คาราบาวแดง ย้ำเดินเกมสร้างรากฐานแบรนด์แข็งแกร่ง ก่อน 1 ปีสานฝันวิชั่นผู้ผลิตเครื่องดื่มคุณภาพตัวใหม่ ปั๊มรายได้ทางอื่นแทนชูกำลัง หลังตลาด 1.2 หมื่นล้านบาทไม่โต ล่าสุดจับมือตัวแทนจำหน่ายทุกภาค อัดโปรโมชั่นแจกมอเตอร์ไซค์ สิ้นปีชิงแชร์เพิ่มจาก 20% เป็น 25%
นายกมลดิษฐ์ สมุทรโคจร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คาราบาว ตะวันแดง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า แนวทางการตลาดปีนี้บริษัทฯมุ่งเน้นสร้างเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง ให้เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่ง ด้วยการครองส่วนแบ่งในสิ้นปีเพิ่มจาก 20% เป็น 25% จากนั้นในปีหน้านี้ ถึงจะพิจารณาเปิดตัวสินค้าแคธิกอรี่ใหม่นอกเหนือจากเครื่องดื่มชูกำลัง ทั้งนี้เพื่อการเติบโตของบริษัท เพราะการมีธุรกิจเพียงตัวเดียวไม่สามารถทำให้บริษัทเติบโตได้
สำหรับทิศทางของบริษัทฯในอนาคต วางเป้าหมายเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯมีความพร้อมด้านกำลังการผลิตเครื่องดื่มตัวอื่นๆ นอกเหนือจากเครื่องดื่มชูกำลัง โดยเครื่องดื่มที่บริษัทสนใจลงตลาด จะต้องเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรมแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในตลาด ส่วนจะใช้ภายใต้แบรนด์ใดขึ้นอยู่กับสินค้า หากเป็นสินค้าที่สามารถใช้แบรนด์คาราบาวแดงก็จะใช้ แต่หากเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหรืออื่นๆ คงจะต้องใช้แบรนด์อื่นแทน
แผนการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงปีนี้ มุ่งเน้นสร้างภาพลักษณ์สินค้าให้มีความทันสมัยมากขึ้น และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสินค้า เพื่อช่วยกระตุ้นปริมาณการดื่มของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น จากปัจจุบันอัตราการดื่ม 3ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น โดยปีนี้บริษัทฯได้ทุ่มงบ 300 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาในการทำตลาด เนื่องจากผู้บริโภครู้จักแบรนด์แล้วจึงไม่ต้องใช้งบการตลาดเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้บริษัทจะเน้นการทำอะโบฟเดอะไลน์สัดส่วน 60% โดยปีนี้จะไม่มีภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ยังคงใช้ภาพยนตร์โฆษณาตัวเดิม คือ “สามัคคีประเทศไทย” เนื่องจากมองว่าภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวสามารถอิงกับกระแสเหตุการณ์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ในขณะที่คู่แข่งอย่างเอ็ม –150 เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ไปแล้ว 2 เรื่อง ส่วนการทำบีโลว์เดอะไลน์สัดส่วน 40% โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรมส่งเสริมขาย แคมเปญโปรโมชันแจกรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งได้จับมือร่วมกับตัวแทนจำหน่ายในแต่ละภาค เพื่อกระตุ้นยอดขายและเข้าถึงผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่มากขึ้น
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังได้เป็นผู้สนับสนุนผ่านรายการโทรทัศน์ อาทิ เป็นผู้สนับสนุนรายการเวทีไท เดือนละ 1 ครั้ง รายการก่อนบ่ายคลายเครียด รวมทั้งจัดทีมสาวคาราบาวแดงพบโชค กระตุ้นยอดขาย ส่วนการเปิดตัวสินค้าใหม่ปีนี้บริษัทไม่มีแผน เพราะเป็นจังหวะไม่เหมาะสม สภาพตลาดไม่เอื้ออำนวย โดยหลังจากที่เปิดตัวคาราบาวแดง เอ็กซ์โอมีส่วนแบ่งน้อยมาก ซึ่งขณะนี้ไม่มีแผนที่จะเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาคาราบาวแดง เอ็กซ์โอ เนื่องจากมีรายได้ต่ำไม่คุ้มกับค่าโฆษณา
สำหรับแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท คาดว่ามีอัตราการเติบโตบวกลบอยู่ที่ 5% ทั้งนี้เป็นเพราะการเติบโตขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยกรณีที่เศรษฐกิจเติบโตดีขึ้น อัตราการจ้างงานจะมีเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลต่อปริมาณการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ทั้งนี้ในปัจจุบันผู้ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง เป็นผู้ใช้แรงงานสัดส่วน 80-90% และจากคนรุ่นใหม่ 10-20% เท่านั้น
นายกมลดิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้บริษัทฯมุ่งเน้นขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียและอเมริกา แคนาดา ซึ่งตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากการส่งออกจะเพิ่มจาก 10% เป็น 20% ในสิ้นปีนี้
นายกมลดิษฐ์ สมุทรโคจร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คาราบาว ตะวันแดง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า แนวทางการตลาดปีนี้บริษัทฯมุ่งเน้นสร้างเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง ให้เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งจากคู่แข่ง ด้วยการครองส่วนแบ่งในสิ้นปีเพิ่มจาก 20% เป็น 25% จากนั้นในปีหน้านี้ ถึงจะพิจารณาเปิดตัวสินค้าแคธิกอรี่ใหม่นอกเหนือจากเครื่องดื่มชูกำลัง ทั้งนี้เพื่อการเติบโตของบริษัท เพราะการมีธุรกิจเพียงตัวเดียวไม่สามารถทำให้บริษัทเติบโตได้
สำหรับทิศทางของบริษัทฯในอนาคต วางเป้าหมายเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯมีความพร้อมด้านกำลังการผลิตเครื่องดื่มตัวอื่นๆ นอกเหนือจากเครื่องดื่มชูกำลัง โดยเครื่องดื่มที่บริษัทสนใจลงตลาด จะต้องเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรมแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในตลาด ส่วนจะใช้ภายใต้แบรนด์ใดขึ้นอยู่กับสินค้า หากเป็นสินค้าที่สามารถใช้แบรนด์คาราบาวแดงก็จะใช้ แต่หากเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหรืออื่นๆ คงจะต้องใช้แบรนด์อื่นแทน
แผนการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงปีนี้ มุ่งเน้นสร้างภาพลักษณ์สินค้าให้มีความทันสมัยมากขึ้น และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสินค้า เพื่อช่วยกระตุ้นปริมาณการดื่มของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น จากปัจจุบันอัตราการดื่ม 3ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น โดยปีนี้บริษัทฯได้ทุ่มงบ 300 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาในการทำตลาด เนื่องจากผู้บริโภครู้จักแบรนด์แล้วจึงไม่ต้องใช้งบการตลาดเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้บริษัทจะเน้นการทำอะโบฟเดอะไลน์สัดส่วน 60% โดยปีนี้จะไม่มีภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ยังคงใช้ภาพยนตร์โฆษณาตัวเดิม คือ “สามัคคีประเทศไทย” เนื่องจากมองว่าภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวสามารถอิงกับกระแสเหตุการณ์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ในขณะที่คู่แข่งอย่างเอ็ม –150 เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ไปแล้ว 2 เรื่อง ส่วนการทำบีโลว์เดอะไลน์สัดส่วน 40% โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรมส่งเสริมขาย แคมเปญโปรโมชันแจกรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งได้จับมือร่วมกับตัวแทนจำหน่ายในแต่ละภาค เพื่อกระตุ้นยอดขายและเข้าถึงผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่มากขึ้น
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังได้เป็นผู้สนับสนุนผ่านรายการโทรทัศน์ อาทิ เป็นผู้สนับสนุนรายการเวทีไท เดือนละ 1 ครั้ง รายการก่อนบ่ายคลายเครียด รวมทั้งจัดทีมสาวคาราบาวแดงพบโชค กระตุ้นยอดขาย ส่วนการเปิดตัวสินค้าใหม่ปีนี้บริษัทไม่มีแผน เพราะเป็นจังหวะไม่เหมาะสม สภาพตลาดไม่เอื้ออำนวย โดยหลังจากที่เปิดตัวคาราบาวแดง เอ็กซ์โอมีส่วนแบ่งน้อยมาก ซึ่งขณะนี้ไม่มีแผนที่จะเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาคาราบาวแดง เอ็กซ์โอ เนื่องจากมีรายได้ต่ำไม่คุ้มกับค่าโฆษณา
สำหรับแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท คาดว่ามีอัตราการเติบโตบวกลบอยู่ที่ 5% ทั้งนี้เป็นเพราะการเติบโตขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยกรณีที่เศรษฐกิจเติบโตดีขึ้น อัตราการจ้างงานจะมีเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลต่อปริมาณการดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ทั้งนี้ในปัจจุบันผู้ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง เป็นผู้ใช้แรงงานสัดส่วน 80-90% และจากคนรุ่นใหม่ 10-20% เท่านั้น
นายกมลดิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้บริษัทฯมุ่งเน้นขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียและอเมริกา แคนาดา ซึ่งตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากการส่งออกจะเพิ่มจาก 10% เป็น 20% ในสิ้นปีนี้