xs
xsm
sm
md
lg

ไฟเขียวขยายงาน สตช. "วงกต"นั่งรอง ผบ.ตร.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ก.ต.ช.อนุมัติปรับปรุงโครงสร้าง สตช. 5 ด้าน เน้นปราบปราม สบช่องชงตั้ง"วงกต มณีรินทร์-สมบัติ อมรวิวัฒน์"ขึ้นรอง ผบ.ตร.เต็มตัว ยกเลิกที่ปรึกษาสบ.9 เทียบเท่า ผู้ช่วย ผบ.ตร.อ้างเพื่อให้อำนาจเต็มในการปฎิบัติหน้าที่ เตรียมเสนอ ก.ตร.รับรอง 4 เม.ย.นี้

วานนี้(28 มี.ค.)ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.)ครั้งที่ 3 ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ ตนได้เสนอขยายงานหลักเป็น 7 สายงานที่เพิ่งแบ่งใหม่เพราะเดิมตำรวจมุ่งเน้นปราบปรามมากกว่าการป้องกัน โดยปล่อยให้มีการปล้นฆ่าแล้วค่อยไปตามจับ ถือเป็นการคิดผิด จึงได้ขอขยายงานด้านการป้องกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมขึ้น ซึ่งที่ประชุมได้อนุมัติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอทั้งหมด

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่านอกจากนี้จะต้องรุกเข้าไปแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นงานสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมสิ่งใดที่ผิดกฎหมายก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย เมื่อเรารุกและป้องกันแล้วแต่ยังมีการกระทำที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้นเราก็ต้องมีฝ่ายสืบสวนสอบสวนและกฎหมายที่จะเข้าไปดำเนินการเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ให้ได้ ฉะนั้นงานของตำรวจจะเปลี่ยนไป ซึ่งที่ประชุมได้อนุมัติตามที่เสนอ

ทั้งนี้ เมื่อมีการอนุมัติแล้ว ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.ไม่พอ จึงได้ขออนุมัติปรับที่ปรึกษากฎหมาย สบ.10 โดยเรียนตรงๆไปว่า ตำแหน่งของ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ ที่ปรึกษา(สบ.10)เข้ามาเป็นรอง ผบ.ตร.ฝ่ายสืบสวนปราบปรามอาชญากรรม และบรรดาที่ปรึกษากฎหมาย สบ.9 ซึ่งเทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร.ก็เข้ามาเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ทั้งหมด เพื่อให้มีอำนาจทางกฎหมาย และหลังจากนี้ ตนจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)เพื่ออนุมัติให้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งต่างๆ เหล่านี้ จากนั้นจะปรับงานระดับกองบัญชาการนครบาล กองบังคับการจังหวัดต่างๆ และสถานีตำรวจให้สอดคล้องกับงานเหล่านี้ อาจจะต้องเพิ่ม ลด เกลี่ย ในแต่ละแห่ง เพื่อทำให้เป็นระบบทั้งประเทศ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนยังได้เสนอขอรับข้าราชการตำรวจที่มีวุฒิตั้งแต่ ปวส.ขึ้นไป หมายความว่าไม่รับวุฒิ ม.6 เพราะความรู้ไม่เพียงพอที่จะให้การบริการประชาชน และเพื่อขจัดปัญหาความไม่ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อตำรวจ ระดับปริญญาตรีหรือโท ก็สามารถมาสมัครได้ แต่มาตรฐานขั้นต่ำต้องเป็นปวส. เวลานี้อัตราตำรวจขาดแคลนถึง 50,000 กว่าอัตรา ทั้งนี้ ขั้นตอนที่จะบรรจุเป็นนายสิบ หรือสิบตำรวจตรี โท จ่า เหล่านี้ ซึ่งเดิมกำหนดไว้ 3 ปี ถึงจะเลื่อนยศ ต่อไปนี้ถ้ามีวุฒิ ปวส.ปริญญาตรี โท เข้ามา จะมีการอบรมและบรรจุจากนั้นจะมีการเลื่อนยศเป็นปีละ 1 ยศ และสามารถขึ้นเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความเมตตาให้เพิ่มอัตรานายตำรวจสัญญาบัตรขึ้นมาได้อีก แต่ตอนนี้ยังไม่มีตัวเลข

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ให้เพิ่มพนักงานสอบสวนหญิงชั้นประทวน ที่จะมาควบคุมกำกับดูแลม็อบต่างๆ ที่เป็นพวกผู้หญิงตามที่เสนอไป

วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบช.ประจำตร.)ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี ก.ต.ช.ได้มีมติ กำหนดตำแหน่งใหม่ โดยให้ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ ที่ปรึกษา(สบ10)เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ตำแหน่งหลัก เช่นเดียวกับตำแหน่งของพล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง ที่เดิมเป็นตำแหน่งเฉพาะตัวให้เข้าสู่ตำแหน่งรอง ผบ.ตร.หลัก เช่นกัน ทั้งนี้เหตุผลที่ต้องปรับข้าสู่ตำแหน่งหลักก็เพื่อให้มีอำนาจเต็มที่ในการปฏิบัติภารกิจ รอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบในสายงานหลักทั้ง 7 สายงาน ที่เพิ่งแบ่งใหม่ ก่อนหน้านี้

โฆษก ตร.กล่าวว่า จากนั้นในการประชุมก.ตร.ในวันที่ 4 เม.ย.ก็จะนำวาระกำหนดตัวบุคคลบรรจุลงในตำแหน่งที่กำหนดใหม่ เข้าสู่ที่ประชุม ก.ตร. ทั้งนี้ จะไม่มีการแต่งตั้งเปลี่ยนแปลงตัวบุคคล เพียงแต่ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมก.ตร. เพื่อให้ให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 นอกจากนี้ภายในสัปดาห์นี้ จะมีคำสั่งแต่งตั้งระดับ ผกก.ถึงสารวัตร ในอัตราตำแหน่ง กอ.รมน.ซึ่งทาง กอ.รมน.เพิ่งมีหนังสืออนุมัติเปิดตำแหน่งให้มาอีกประมาณ 30 ตำแหน่ง โดยหากรวมตำแหน่งที่จะมีการสลับสับเปลี่ยนด้วยก็คาดว่ามีประมาณ กว่า 100 ตำแหน่ง

รายงานข่าวแจ้งว่า ในเวลา 14.00 น. วันที่ 4 เม.ย.จะมีการประชุม ก.ตร.ขึ้นที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนอกจากมีวาระรับรองตำแหน่งระดับรอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร.ตามที่ ก.ต.ช.เพิ่งกำหนดตำแหน่งใหม่แล้ว ยังมีวาระแต่งตั้งนายพลในตำแหน่งจเรตำรวจ และฝ่ายอำนวยประจำสำนักงานประมาณ 40 ตำแหน่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น