชาวบ้านรวมกันหลาย ๆ รายแล้วคาดว่านายหน้าสูญเงินไปไม่ต่ำกว่า 5-10 ล้านบาทเพราะช่วงก่อนที่จะเปลี่ยนรัฐบาลใคร ๆ ต่างก็เชื่อมั่นว่าโรงงานยาสูบต้องย้ายมาที่เชียงใหม่อย่างแน่นอน และราคาที่ดินต้องขยับขึ้นไปอีก เพราะโครงการต่าง ๆ จะต้องมีตามขึ้นมาอีกมากมาย ทำให้ก่อนหน้านั้นมีนักลงทุนมากหน้าหลายตาเข้ามาในพื้นที่เชียงใหม่ และกลุ่มที่เข้ามากที่สุด ก็เห็นจะเป็นพวกเก็งกำไรเรื่องที่ดิน แต่ก็พากันเจ็บตัวไปเป็นแถว"แหล่งข่าวกล่าว

นอกจากนี้แล้ว ในวงการค้าวัสดุก่อสร้างต่างพูดคุยเป็นเสียงเดียวกันว่า ก่อนหน้าที่มีข่าวว่าโรงงานยาสูบจะย้ายมาที่เชียงใหม่ ทำให้วงการค้าวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งผู้ประกอบการทางด้านการวางระบบต่าง ๆ พากันมุ่งหวังที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับโครงการก่อสร้างแห่งนี้ เนื่องจากมีมูลค่าการก่อสร้างสูงถึง 18,000 ล้านบาท ซึ่งบางรายถึงกับเตรียมเปิดบริษัทรองานกันเลยทีเดียว

ด้านนักลงทุนสร้างบ้านจัดสรรรายหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า จริง ๆ แล้วได้เตรียมกว้านซื้อที่ดินย่านนี้ไว้เหมือนกันในช่วงปี 47-48 เพราะทราบข่าวว่าโรงงานยาสูบจะย้ายมาที่สันทราย และกลุ่มลูกค้าก็จะต้องเป็นบรรดาเจ้าหน้าที่พนักงานของโรงงานยาสูบ ที่จะต้องย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่รวมทั้งเครือญาติพี่น้องก็ต้องมาอยู่รวมกันอย่างแน่นอน แต่ถือว่าโชคดีที่ยังไม่สามารถรวบรวมที่ดินเป็นแปลงใหญ่ ๆ ได้ เพราะบริเวณริมถนนเชียงใหม่-แม่โจ้ส่วนใหญ่เป็นแหล่งชุมชนไปหมดแล้ว เหลือเพียงที่ดินที่ลึกเข้าไปเลยยังไม่ตัดสินใจทำโครงการ

"ถือเป็นเรื่องที่โชคดีของเราที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ หรือทำโครงการที่เน้นโรงงานยาสูบอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นก็ต้องสูญเงินเหมือนกันเนื่องจากภาวะอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ก็ยังมีบางโครงการที่ยังขายไม่ออกเหมือนกัน"แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังไม่ได้ให้นโยบายเกี่ยวกับแนวทางการย้ายโรงงานยาสูบ ที่เดิมเคยมีแผนจะย้ายไปสร้างที่อ.สันทราย จังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด โดยในสมัยที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีคำสั่งออกมาว่า ไม่ให้ย้ายไปสร้างที่เชียงใหม่แล้ว แต่ให้หาพื้นที่ใกล้ๆ กรุงเทพฯแทน ซึ่งมั่นใจว่า น่าจะเปลี่ยนมาสร้างที่จังหวัดสระบุรี เนื่องจากมีพื้นที่ของโรงงานยาสูบอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังจะต้องเร่งกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะตามแผนเดิม โรงงานยาสูบจะต้องส่งมอบพื้นที่ตั้งโรงงานในปัจจุบันให้แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อนำไปสร้างเป็นสวนสาธารณะภายในปีนี้

"หม่อมอุ๋ย ไม่ให้ไปสร้างที่เชียงใหม่แล้ว แต่ให้ใช้พื้นที่ใกล้ๆ กรุงเทพฯแทน ซึ่งก็มีอยู่ที่เดียว ก็คือ สระบุรี เพราะมีที่ของโรงงานยาสูบอยู่แล้ว โดยมีข้อตกลงอยู่ว่า ในปีนี้โรงงานยาสูบจะต้องส่งมอบพื้นที่ที่จะทำเป็นสวนสาธารณะให้แก่กทม. ซึ่ง ณ วันนี้ โรงงานยาสูบยังรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดูแลสวนนี้อยู่ เพราะยังไม่ได้ส่งมอบ แต่เมื่อใดที่ย้ายไป ก็จะเป็นการส่งมอบทั้งพื้นที่และค่าใช้จ่ายในการดูแลทั้งหมดด้วย แต่รมว.คลังคนใหม่ ยังไม่ได้ให้นโยบายในเรื่องนี้แต่อย่างใด" แหล่งข่าว กล่าวและว่า

ทั้งนี้ ได้มีการอ้างถึงนโยบายที่ให้ปรับแผนการย้ายโรงงานยาสูบ จากเชียงใหม่เป็นพื้นที่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ ว่า เนื่องจากพบว่า ปัจจุบันพื้นที่อ.สันทราย เป็นแหล่งชุมชนที่มีความเจริญอย่างรวดเร็ว โดยหากมีการก่อสร้างโรงงานในพื้นที่ดังกล่าวอาจจะเกิดความไม่เหมาะสม และอาจจะมีผลกระทบเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้น เพราะการขนย้ายสินค้าสำเร็จรูปที่มาจากโรงงานที่เชียงใหม่ เพื่อนำไปจำหน่ายในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศจะต้องเสียค่าประกันสินค้า

อนึ่ง โครงการโรงงานยาสูบเคยมีแผนให้ย้ายมาอยู่ที่อ.สันทราย จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2534 หรือเมื่อเกือบ 15ปีที่แล้ว ผ่านมาหลายรัฐบาลจนกระทั่งปลายปี 2547 ได้มีการตกลงกับรัฐบาลจีน ให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างในลักษณะรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี ซึ่งบริษัทที่ชนะการประมูลคือบริษัท CYC โดยมีมูลค่าทั้งหมด 18,000 ล้านบาท