xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ซัดต่อหน้าตุลาการ อัยการชี้นำคดียุบพรรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไต่สวนคดียุบ ปชป.นัดที่ 11 “ถาวร-เจือ” ยันไม่มีเอี่ยวขัดขวางการลงสมัครของพรรคเล็ก ส่วน “ไทกร” แจงเหตุแฉพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็ก ต้องการล้มระบอบทักษิณ ยันไม่ได้สนิท “เทพเทือก" ขณะที่ ตุลาการ รธน.เตือนคู่กรณีระวังคำสัมภาษณ์คดียุบพรรค ปชป.ได้ทีเหน็บอัยการ ชี้นำการวินิจฉัยของตุลาการฯ ถือว่าผิดหลักการปฎิบัติของอัยการที่ดี เจ้าตัวอ้างในฐานะคนทำคดีจะบอกว่าตัวเองแพ้คงไม่ได้ ปัดชี้นำตุลาการฯ

วานนี้ ( 29 มี.ค.) คณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนนัดที่ 11 ในคดีที่อัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้พิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า โดยเป็นการไต่สวนพยานฝ่ายผู้ถูกร้องคือพรรคประชาธิปัตย์ รวม 3 ปาก คือ นายถาวร เสนเนียม ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ นายเจือ ราชสีห์ อดีตส.ส.สงขลา และนายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายอีสานกู้ชาติ

นายถาวรและนายเจือได้เบิกความว่าไม่ได้มีส่วนสนับสนุนหรือเกี่ยวข้องกับการชุมนุมขัดขวางผู้สมัครพรรคเล็ก พร้อมกับปัดความสัมพันธ์ระหว่างนายชาลี นพวงศ์ ผู้จัดรายการวิทยุชุมชนที่ปลุกระดมให้คนสงขลาออกมาคัดค้านการรับสมัครส.ส.กับ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายถาวรระบุว่า นายชาลีได้ไปดำเนินการในลักษณะที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของนายไตรรงค์ ซึ่งนายไตรรงค์จึงไม่ให้เข้าใกล้มานานกว่า 10 ปีแล้ว

ทั้งนี้ระหว่างเบิกความนายถาวร กล่าวถึงคำให้สัมภาษณ์ของนายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดและหัวหน้าคณะทำงานคดียุบพรรคของอัยการสูงสุด ที่มีลักษณะชี้นำการวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญว่า แม้จะบอกว่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตุลาการรัฐธรรมนูญก็ตาม แม้ข้อกำหนดของตุลาการรัฐธรรมนูญข้อ 41 จะอนุโลมให้นำประมวลวิธีพิจารณาคดีอาญามาใช้ในการพิจารณาคดีได้ ตนก็คิดว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของโฆษกอัยการสูงสุดเช่นนี้เป็นการดำเนินการที่ผิดหลักการของการปฏิบัติงานของพนักงานอัยการที่ดี

นอกจากนี้ยังได้ย้อนการทำงานของอัยการว่าทำตัวเป็นแค่นายไปรษณีย์ ที่ไม่ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานความถูกต้องของคดียุบพรรคที่ กกต.ได้อ้างเป็นหลักฐานในคดีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ตุลาการรัฐธรรมนูญผู้นำหน้าที่ ดำเนินการไต่สวน ได้กล่าวขึ้นว่า ขอเตือนคู่กรณีว่าเวลาจะให้สัมภาษณ์อะไรต้องใช้ความระมัดระวัง ตรงนี้ก็คิดว่าจะเตือนอยู่พอดี การพูดอะไรจะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย

ด้านนายไทกร เบิกความว่าเหตุที่ไม่เคยไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย เพราะไม่ชอบวิธีการบริหารพรรคของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นเผด็จการ มีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อการบริหารแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตย มีข้อครหาเรื่องทุจริตคอรัปชั่นเป็นจำนวนมาก และยังเป็นคนที่มีจิตใจโลเลจะเห็นได้จากเมื่อครั้งเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม ซึ่งเหตุที่ตนเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพราะไม่ชอบระบอบทักษิณ จึงเป็นผู้หาข้อมูลทุจริตของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งให้กับผู้ที่ขึ้นปราศรัยในเวทีพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยเพราะต้องการให้พ.ต.ท.ทักษิณลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกันก็ทราบจากคนรู้จักคือ นายสุขสันต์ ชัยเทศ ผู้ประสานงานพรรคพัฒนาชาติไทยว่ามีผู้บริหารพรรคไทยรักไทย4-5คนไปติดต่อให้ไปหา พรรคการเมืองเล็ก ส่งผู้สมัครประกอบกับคนของพรรคไทยรักไทยเพื่อหนีปัญหา20 % ซึ่งภายหลังนายสุขสันต์ถูกหักหลังไม่ได้เงินจากผู้ว่าจ้าง จึงนำเรื่องนี้มาเปิดเผยกับตน ซึ่งตนไม่ได้รู้จักสนิทสนมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย ์แม้จะเคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนในอดีต

นายไทกร ยังระบุถึงเหตุผลที่เดินทางไปบ้านนายบุญทวีศักดิ์ อมรศิลป์ หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย พร้อมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์และคณะว่า เพราะต้องการไปเอาซีดีหลักฐานการปลอมแปลงรายชื่อ สมาชิกพรรคพัฒนาชาติไทยที่อยู่กับนายบุญทวีศักดิ์ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกทำลาย โดยไม่ได้มีการเสนอให้เงินหรือผลประโยชน์ตอบแทนใดๆ

ส่วนการไปพบนายวรรธวริทธิ์ ตันติภิรมย์ หัวหน้าพรรคชีวิตที่ดีกว่า ที่โรงแรมเดอะแกรนด์ รัชดาภิเษกจนถูกอัดวิดีโอเป็นหลักฐานมาร้องกับกกต.นั้น เพราะรับทราบว่าขณะนั้นพรรคไทยรักไทยได้เปลี่ยนผู้ดำเนินการจ้างพรรคเล็กจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา มาเป็นนายพินิจ จารุสมบัติ โดยให้นายกว้าง รอบคอบ เป็นผู้ดำเนินการ

ภายหลังการไต่สวน นายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่ามีความเป็นไปได้ที่พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไทยรักไทยจะถูกยุบว่า ไม่มีความตั้งใจที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เพราะโดยมารยาทจะไม่ก้าวล่วงดุลยพินิจของตุลาการรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามในฐานะของคนที่ทำคดีหากบอกว่าคดีที่ตัวเองทำแพ้คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งก็ให้บอกไปว่า อาจมีความเป็นไปได้เท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลเป็นสำคัญ

“เรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อผมมาก รับโทรศัพท์จนหูชาจากทั้ง 2 พรรคใหญ่ แต่คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร และหลังการไต่สวนคดียุบพรรคในวันนี้ก็ได้ชี้แจงให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญเข้าใจแล้ว เดิมทีผมได้เตรียมเอกสารคำให้สัมภาษณ์มาแจก ให้ทุกฝ่ายรับทราบแต่คณะตุลาการฯไม่อนุญาต ซึ่งรับทราบภายหลังว่าทางอัยการสูงสุดได้ทำเอกสารชี้แจงแจกจ่ายไปยังสื่อมวลชนทุกรายแล้ว”
กำลังโหลดความคิดเห็น