ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- คสศ.เสนอหอการค้าเหนือตอนบน หรือหอฯ 10 จังหวัดจับมือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ผนึกกำลังร่วมจัดอีเวนต์ใหญ่ผ่าทางตันท่องเที่ยวซบ หลังพืชสวนโลก-มลพิษทางอากาศ แทนปล่อยให้ต่างคนต่างทำจนไร้แรงดึงดูดนักท่องเที่ยว
หลังจากเสร็จสิ้นงานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติ ฯ2549 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบกับจังหวัดภาคเหนือตอนบนต้องผจญกับปัญหาหมอกควัน มลพิษทางอากาศต่อเนื่องนานกว่า 20 วัน จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยรวม ปริมาณนักท่องเที่ยว-อัตราการจองห้องพักล่วงหน้าที่ลดลงเฉลี่ย 20-30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือแม้กระทั่งการจองห้องในช่วงสงกรานต์ จนถึงวันนี้บางโรงแรมก็ยังไม่มีคำสั่งจองเข้ามา สะท้อนให้เห็นถึงภาวะการท่องเที่ยวของภาคเหนือตอนบนที่เริ่มมีปัญหาอย่างหนักนั้น
นายอนันต์ เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) เปิดเผยว่า ช่วงที่มีการจัดงานพืชสวนโลกฯที่เชียงใหม่ที่ถือเป็นงานใหญ่ระดับประเทศ-ระดับโลกที่จังหวัดเชียงใหม่ ต้องยอมรับว่าประสบความสำเร็จมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในเชียงใหม่ต่อเนื่องถึงจังหวัดใกล้เคียงมากกว่า 3 ล้านคน จนมีคำพูดติดต่อในกลุ่มพ่อค้า นักธุรกิจในเชียงใหม่ช่วงนั้นว่า "ต้องใช้เข่ง ใส่เงินสด ๆ วันละ 2-3 เข่งเป็นอย่างต่ำ"
หลังเสร็จสิ้นงานพืชสวนโลกฯ พบว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในเชียงใหม่-จังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือ กลับหายไปอย่างสิ้นเชิง ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธาน คสศ.-หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ จึงเสนอแนวคิดให้จังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือ อาจจะเป็นกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ร่วมกันจัดอีเวนต์ใหญ่ ๆ ขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยหมุนไปตามจังหวัดต่าง ๆ อย่าจำกัดไว้เฉพาะจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น
เช่น ภาคเหนือตอนบนร่วมกันจัดงานเซรามิกโลก ที่จังหวัดลำปาง จากนั้นจัดหม้อฮ่อมโลก ที่จังหวัดแพร่ เป็นต้น และระหว่างที่มีการจัดงาน จังหวัดต่าง ๆ ที่อยู่ในเครือข่ายก็ร่วมกันทำแพกเกจนำเที่ยวเชื่อมโยงกับงานที่จัดขึ้นมารองรับ เช่นเดียวกับที่เคยทำในช่วงงานพืชสวนโลกฯ เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยรวมของภาคเหนือตอนบนได้
ขณะเดียวกันองค์กรต่าง ๆ ทั้งรัฐ-เอกชน ในพื้นที่ก็ต้องร่วมกันโปรโมต สร้างกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวร่วมกัน แทนปล่อยให้แต่ละจังหวัดต่างคนต่างทำ จนกลายเป็นการแย่งชิงลูกค้ากลุ่มเดียวกันไป ไม่มีพลังมากพอที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้
หลังจากเสร็จสิ้นงานมหกรรมพืชสวนโลก เฉลิมพระเกียรติ ฯ2549 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบกับจังหวัดภาคเหนือตอนบนต้องผจญกับปัญหาหมอกควัน มลพิษทางอากาศต่อเนื่องนานกว่า 20 วัน จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวโดยรวม ปริมาณนักท่องเที่ยว-อัตราการจองห้องพักล่วงหน้าที่ลดลงเฉลี่ย 20-30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือแม้กระทั่งการจองห้องในช่วงสงกรานต์ จนถึงวันนี้บางโรงแรมก็ยังไม่มีคำสั่งจองเข้ามา สะท้อนให้เห็นถึงภาวะการท่องเที่ยวของภาคเหนือตอนบนที่เริ่มมีปัญหาอย่างหนักนั้น
นายอนันต์ เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) เปิดเผยว่า ช่วงที่มีการจัดงานพืชสวนโลกฯที่เชียงใหม่ที่ถือเป็นงานใหญ่ระดับประเทศ-ระดับโลกที่จังหวัดเชียงใหม่ ต้องยอมรับว่าประสบความสำเร็จมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในเชียงใหม่ต่อเนื่องถึงจังหวัดใกล้เคียงมากกว่า 3 ล้านคน จนมีคำพูดติดต่อในกลุ่มพ่อค้า นักธุรกิจในเชียงใหม่ช่วงนั้นว่า "ต้องใช้เข่ง ใส่เงินสด ๆ วันละ 2-3 เข่งเป็นอย่างต่ำ"
หลังเสร็จสิ้นงานพืชสวนโลกฯ พบว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในเชียงใหม่-จังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือ กลับหายไปอย่างสิ้นเชิง ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธาน คสศ.-หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ จึงเสนอแนวคิดให้จังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือ อาจจะเป็นกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ร่วมกันจัดอีเวนต์ใหญ่ ๆ ขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยหมุนไปตามจังหวัดต่าง ๆ อย่าจำกัดไว้เฉพาะจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น
เช่น ภาคเหนือตอนบนร่วมกันจัดงานเซรามิกโลก ที่จังหวัดลำปาง จากนั้นจัดหม้อฮ่อมโลก ที่จังหวัดแพร่ เป็นต้น และระหว่างที่มีการจัดงาน จังหวัดต่าง ๆ ที่อยู่ในเครือข่ายก็ร่วมกันทำแพกเกจนำเที่ยวเชื่อมโยงกับงานที่จัดขึ้นมารองรับ เช่นเดียวกับที่เคยทำในช่วงงานพืชสวนโลกฯ เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยรวมของภาคเหนือตอนบนได้
ขณะเดียวกันองค์กรต่าง ๆ ทั้งรัฐ-เอกชน ในพื้นที่ก็ต้องร่วมกันโปรโมต สร้างกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวร่วมกัน แทนปล่อยให้แต่ละจังหวัดต่างคนต่างทำ จนกลายเป็นการแย่งชิงลูกค้ากลุ่มเดียวกันไป ไม่มีพลังมากพอที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้