"แม้ว"หยาม คตส.ตั้งอนุไต่สวนกล้ายางไม่สมศักดิ์ศรี ที่จะมาสอบอดีตนายกฯ อ้าง"บรรเจิด"โกรธแค้นส่วนตัวฐานเคยให้ความเห็นหนุน 28 ส.ว.ยื่นศาล รธน.ปลด ออกจากตำแหน่ง ด้านคตส.สวนทันควัน อนุไต่สวนมีคุณธรรมเหมาะสมแล้ว ขณะที่ทนายตระกูลชิน เข้ารับฟังข้อกล่าวหาแทนนาย เล่นแง่นายใหญ่อยู่ต่างประเทศ ขอยื้อเวลาแจงข้อกล่าวหา 4 เม.ย.นี้ คตส.ส่งหนังสือถึง คลัง-มหาดไทย เข้าร้องทุกข์หวยบนดินแล้ว ขอเวลา 3 เดือนรู้ผล ด้าน"ไทกร"ยื่น ป.ป.ช.สอบ"อดิศร เพียงเกษ" จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน
วานนี้ (12 มี.ค.)นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)แถลงว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหากรณีการทุจริตการจัดซื้อพันธ์กล้ายางพารา 90 ล้านต้นได้ส่งหนังสือร้องคัดค้านนายบรรเจิด สิงคะเนติ ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยระบุว่า มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน กรณีนายบรรเจิด ให้สัมภาษณ์เรื่องที่ 28 ส.ว.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ข้ออ้างดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นคู่กรณี เนื่องจากเป็นการให้ความเห็นของนักวิชาการ
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังร้องคัดค้าน อนุกรรมการไต่สวนกล้ายางฯทั้งคณะ โดยอ้างว่า เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ควรที่จะตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติ หรือระดับที่เหมาะสมมาไต่สวนเรื่องนี้ ซึ่งที่ประชุมมีมติยกคำร้องเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่าบุคคลที่มาไต่สวนมี่ความรู้ และคุณธรรมที่เหมาะสมแล้ว
สำหรับความคืบหน้าในการไต่สวนการทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดา ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ทั้งคุณหญิงพจมาน และพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาและชี้มูลความผิดจากคตส. ได้ส่งทนายความเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแทนแล้วในวันเดียวกันนี้ โดยได้มีการนัดหมายให้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาในวันที่ 4 เม.ย. ซึ่งเป็นการให้เวลาเกินกว่าระเบียบที่กำหนดไว้ 15 วัน เนื่องจากมีการอ้างว่า ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ต่างประเทศ ซึ่งคตส.ก็ให้โอกาสอย่างเต็มที่ แต่การชี้แจงทำได้ 2 ทาง คือ ส่งเป็นเอกสารชี้แจงมาก็ได้ หรือจะมาชี้แจงด้วยตัวเอง
นายสัก กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคตส.ได้มีการหยิบยกกรณีกรรมการคตส.ถูกโจมตีผ่านเว็บไซต์ และวิธีการอื่นๆ ขอยืนยันว่า กรรมการ คตส.ทุกคนไม่ถอดใจ ยืนยันจะทำงานด้วยความรับผิดชอบตามหลักกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม วิธีการต่างๆ ที่ทำลายคตส.ใช้ไม่ได้ผล คตส.กล้าสู้กับหลักการ และเหตุผลทุกๆเรื่อง
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังรับทราบจากนายแก้วสรร อติโพธิ ในฐานที่ดูแลโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ด้วยว่า ได้พบหลักฐานสำคัญ 2 ชิ้น และอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ครบถ้วน คาดว่า จะสรุปได้ภายในอีก 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ นายแก้วสรร ได้ระบุว่าในสัปดาห์หน้า จะสรุปโครงการบ้านเอื้ออาทรให้ที่ประชุมคตส.พิจารณาได้ 1 คดี และในสัปดาห์ถัดไป จะเสนอเพิ่มอีก 1 คดี
**แจ้งคลัง-มท.ร้องทุกข์เรื่องหวย
นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนการออกสลากพิเศษ เลขท้าย 2-3 ตัว เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้มาดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งเชื่อว่า ทั้ง 2 กระทรวง จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการตั้งอนุไต่สวนนั้น ขณะนี้ที่ประชุมยังไม่ได้เสนอใครมาเป็นอนุฯไต่สวน แต่หากคตส.มีมติให้ตนเป็นประธานอนุไต่สวน ตนก็พร้อม แต่ขั้นตอนในการไต่สวนคงต้องใช้ระยะเวลานาน เนื่องจาก คตส.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลคนที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก แต่เชื่อว่า คงใช้ระยะเวลาในการดำเนินการไม่เกิน 3 เดือน
ด้านนายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ กรรมการ คตส.ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวถึง ความคืบหน้าในการตรวยสอบการซื้อขายหุ้นในส่วนของบริษัทแอมเพิลลิช ว่า จะนัดประชุมในวันที่ 14 มี.ค.นี้ โดยจะมีการเชิญตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ ยูบีเอส ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ ในการซื้อขายหุ้นกับนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร ที่ขายหุ้นชินฯ ที่ทางแอมเพิลลิชครอบครองอยู่ เพื่อขายต่อให้กับเทมาเส็ก มาชี้แจงต่อที่ประชุมอนุกรรมการ เพื่อต้องการสอบถามตัวแทนบริษัทยูบีเอส ว่าทำไมถึงไม่ส่งเอกสารที่ทางอนุกรรมการต้องการ เพราะจนถึงขณะนี้ อนุกรรมการยังไม่ได้รับเอกสารที่ต้องการ ซึ่งหากตัวแทนยูบีเอสไม่เดินทางมาเพื่อชี้แจง อนุกรรมการตรวจสอบในวันดังกล่าว ทางอนุกรรมการ คงจะปล่อย เพื่อให้มาชี้แจงต่ออนุกรรมการไต่สวนต่อไป
เมื่อถามว่า นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า นายพาทองแท้ และน.ส.พิณทองทา จะไม่ยื่นแบบรายการประเมินภาษีรายได้ ที่จะมีเรื่องของหุ้นชินฯ ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ นายวิโรจน์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวหากเขาไม่ยื่นก็เป็นสิทธิของเขา ขอให้ คตส.ได้หลักฐานครบเสียก่อน แต่ยื่นยันว่า จะดำเนินสรุปสำนวนเพื่อเสนอให้แจ้งข้อกล่าวหา และตั้งอนุไต่สวนในแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้ แน่นอน
**ยื่นสอบ"อดิศร"ปกปิดทรัพย์สิน
ในวันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มขบวนการอีสานกู้ชาติ ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ นายอดิศร เพียงเกษ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่ายื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ และมีพฤติกรรมปกปิดซ่อนเร้นทรัพย์สิน
นายไทกร กล่าวว่า จากการตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายอดิศร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 พบว่านายอดิศร ได้แจ้งต่อป.ป.ช.ว่ามีบุตรนอกสมรส 3 คน คือ ด.ช.ราชภักดิ์ เพียงเกษ อายุ 9 ปี ด.ช.แทนราษฎร์ เพียงเกษ อายุ 6 ปี และ ด.ช.มัชฌิมา เพียงเกษ อายุ 3 ปี จากการตรวจสอบพบว่า นายอดิศร ได้เป็นผู้รับรองบุตรทั้ง 3 คน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า นายอดิศร ไม่ได้แจ้งว่าตนเองมีบุตรนอกสมรส เมื่อครั้งยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมช.วิทยาศาสตร์ฯ เมื่อเดือน พ.ย.40 ,กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมช.วิทยาศาสตร์ฯ ครบ 1 ปี เมื่อเดือน พ.ย.41 ,กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมช.คมนาคม 11 มี.ค.48 ,กรณีพ้นตำแหน่งรมช.คมนาคม 2 ส.ค.48 ,กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.48 และกรณีพ้นจากตำแหน่งรมช.คมนาคม ครบ 1 ปีเมื่อวันที่ 2 ส.ค.49 จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า นายอดิศร จงใจปกปิดไม่แจ้งให้ ป.ป.ช.ทราบว่าตนเองมีบุตรนอกสมรส ถึง 6 ครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีข้อพิรุธและเคลือบแคลงสงสัยคือน.ส.นภาพร รักษ์สัจจะ ซึ่งเป็นภรรยานอกสมรส และเป็นแม่ของลูกทั้ง 3คน ของนายอดิศร ไดทำการเปลี่ยนชื่อเป็นน.ส.ชัญชนา ศรีสัตย์ มีทรัพย์สินในครอบครองมากกว่า 20 ล้านบาท และ มีเงินฝากในบัญชีจำนวนมาก ซึ่งก่อนที่น.ส.ชัญชนา จะมาอยู่กินกับนายอดิศรนั้น น.ส.ชัญชนา เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ระดับเล็ก ในกองจัดระเบียบวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร จึงเห็นได้ชัดว่า ทรัพย์สินเหล่านี้อาจเป็นการได้มาโดยใช้อำนาจทางการเมืองของนายอดิศร หรืออาจเป็นทรัพย์สิน ที่นายอดิศร ให้น.ส.ชัญชนา เก็บครอบครองไว้แทน ซึ่งถือว่าเป็นการปิดบังซ่อนเร้นอำพรางทรัพย์สินของตนเอง
"ขอให้ ป.ป.ช.เร่งสอบสวนเอาผิดกับการกระทำของนายอดิศร โดยเร่งด่วน และขอให้ป.ป.ช.ประสานงานกับ ป.ป.ง.ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน และอายัดเงินในบัญชีของน.ส.ชัญชนา เพื่อป้องกันการโยกย้ายเงินจำนวนนี้ และเพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน ทั้งนี้นักการเมืองในปัจจุบันมักนิยมมีภรรยานอกสมรส และมีบุตรนอกสมรส เพื่อจะยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินเพื่อจะได้ไม่ต้องแจ้งต่อทาง ป.ป.ช."นายไทกร กล่าว
วานนี้ (12 มี.ค.)นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)แถลงว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหากรณีการทุจริตการจัดซื้อพันธ์กล้ายางพารา 90 ล้านต้นได้ส่งหนังสือร้องคัดค้านนายบรรเจิด สิงคะเนติ ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยระบุว่า มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน กรณีนายบรรเจิด ให้สัมภาษณ์เรื่องที่ 28 ส.ว.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ข้ออ้างดังกล่าวไม่เข้าข่ายเป็นคู่กรณี เนื่องจากเป็นการให้ความเห็นของนักวิชาการ
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังร้องคัดค้าน อนุกรรมการไต่สวนกล้ายางฯทั้งคณะ โดยอ้างว่า เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ควรที่จะตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติ หรือระดับที่เหมาะสมมาไต่สวนเรื่องนี้ ซึ่งที่ประชุมมีมติยกคำร้องเช่นกัน เนื่องจากเห็นว่าบุคคลที่มาไต่สวนมี่ความรู้ และคุณธรรมที่เหมาะสมแล้ว
สำหรับความคืบหน้าในการไต่สวนการทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดา ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ทั้งคุณหญิงพจมาน และพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาและชี้มูลความผิดจากคตส. ได้ส่งทนายความเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแทนแล้วในวันเดียวกันนี้ โดยได้มีการนัดหมายให้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาในวันที่ 4 เม.ย. ซึ่งเป็นการให้เวลาเกินกว่าระเบียบที่กำหนดไว้ 15 วัน เนื่องจากมีการอ้างว่า ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ต่างประเทศ ซึ่งคตส.ก็ให้โอกาสอย่างเต็มที่ แต่การชี้แจงทำได้ 2 ทาง คือ ส่งเป็นเอกสารชี้แจงมาก็ได้ หรือจะมาชี้แจงด้วยตัวเอง
นายสัก กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคตส.ได้มีการหยิบยกกรณีกรรมการคตส.ถูกโจมตีผ่านเว็บไซต์ และวิธีการอื่นๆ ขอยืนยันว่า กรรมการ คตส.ทุกคนไม่ถอดใจ ยืนยันจะทำงานด้วยความรับผิดชอบตามหลักกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม วิธีการต่างๆ ที่ทำลายคตส.ใช้ไม่ได้ผล คตส.กล้าสู้กับหลักการ และเหตุผลทุกๆเรื่อง
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังรับทราบจากนายแก้วสรร อติโพธิ ในฐานที่ดูแลโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ด้วยว่า ได้พบหลักฐานสำคัญ 2 ชิ้น และอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ครบถ้วน คาดว่า จะสรุปได้ภายในอีก 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ นายแก้วสรร ได้ระบุว่าในสัปดาห์หน้า จะสรุปโครงการบ้านเอื้ออาทรให้ที่ประชุมคตส.พิจารณาได้ 1 คดี และในสัปดาห์ถัดไป จะเสนอเพิ่มอีก 1 คดี
**แจ้งคลัง-มท.ร้องทุกข์เรื่องหวย
นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนการออกสลากพิเศษ เลขท้าย 2-3 ตัว เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้มาดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งเชื่อว่า ทั้ง 2 กระทรวง จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการตั้งอนุไต่สวนนั้น ขณะนี้ที่ประชุมยังไม่ได้เสนอใครมาเป็นอนุฯไต่สวน แต่หากคตส.มีมติให้ตนเป็นประธานอนุไต่สวน ตนก็พร้อม แต่ขั้นตอนในการไต่สวนคงต้องใช้ระยะเวลานาน เนื่องจาก คตส.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลคนที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก แต่เชื่อว่า คงใช้ระยะเวลาในการดำเนินการไม่เกิน 3 เดือน
ด้านนายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ กรรมการ คตส.ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวถึง ความคืบหน้าในการตรวยสอบการซื้อขายหุ้นในส่วนของบริษัทแอมเพิลลิช ว่า จะนัดประชุมในวันที่ 14 มี.ค.นี้ โดยจะมีการเชิญตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ ยูบีเอส ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ ในการซื้อขายหุ้นกับนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร ที่ขายหุ้นชินฯ ที่ทางแอมเพิลลิชครอบครองอยู่ เพื่อขายต่อให้กับเทมาเส็ก มาชี้แจงต่อที่ประชุมอนุกรรมการ เพื่อต้องการสอบถามตัวแทนบริษัทยูบีเอส ว่าทำไมถึงไม่ส่งเอกสารที่ทางอนุกรรมการต้องการ เพราะจนถึงขณะนี้ อนุกรรมการยังไม่ได้รับเอกสารที่ต้องการ ซึ่งหากตัวแทนยูบีเอสไม่เดินทางมาเพื่อชี้แจง อนุกรรมการตรวจสอบในวันดังกล่าว ทางอนุกรรมการ คงจะปล่อย เพื่อให้มาชี้แจงต่ออนุกรรมการไต่สวนต่อไป
เมื่อถามว่า นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า นายพาทองแท้ และน.ส.พิณทองทา จะไม่ยื่นแบบรายการประเมินภาษีรายได้ ที่จะมีเรื่องของหุ้นชินฯ ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ นายวิโรจน์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวหากเขาไม่ยื่นก็เป็นสิทธิของเขา ขอให้ คตส.ได้หลักฐานครบเสียก่อน แต่ยื่นยันว่า จะดำเนินสรุปสำนวนเพื่อเสนอให้แจ้งข้อกล่าวหา และตั้งอนุไต่สวนในแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้ แน่นอน
**ยื่นสอบ"อดิศร"ปกปิดทรัพย์สิน
ในวันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มขบวนการอีสานกู้ชาติ ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ นายอดิศร เพียงเกษ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่ายื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ และมีพฤติกรรมปกปิดซ่อนเร้นทรัพย์สิน
นายไทกร กล่าวว่า จากการตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายอดิศร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 พบว่านายอดิศร ได้แจ้งต่อป.ป.ช.ว่ามีบุตรนอกสมรส 3 คน คือ ด.ช.ราชภักดิ์ เพียงเกษ อายุ 9 ปี ด.ช.แทนราษฎร์ เพียงเกษ อายุ 6 ปี และ ด.ช.มัชฌิมา เพียงเกษ อายุ 3 ปี จากการตรวจสอบพบว่า นายอดิศร ได้เป็นผู้รับรองบุตรทั้ง 3 คน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า นายอดิศร ไม่ได้แจ้งว่าตนเองมีบุตรนอกสมรส เมื่อครั้งยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมช.วิทยาศาสตร์ฯ เมื่อเดือน พ.ย.40 ,กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมช.วิทยาศาสตร์ฯ ครบ 1 ปี เมื่อเดือน พ.ย.41 ,กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมช.คมนาคม 11 มี.ค.48 ,กรณีพ้นตำแหน่งรมช.คมนาคม 2 ส.ค.48 ,กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ เมื่อวันที่ 4 ส.ค.48 และกรณีพ้นจากตำแหน่งรมช.คมนาคม ครบ 1 ปีเมื่อวันที่ 2 ส.ค.49 จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า นายอดิศร จงใจปกปิดไม่แจ้งให้ ป.ป.ช.ทราบว่าตนเองมีบุตรนอกสมรส ถึง 6 ครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีข้อพิรุธและเคลือบแคลงสงสัยคือน.ส.นภาพร รักษ์สัจจะ ซึ่งเป็นภรรยานอกสมรส และเป็นแม่ของลูกทั้ง 3คน ของนายอดิศร ไดทำการเปลี่ยนชื่อเป็นน.ส.ชัญชนา ศรีสัตย์ มีทรัพย์สินในครอบครองมากกว่า 20 ล้านบาท และ มีเงินฝากในบัญชีจำนวนมาก ซึ่งก่อนที่น.ส.ชัญชนา จะมาอยู่กินกับนายอดิศรนั้น น.ส.ชัญชนา เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ระดับเล็ก ในกองจัดระเบียบวาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร จึงเห็นได้ชัดว่า ทรัพย์สินเหล่านี้อาจเป็นการได้มาโดยใช้อำนาจทางการเมืองของนายอดิศร หรืออาจเป็นทรัพย์สิน ที่นายอดิศร ให้น.ส.ชัญชนา เก็บครอบครองไว้แทน ซึ่งถือว่าเป็นการปิดบังซ่อนเร้นอำพรางทรัพย์สินของตนเอง
"ขอให้ ป.ป.ช.เร่งสอบสวนเอาผิดกับการกระทำของนายอดิศร โดยเร่งด่วน และขอให้ป.ป.ช.ประสานงานกับ ป.ป.ง.ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน และอายัดเงินในบัญชีของน.ส.ชัญชนา เพื่อป้องกันการโยกย้ายเงินจำนวนนี้ และเพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน ทั้งนี้นักการเมืองในปัจจุบันมักนิยมมีภรรยานอกสมรส และมีบุตรนอกสมรส เพื่อจะยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินเพื่อจะได้ไม่ต้องแจ้งต่อทาง ป.ป.ช."นายไทกร กล่าว