xs
xsm
sm
md
lg

"มีชัย"อัดรัฐบาลละเลยเสนอ กม. แนะต้องป้องกันคดีหมื่นในหลวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"มีชัย"ประเมินผลงานสนช.ยังไม่เข้าเป้า มีกฎหมายเข้าสภาน้อยมาก โดยเฉพาะรัฐบาลไม่เสนอกฎหมายที่เป็นเครื่องมือในการปัญหาวิกฤติ 4 ข้อที่เป็นต้นเหตุการยึดอำนาจเลย ชี้ต้องออกกฎหมายอาญาป้องกันคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะทุกวันนี้คนขาดความระมัดระวังกันมาก

เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.)สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช)ได้จัดสัมมนาที่โรงแรมไอยรา ปาร์ค โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)เป็นประธาน ได้กล่าวเปิดสัมมนาในหัวข้อ "ทิศทางการทำงานที่เหลืออยู่ของสนช."ว่า สนช.มีภารกิจตามรัฐธรรมนูญอยู่ 3 เรื่อง คือ การแนะนำ การให้ความเห็นชอบ การเสนอกฎหมายต่อรัฐบาล ซึ่งดำเนินการไปเรียบร้อยแต่ที่ผ่านมางานยังไม่พอมือ ทำให้มีการประชุมเพียงวันเดียวต่อสัปดาห์

เรื่องที่ 2 การตรวจสอบรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกระทู้ถาม ตั้งญัตติ ซึ่งภายหลังการตั้งกระทู้ถามหรือการตั้งญัตติแล้วยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม เป็นผลสัมฤทธิ์ เป็นเพียงแต่รู้สึกว่าได้รับรู้และระบายออกไป และ 3.การให้ข้อคิดเห็นในร่างรัฐธรรมนูญ แต่ยังมาไม่ถึง เมื่อมาถึงสนช.จะใช้เวลาพิจารณา1-2 วัน และคงมีข้อเสนอแนะไปยังสภาร่างรัฐธรรมนูญ สำหรับระยะเวลาของ สนช.จะเหลือเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับการมีเลือกตั้งขึ้นเมื่อไร และรัฐบาลที่เข้ามาจะให้อายุ สนช.เหลือเท่าไร

ประธานสนช.กล่าวว่า ตนมีข้อสังเกตุในการทำงานของคณะกรรมาธิการต่างๆ ซึ่งจะมีผลสรุปออกมาในรูปของรายงาน หรือการเสนอกฎหมาย ปรากฎว่า มีเพียงคณะกรรมาธิการคณะเดียวที่เสนอออกมาในรูปกฎหมาย และบางคณะเมื่อมีผลสรุปกลับไม่รายงานต่อที่ประชุม สนช.แต่มาเสนอรายงานกับตน ซึ่งถือเป็นการเสนอเฉพาะตัว ทำให้ขาดความเป็นปึกแผ่น ขาดพลัง ทำให้การทำงานของ สนช.ดูไม่เป็นรูปธรรม เพื่อให้การทำงานที่ทำให้เกิดรูปธรรมในอนาคต สมควรหรือไม่ที่ สนช.จะร่วมกันผลักดันกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุผลหลักในการแก้ปัญหาวิกฤตที่ผ่านมา 4 ประการ

"เป็นหน้าที่ของรัฐบาล แต่ถ้าจะพูดถึงวันนี้รัฐบาลทำอะไรใน 4 ข้อ หรือไม่ รัฐบาลไม่มีทีท่าว่าจะออกกฎหมายเพื่อวางพื้นฐานในเหตุผล 4 ประการ ของ คปค.ดังนั้น เวลาที่เหลือสมควรหรือไม่ ที่จะศึกษาอย่างจริงจังเพื่อให้รู้ถึงสาเหตุ สภาพและแนวทางในการแก้ปัญหา เพราะหากเรารู้ว่า เครื่องมือในการแก้ปัญหา คือการออกกฎหมายเราก็จะร่วมเสนอกันได้ ถ้าทำ 4 ข้อนี้ได้ ก็จะเป็นรูปธรรม และถือเป็นงานที่เป็นชิ้นเป็นอัน เช่น เรื่องการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น เราจะวางแนวทางแก้ปัญหาอย่างไร เพราะที่ผ่านมา กฎหมายอาญามีอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการร้องกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็มักพระราชทานอภัยโทษ การดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมีน้อยมาก ในที่สุดทำให้ทุกวันนี้เหมือนกับว่า ไม่ระมัดระวังกัน ผมจึงอยากให้ศึกษาว่า จะมีการสกัดกั้นอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาที่ต้องทำให้เกิดการระคายเคืองเบื้องพระยุคคลบาท และพระองค์ไม่ต้องอภัยโทษ"นายมีชัย กล่าว

นายสมหมาย ปาริจฉัตต์ สนช.แสดงความเห็นว่า ที่ผ่านมาในฐานะสื่อมวชนเคยประเมินผลงานรัฐบาลว่าได้ 5 คะแนน แต่สำหรับ สนช.เองก็น่าจะมีการประเมินตนเองว่า ทำไมมีผลงานน้อยมา โดยเฉพาะหน้าที่หลักโดยการเสนอกฎหมาย หากพิจารณาจะพบว่า มีกฎหมายที่เป็นสาระหลัก 3 ฉบับ ที่ผ่าน สนช.ได้แก่ กฎหมายงบประมาณ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ และล่าสุด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงอยากให้ สนช.ร่วมกันหาแนวทางพัฒนาการทำงานงานมากว่าการออกฎหมายที่เสนอมาจากรัฐบาล ขณะเดียวกันก็อยากให้เกิดความชัดเจนในการทำหน้าที่ของ สนช.ที่คาบเกี่ยวกับตำแหน่งข้าราชการประจำ

"คนที่รับผิดชอบดูแลกฎหมายของรัฐบาล ไม่ให้ความสนใจกับการจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังของกฎหมาย ซึ่ง กฎหมายหลายฉบับที่รัฐบาลบอกว่าสำคัญ เช่น กฎหมายภาษีมรดก กฎหมายภาษีทรัพย์สิน กฎหมายประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ พ.ร.บ.การมีส่วนร่วม ถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะเดียวกันกรณีสมาชิอกบางคนยื่นกระทู้ถามในฐานะ สนช.แล้วก็ถูกเรียกกลับหน่วยงานที่ตั้ง ผมอยากให้พวกเราพิจารณาตรงนี้ด้วย มิเช่นนั้นข้าราชการที่มาเป็น สนช.ก็คงไม่สามารถแสดงความเห็นได้ เพราะหากเป็นเช่นนี้ก็อาจประเมินได้ว่า เป็นสัญญาณที่ส่งมาจากรัฐบาล แล้วพวกเราจะมองอย่างไร “นายสมหมาย กล่าว

นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ สนช.กล่าวว่า ถ้าติดตามการทำงานของฝ่ายบริหารตอนนี้ถูกวิจารณ์มาก แต่นายกฯได้แสดงจุดยืนว่า รัฐบาลจะพยายามประคับประคองการบริหารงานไปจนถึงการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และมีการจัดเลือกตั้งจนมีรัฐบาลใหม่ แต่ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนได้ตั้งคำถามว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ โดยเฉพาะ 4 ประเด็น ของการยึดอำนาจ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลเกิดจากคมช.โดยเฉพาะประเด็นการทุจริต แม้จะมีการตั้งองค์กร เช่น คตส.ขึ้นมาตรวจสอบ แต่มีข่าวอุทธรณ์ผ่านสื่อว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการ ทำให้การดำเนินไม่ได้เต็มที่ ส่วนการแทรกแซงองค์กรอิสระ ไม่เห็นว่ารัฐบาลเสนอ หรือให้หารือ วันนี้มีขบวนการเคลื่อนไหวออกมามากมาย ดังนั้น สนช.เป็นหนึ่งในกลไกทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ สมควรนำ 4 ประเด็นดังกล่าวมาหารือ ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร อย่างน้อยควรวางรากฐานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น