xs
xsm
sm
md
lg

"อ้อ-บรรณพจน์"ระทึก อสส.สั่งคดีเลี่ยงภาษีวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อัยการสูงสุดนัดสั่งคดี ฟ้องหรือไม่ฟ้อง คดี"หญิงอ้อ-บรรณพจน์" เลี่ยงภาษีขายหุ้นชินคอร์ปวันนี้ "นาม"ลั่นหากสั่งไม่ฟ้อง คตส.เป็นโจทก์ฟ้องเองก็ได้ "เสรีพิศุทธ์"เข้าพบประธาน คตส. เผยเป็นเรื่องการขอกำลังตำรวจมาช่วยงานตรวจสอบ ไต่สวน ด้านบอร์ดทอท.โยนความผิดกันวุ่น ระบุ"สมชัย สวัสดิผล"คนชงเรื่องจัดซื้อตรง ซีทีเอ็กซ์ เข้าที่ประชุม ส่วนคดีกล้ายาง รมต.ส่อเค้าหลุด "บรรเจิด"อ้างต้องร่อนตะแกรง คัดเอาคนผิดจริงๆ มารับโทษ

วานนี้ (13 มี.ค.) นายอรรถพล ใหญ่สว่าง โฆษกอัยการสูงสุด แถลงถึงความคืบหน้า ในการพิจารณาคำร้องของคณะกรรมการตรวจสอบสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)เพื่อดำเนินการส่งฟ้องคดีการหลีกเลี่ยงภาษี ในการขายหุ้นกลุ่มชินคอร์ปฯ ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยาอดีตนายกรัฐมนตรี นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนางกาญจนาภา หงส์เหิน ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอัยการฯ ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว และเตรียมยื่นเสนอความเห็นต่ออัยการสูงสุด และจะมีการแถลงผลให้ทราบว่า อัยการสูงสุดจะดำเนินการส่งฟ้องหรือไม่ ในวันนี้ (14 มี.ค.)เวลา 13.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (สนามหลวง)

ด้านนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคตส. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าการจะสั่งฟ้องหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของอัยการ เพราะเป็นเรื่องของความเห็น หากอัยการสั่งไม่ฟ้อง ก็ต้องชี้แจงเหตุผลให้สาธารณชนได้รับทราบด้วย และถ้าเป็นอย่างนั้น ทางคตส.ก็สามารถเป็นโจทก์ฟ้องเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งทีมทนายขึ้นมาใหม่

**"เสรีพิศุทธ์"เข้าพบประธาน คตส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ที่ปรึกษารักษาการ ผบ.ตร.ได้เดินทางเข้าพบนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวภายหลังเข้าพบว่า ประธานคตส.ได้เชิญมาหารือถึงการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม เพื่อมาเป็นอนุกรรมการตรวจสอบ และไต่สวน โดยเบื้องต้นได้รับฟังนโยบายของคตส. และรับปากพร้อมจัดกำลังมาช่วยงาน เพื่อให้งานของคตส.ราบรื่นเรียบร้อยโดยเร็ว แต่ต้องรอคตส.ทำหนังสือขอกำลังอย่างเป็นทางการก่อน และไม่มีการหารือในเรื่องอื่นๆ

ด้านนายนาม กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ทำให้คตส.อุ่นใจ เพราะรักษาการ ผบ.ตร.ยืนยันจะให้ความร่วมมือกับคตส.ในการจัดกำลังตามที่คตส.ร้องขอ ซึ่งหากโทรศัพท์ไปก็จะจัดให้เดี๋ยวนั้น เพราะกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมีเป็นแสน แต่คตส.มีแค่ 11 คน ซึ่งแก่แล้วด้วย และเนื่องจากที่ผ่านมาต้องรอหนังสือนานร่วม 2 เดือน ทำให้เกิดปัญหาต่อการทำงาน ส่วนที่ใช้เวลาคุยกันนาน เนื่องจากคุยกันเรื่องส่วนตัว เพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน การเข้าพบครั้งนี้ทำให้รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ไม่มีการคุยเรื่องคดีต่างๆที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสอบการเป็นนอมินี ของบริษัทกุหลาบแก้ว หรือ เรื่องการทุจริตจัดซื้อกล้ายาง

**แฉ"สมชัย"ชงเรื่องซื้อซีทีเอ็กซ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 โดยมีนายอำนวย ธันธรา กรรมการ คตส.เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้เรียกบอร์ด บริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด เข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยภายหลังการประชุม นายอำนวย เปิดเผยว่า ได้เชิญบอร์ด บทม.เข้ารับทราบข้อกล่าวหาจำนวน 4 คน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดี และไม่มีใครติดใจซักถามอะไร และในวันที่ 14 มี.ค.คณะอนุกรรมการไต่สวน จะเชิญ นายสุเทพ สืบสันติวงศ์ บอร์ดทอท.มาชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งถือว่าเป็นคนแรกที่ได้ชี้แจงในคดีดังกล่าว

แหล่งข่าวจากคตส.เปิดเผยว่า ในการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา และนายบัญชา ปัตตนาภรณ์ บอร์ดทอท. ได้มีการพูดถึงการซื้อตรงเครื่องซีทีเอ็กซ์ โดยส่วนใหญ่ได้มีการซัดทอดถึง นายสมชัย สวัสดิผล รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)ช่วยปฏิบัติงานในตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ สายอำนวยการ ว่าเป็นผู้เสนอวาระการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์เข้าที่ประชุม ซึ่งในส่วนนี้ คณะอนุกรรมการไต่สวนจึงต้องพิจารณาดูอีกครั้งในประเด็นนี้

**รมต.ส่อเค้าหลุดคดีกล้ายาง

นายบรรเจิด สิงคเนติ คณะกรรมการ คตส.ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวน กรณีทุจริตโคงการกล้ายาง 90 ล้านต้น กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการร้องคัดค้าน คณะอนุกรรมการไต่สวน ซึ่งจะสิ้นสุดการคัดค้านภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นคณะอนุฯ จะมาประชุม เพื่อพิจารณาว่า ยังขาดข้อมูลด้านใดและยังมีประเด็นใดที่ต้องสอบเพิ่มหรือไม่ ถ้ามีก็คงต้องดำเนินการสอบต่อ เพื่อให้สำนวนมีความชัดเจน แต่หากไม่มี คณะอนุกรรมการก็จะประชุมเพื่อสรุปว่า โครงการดังกล่าวที่เราชี้มูลทั้ง 73 คน มีใครที่เกี่ยวข้อง กระทำความผิดดังกล่าวบ้าง ซึ่งอาจจะมีผู้ที่กระทำผิดน้องลง หรืออาจจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มขึ้นก็ได้

"การทำงานของอนุกรรมการไต่สวนกล้ายาง เหมือนกับอนุกรรมการไต่สวนหวยบนดิน คือ ต้องใช้ฐานมติของ ครม.เป็นไฟส่อง ดังนั้นจึงต้องชี้ว่า มติครม.ดังกล่าวนั้นมีความผิด ซึ่งคนที่ทำให้มติครม.ผิด คือ พวกรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนั้น ซึ่งต้องรับผิดด้วยทั้งหมด แต่ตอนนี้อนุกรรมการกำลังดูว่า คนที่เกี่ยวข้องจริงๆ คือใคร คนที่เข้าร่วมประชุมทราบเรื่องมาก่อนหน้านี้หรือไม่ หรือรู้แล้วแต่ปิดบังอำพราง ดังนั้น จึงไม่ได้หมายความว่า 73 คน ที่ถูกชี้อนุฯ ชี้มูลจะผิดทั้งหมด" นายบรรเจิด กล่าว

ส่วนการที่มองว่า ผู้บริหารบริษัท ซีพี ระดังสูงหลุดคดีนั้น ตรงนี้อย่าพึ่งสรุป ต้องดูในชั้นแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งชั้นนั้นจะมีการระบุตัวบุคคล เพื่อให้มาแก้ข้อกล่าวหา เมื่อเสร็จขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว อนุกรรมการก็จะมาพิจารณาว่า การกระทำผิดดังกล่าวทำให้รัฐเกิดความเสียหายเท่าใด จากนั้นก็จะมีพิจารณาว่าใครเอาเงินจำนวนดังกล่าวไป

**คมช.ถกรัฐบาลหาทางช่วย คตส.

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช.กล่าวถึงกรณีที่นาย แก้วสรร อติโพธิ เลขาธิการ คตส.ระบุว่าหน่วยงานทางภาครัฐ ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบคดีทุจริต คอรัปชั่นของรัฐบาลทักษิณ ว่า รัฐบาลและคมช.ได้ปรึกษากันไปแล้ว และเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา และเชื่อว่าในโอกาสหน้า หากมีข้อติดขัดในการทำงาน คงจะมีการปรึกษาหารือกัน ทั้งนี้ ประธาน คมช.และนายกฯ เห็นว่าการได้มีโอกาสพบปะกันอย่างเต็มรูปแบบก็ส่งผลดีในการติดต่อประสานงาน ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า จากการหารือกับ คตส.,ป.ป.ช.ได้ให้ความมั่นใจว่า เรื่องราวต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ หากเข้าสู่กระบวนการแล้วจะสามารถเอาผิดได้อย่างแน่นอน ซึ่งประธาน คมช.ได้พูดชัดเจนว่า รัฐบาลและ คมช. รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่ คมช.แต่งตั้งขึ้นมาทำงานตามหน้าที่ ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ คงหนีไม่พ้นความรับผิดชอบร่วมกัน ดังนั้นทุกฝ่ายต้องประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อทำสิ่งต่างๆให้ปรากฏตามข้อเท็จจริง และใครผิดก็จะต้องได้รับการลงโทษ
กำลังโหลดความคิดเห็น