ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- เทศกาลสงกรานต์เมืองเหนือปีนี้สาดน้ำกร่อย เหตุนักท่องเที่ยวแห่มาน้อยยอดจองโรงแรม-ที่พักตามแหล่งท่องเที่ยวมีไม่ถึง 50 % ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ระบุ นักท่องเที่ยวแห่มาช่วงงานพืชสวนโลกฯวูบเดียวแล้วไม่มาซ้ำ เผยรายได้ปีนี้โดยรวมจะไม่เท่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะประเด็นหมอกควัน ด้านเชียงรายเร่งบูมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ชูไร่แม่ฟ้าหลวงเป็นจุดขายช่วงสงกรานต์ หวังรายได้แซงหน้าเชียงใหม่ ที่แห้วจากการขอเปิดพืชสวนโลกฯเป็นจุดขายช่วงสงกรานต์ ด้านขนส่งจังหวัดระบุปีนี้เตรียมสำรองรถไว้เพียง 20 % เหตุนักท่องเที่ยวมีจำนวนน้อย
นายวรพงษ์ หมู่ชาวใต้ อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงยอดจองห้องพักในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ว่ามีไม่ถึง 50 % ขณะที่โรงแรมรอบนอกตัวเมืองมียอดจองเพียง 20% ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถือว่าลดลงอย่างมากจนน่าตกใจ ทั้งนี้คาดว่ารายได้โดยรวมช่วงสงกรานต์ 4-5 วันน่าจะประมาณ 500 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุหลักมาจากผลกระทบเรื่องหมอกควันตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ชะลอการเดินทางหรือยกเลิกการท่องเที่ยว
"ปัญหาหมอกควันถือได้ว่าส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติจะลดลงประมาณ 20% เนื่องจากมีการกระจายข่าวเชิงลบออกไปทั่วโลก นอกจากนี้นักท่องเที่ยวชาวไทยเอง ที่เดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็จะเปลี่ยนจุดหมายไปที่อื่นแทนด้วย" นายวรพงษ์ กล่าว
นายวรพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่อีกสาเหตุหนึ่ง คือการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่ปลายปี 2549 จนถึงต้นปี 2550 ซึ่งทำให้ระบบการตลาดของจังหวัดเชียงใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยช่วงการจัดงานดังกล่าว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 250,000 กว่าคน ซึ่งถือว่าน้อยมาก เนื่องจากแพกเกจทัวร์มีราคาสูง ทำให้ต้นทุนการท่องเที่ยวสูง นักท่องเที่ยวหลายรายจึงหันไปเที่ยวประเทศอื่นแทน รวมทั้งนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางมาเที่ยวในช่วงดังกล่าวจำนวนมากเกินไป ทำให้ไม่เดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้สิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด คือ การหาจุดดึงดูดหรือจุดขายใหม่ๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะด้านศิลปวัฒธรรม วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี ที่เป็นจุดเด่นของจังหวัด เพื่อดึงนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะตลาดอเมริกา ยุโรป ที่ถือว่าเป็นตลาดหลัก ให้มาเที่ยวมากขึ้นและไม่เปลี่ยนเส้นทางท่องเที่ยวไปยังประเทศอื่น
"จังหวัดเชียงใหม่ควรจะขายสินค้าที่มีอยู่ หรือธรรมชาติ มากกว่าการขายอีเวนต์ ที่จัดขึ้นเพียงครั้งเดียวแล้วก็หายไป นอกจากนี้ควรเร่งสร้างตลาดในประเทศ รวมทั้งจัดทำแพกเกจท่องเที่ยวที่ครอบคลุมจังหวัดข้างเคียงกันเข้าไปด้วย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระจายรายได้ให้ทั่วถึง ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวสนใจมากกว่าการจัดทำแพกเกจที่ครอบคลุมหลายจังหวัดเข้าด้วยกัน" นายวรพงษ์ กล่าว
แหล่งข่าวจากวงการโรงแรมเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า สงกรานต์ปีนี้คาดว่ารายได้ของโรงแรมส่วนใหญ่จะไม่ได้ตามเป้าเหมือนกับปีที่ผ่านมา เพราะปีนี้รายได้ส่วนใหญ่ที่โรงแรมได้รับจะเป็นช่วงงานพืชสวนโลกฯ ฉะนั้นผู้ประกอบการที่พักส่วนใหญ่ก็ทำใจกันอยู่แล้วว่า รายได้จะหดหายไปพร้อมกับงานพืชสวนโลกฯ เพราะนักท่องเที่ยวคงจะไม่กลับขึ้นมาเป็นเวลาไล่เลี่ยกันแน่นอน ประกอบกับช่วงที่เกิดหมอกควันเพิ่มเริ่มจางนักท่องเที่ยวอาจจะยังหวั่น ๆ อยู่ปริมาณการเข้ามาในเชียงใหม่ของนักท่องเที่ยวจึงลดน้อยลงไป
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้แล้วประเด็นที่สำคัญ ที่อาจจะทำให้รายได้โดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่ลดลงไปก็คือการรณรงค์งดการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบคูเมือง และบริเวณใกล้เคียงกับการเล่นสงกรานต์ทั้งหมด ซึ่งต้องยอมรับว่า เรื่องนี้อาจจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของเชียงใหม่พอสมควร เพราะจุดเล่นสงกรานต์ส่วนใหญ่อยู่บริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่เท่านั้น และรายได้โดยรวมก็กระจุกตัวอยู่ในแถบนี้แถบเดียว ประกอบกับเชียงใหม่เองมีจุดขายในเรื่องสงกรานต์ที่จุดนี้จุดเดียวเชื่อว่าหากเชียงใหม่ไม่ทำอะไรที่เป็นจุดขายใหม่ ๆ เชื่อว่าเสน่ห์ป๋าเวณีปี๊ใหม่เมืองของเชียงใหม่จะหายไปอย่างสิ้นเชิง
ชม.แห้วจากขอเปิดพืชสวนโลกฯอีกครั้งเหตุไม่มีเงิน
นายณรงค์ ตนานุวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ จังหวัดเชียงใหม่รวมทั้งตัวแทนภาคเอกชนหลายส่วน ได้แสดงความคิดเห็นร่วมกันว่า น่าจะขอกรมวิชาการเกษตรให้เปิดพื้นที่ของพืชสวนโลกฯบางส่วนเพื่อนำมาเป็นจุดขายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยขอให้มีการเปิดระหว่างวันที่ 9-17 เมษายน
ทั้งนี้ขอให้เปิดให้ประชาชนได้เข้าไปชมในเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น เช่น หอคำหลวง และส่วนแสดงนิทรรศการของกระทรวงเกษตรฯ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตอบรับหรืออนุญาตให้เปิดได้ ซึ่งคาดว่ากว่า 85 % จะไม่สามารถให้ประชาชนเข้าไปชมในช่วงสงกรานต์ได้อย่างแน่นอน สำหรับช่วงสงกรานต์ปีนี้น่าจะมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่าวันละ 100-200 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
"เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก หากไม่สามารถเปิดได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่คาดว่าน่าจะมาจากการไม่มีงบประมาณเข้าไปจัดการว่าจะจัดสรรมาจากส่วนใด"นายณรงค์กล่าว
นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมานตรีเทศบาลนครเชียงใหม่กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ของเชียงใหม่จะเป็นครบรอบ 711 ปี สรีปี๋ใหม่เมือง ฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 1-18 เมษายน เชียงใหม่จะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายเช่น งานเทศกาลศิลปวัฒนธรรมนานาชาติเชียงใหม่ที่จัดระหว่างวันที่ 1-8 เมษายน ที่บริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ พิธีทำบุญตักบาตรครบรอบ 711 ปีเชียงใหม่บริเวณลานประตูท่าแพและเทศบาลนครเชียงใหม่ ในวันที่ 12 เมษายน เวลา 8.00 น.และระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน จะมีพิธีก่อพระเจดีย์ทราย สืบชะตา สรงน้ำพระโดยเฉพาะการสรงน้ำพระวันที่ 14 เมษายน ที่จะมีการตั้งขบวนแห่เริ่มต้นที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ เดินไปตามถนนกลางเมืองเชียงใหม่ไปจนถึงวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ซึ่งจะเป็นการอัญเชิญพระพุทธรูปที่สำคัญ ๆ ของแต่ละวัดออกมาให้ประชาชนได้สรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคลวันขึ้นปีใหม่กันด้วย
รถไฟจองเต็มเหยียด-รถยนต์เหลือแถมสำรองเพียง 20 %
ด้านนายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านสถานีขนส่งจังหวัดเชียงใหม่น้อยกว่าปี 49 เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาเชียงใหม่ช่วงงานพืชสวนโลกฯเป็นจำนวนมากจึงคาดว่าในช่วงสงกรานต์ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาน้อย ทำให้มีการสำรองรถเพื่อรองรับในช่วงดังกล่าวเพียง 20 % จากเที่ยวปกติ เช่น กรุงเทพฯ-เชียงใหม่จาก160 เที่ยว/วันเป็น 200 เที่ยว/วันเท่านั้น
ส่วนยอดจองตั๋วเดินทางกลับ ส่วนใหญ่ยังมีเหลือมากพอหากเทียบกับเมื่อปีที่แล้ว ถ้าเป็นช่วงเวลานี้แทบจะหาตั๋วกลับกันไม่ได้แล้วและทางขนส่งก็จะต้องเพิ่มรถสำรองขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม คงจะต้องรอดูใกล้ ๆ วันที่ 10 เมษายนอีกครั้งหนึ่งแต่เชื่อว่ารถที่เตรียมสำรองไว้จะมีปริมาณเพียงพออย่างแน่นอน
ด้านนายสมพงษ์ บุตตะคุณ นายสถานีรถไฟเชียงใหม่ กล่าวถึง ยอดจองตั๋วรถไฟช่วงระหว่างวันที่ 1-13 เมษายน นี้มียอดจองตั๋วรถขึ้นจากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่,เชียงใหม่-กรุงเทพฯ เต็มหมดทั้ง 7 เที่ยว โดยปีนี้ไม่มีการสำรองรถเพิ่มแต่อย่างใด สำหรับยอดการจองขากลับนั้นมียอดจองทั้งสิ้น 95 % หรือวันละ 3 พันคน แต่ช่วงระหว่างวันที่ 14-20 เมษายนยังมีตั๋วว่างพอที่สามารถสั่งจองได้
นายอัชฌานนท์ เกี๋ยงคำ นายสถานีบริษัทขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าช่วงสงกรานต์ 15 -17 เพิ่มรถขึ้นอีก 100 % จากเดิมวันละ 20 เที่ยวเป็น 40 เที่ยว รถร่วมบริการจาก 63 เที่ยวเป็น 126 เที่ยวและเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารระหว่างวันที่ 7-17 เมษายน ได้มีการจัดอบรมพนักงานขับรถพร้อมกับตรวจสภาพรถโดยสารทุกคัน ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ปลอดภัยที่สุด อย่างไรก็ตาม หากรถโดยสารไม่เพียงพอในช่วงดังกล่าวได้ขอความร่วมมือจากขนส่งเพื่อนำรถ 30 คัน เข้ามาเสริมเพื่อไม่ให้ผู้โดยสารตกค้างในที่ต่าง ๆ ทั้งไปและกลับ
เชียงรายชูไร่แม่ฟ้าหลวงเป็นจุดขาย
แม่ฮ่องสอนหวั่นหมอกควันทำตัวเลขหด
นางธัญภา นิโครธานนท์ ผู้อำนวยการททท.สำนักงานภาคเหนือเขต 2 จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในช่วงสงกรานต์นี้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นมากว่าปี49 ประมาณ 40 % โดยดูจากยอดจองห้องพักระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน ที่มีประมาณ 80 % ทำให้คาดการณ์กันว่าน่าจะมีเงินสะพัดเข้าจังหวัดเชียงรายในช่วง5-6 วันนี้มีไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ทั้งนี้ททท.ร่วมกับเทศบาลนครเชียงราย ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ในพื้นที่หลายอย่าง เช่น วันที่ 12- 15 เมษายน จัดงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง จ.ศ.1369 บริเวณสวนสาธารณะหาดเชียงราย
รวมทั้งตลอดเดือนเมษายน ได้จัดขันโตกดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่ไร่แม่ฟ้าหลวง บ้านป่างิ้ว ซึ่งถือเป็นอุทยานวัฒนธรรมล้านนาของพื้นถิ่น โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. ราคา 800 ต่อหัวแต่ต้องเดินทางเข้าไปอย่างน้อย 15 คน โดยราคาดังกล่าวรวมอาหารพื้นเมืองพร้อมไวน์ 1 แก้ว และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอันงดงาม และถือเป็นตลาดใหม่ของเชียงราย
ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายวิสูตร บัวชุม หัวหน้าศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ช่วงสงกรานต์นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเพิ่มขึ้น ประมาณ 30-40 % หรือ ประมาณ20,000 คนโดยส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากนักท่องเที่ยวคนไทยส่วนใหญ่จะพากันไปท่องเที่ยวที่ภาคอื่นมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีปริมาณการเดินทางทางท่องเที่ยวไปยังภาคตะวันออก ที่เป็นทะเลมากกว่าเพราะอยู่ในช่วงลูกหลานปิดเทอมเสียส่วนใหญ่ ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่หวั่นกันว่าอาจจะเกิดหมอกควันขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอนลดลงไปได้