xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกบ้านปีหมูมาแรงคาดโต15%ถ้าเลือกตั้งปีนี้สื่อโอเอชเอ็มสะพัด2พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – เศรษฐกิจทรุด ผู้ประกอบการหันหน้าพึ่งการทำตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ สื่อนอกบ้านรับอานิสงส์ ปีนี้ยังโตได้อีก 10% จาก 8,383 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา “กูรู”เผย หากมีการเลือกตั้ง คาดจะมีเงินสะพัดผ่านสื่อนอกบ้านอีกกว่า 2,000 ล้านบาท ดันให้สื่อนอกบ้านขยับการเติบโตได้อีกเป็น 15% แน่นอน  พร้อมชี้ภาษีป้าย เป็นตัวฉุดให้ผู้ประกอบการหันไปใช้สื่ออื่นแทน

นางสาวสิริพร สงบธรรม บรรณาธิการ นิตยสารโอเอชเอ็ม (OHM)  ผู้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสื่อนอกบ้าน เปิดเผยว่า จากการที่สภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในภาวชะลอตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปีนี้บริษัทและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ มีการวางงบประมาณด้านการการตลาดลดลง โดยจะหันมาเน้นการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ บีโลว์ เดอะ ไลน์มากยิ่งขึ้น ขณะที่การทำกิจกรรมลักษณะดังกล่าว มักจะพ่วงเอาสื่อโฆษณานอกบ้าน (Out Of Home) หรือ OHM เข้าไปไว้ด้วย ดังนั้นจึงคาดว่า อย่างน้อยในปีนี้ ธุรกิจสื่อนอกบ้านจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อยประมาณ 10% จาก 8,383 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา
“เป็นที่น่าสังเกตว่า สื่อนอกบ้านในปีนี้ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีอยู่ เมื่อเทียบกับสื่อหลัก อย่าง โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และแมกกาซีน ทั้งนี้เกิดจาก ผู้ประกอบการเอง ที่หันมาใช้การทำตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็ยังต้องพึ่งสื่อป้ายโฆษณาอยู่ จึงทำให้สื่อนอกบ้าน โดยเฉพาะป้ายโฆษราต่างๆ มีอัตราการเติบโตกว่า 10% ในปีนี้”
อย่างไรก็ตามหากในปีนี้ทางรัฐบาลมีการจัดตั้งการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นได้จริงในช่วงกลางปีที่จะถึงนั้น คาดว่าจะมีเม็ดเงินที่ใช้ผ่านสื่อนอกบ้าน โดยเฉพาะป้ายโฆษณาต่างๆอีกกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นจริง คาดว่าในปีนี้ธุรกิจสื่อนอกบ้านจะมีอัตราการเติบโตถึง 15%
นางสาวสิริพร กล่าวต่อว่า สำหรับสื่อนอกบ้านที่กำลังจะได้รับความนิยมต่อไปนั้น ยังคงเป็นในรูปแบบเดิม แต่จะเป็นการนำเอาเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่ บวกกับการสร้างสรรค์สื่ออกมาให้มีความแปลกใหม่มากขึ้น โดยเทคโนโลยีใหม่ของสื่อนอกบ้านที่กำลังจะได้รับความนิยมต่อไปคือ ป้ายจอแอลซีดี และ3D ส่วนแนวโน้มกลุ่มธุรกิจที่จะหันมาใช่สื่อนอกบ้านมากขึ้น คือ กลุ่มสถาบันการเงินต่างๆ
ทั้งนี้ นางสาวสิริพร  ยังได้กล่าวถึงถานการณ์ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ในขณะนี้ ที่กำลังว่างลงไม่มีการเช่าพื้นที่โฆษณาบางส่วนว่า นอกจากการที่ผู้ประกอบการหันไปใช้กลยุทธ์ทางการตลาด ผ่านบีโลว์เดอะไลน์นั้น สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ว่างจากการลงโฆษณา คือ ภาษีป้าย ที่ตามกฎหมายขณะนี้ อัตราค่าภาษีป้าย จะเป็นการจ่ายลักษณะ ต่อปี ไม่ว่าผู้ประกอบการจะเช่าพื้นที่โฆษณาบนป้ายนั้นเป็นระยะเวลาไม่ถึงปีก็ตาม

ปัญหาดังกล่าวทางสมาคมผู้ผลิตป้ายและโฆษณา ได้ยื่นเรื่องต่อทางกรุงเทพมหานครแล้ว โดยเป็นการขอต่อรองลดหย่อนค่าภาษี ให้คิดตามเวลาที่เช่าป้ายโฆษณา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการพิจารณาและการตอบรับจากทางกรุงเทพฯแต่อย่างใด ขณะที่ปัจจุบันภาษีป้ายแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ 1.ภาษาไทยอย่างเดียว อนุญาตให้มีตัวเลขแบบอารบิกได้ คิดค่าภาษี ตารางเมตรละ 60 บาท ต่อปี 2.ภาษาไทย ที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษแทรกเล็กน้อย คิดในอัตรา ตารางเมตรละ 400 บาท ต่อปี และ3.ภาษาอังกฤษอย่างเดียว คิดในอัตรา ตารางเมตรละ 800 บาทต่อปี
ตามข้อมูลจากเอซี นีลสัน พบว่า งบโฆษณารวมในปี 2549 ที่ผ่านมา  ถูกใช้ไปกว่า 89,839 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ประมาณ 4.95% โดยในส่วนของสื่อนอกบ้าน คิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 9.33 % ของงบโฆษณารวม หรือกว่า 8,383 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ถึง 23.39% โดยในปีที่ผ่านมากลุ่มบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณามากสุด 5 อันดับแรก คือ 1.ยูนิลิเวอร์ ใช้ไป 5,110 ล้านบาท 2.พี แอนด์ จี ใช้ไป 1,689 ล้านบาท 3. เอไอเอส ใช้ 1,597 ล้านบาท 4.โตโยต้า ใช้ 1,379 ล้านบาท และ5.เนสท์เล่ ใช้ไป 998 ล้านบาท
โดยในส่วนของสื่อนอกบ้าน มูลค่า 8,383 ล้านบาทนั้น มาจาก สื่อเอาท์ดอร์ 4,692 ล้านบาท รองลงมา คือ สื่อภาพยนตร์ 2,404 ล้านบาท และสื่อทรานซิท (Transit) 981 ล้านบาท รวมไปถึง สื่ออินสโตร์ หรือ สื่อภายในห้างสรรพสินค้าต่างๆอีก 307 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น