อดีตประธานศาลฎีกา “ประมาณ ชันซื่อ” ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยโรคหัวใจ วัย 71 ปี รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพวัดเทพศิรินทร์ วันนี้(8 ก.พ.)เวลา 17.00 น.
วานนี้(7 ก.พ.)เวลา 14.17 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน นายประมาณ ชันซื่อ อดีตประธานศาลฎีกา ได้ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบ ด้วยโรคหัวใจ หลังเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องไอซียู 8 ชั้น 9 โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของวงศาคณาญาติและบรรดาผู้ที่ให้ความเคารพนับถือ โดยเฉพาะนางอำพันศรี ชันซื่อ ภรรยา น.พ.เอกเทศ ชันซื่อ พ.ต.ท.เอกภพ ชันซื่อ และนางปรมา ชันซื่อ บุตรชายและบุตรสาว ที่ไปเฝ้าดูแลอาการ
ทั้งนี้ นายประมาณ มีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจกำเริบมาตั้งแต่ประมาณกลางเดือน พ.ย. 2549 และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยการผ่าตัดบายพาสเส้นเลือดหัวใจ ต่อมาเกิดอาการติดเชื้อที่ปอดทั้งสองข้าง คณะแพทย์ได้ให้การรักษาจนอาการดีขึ้นเป็นลำดับ จนสามารถอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่อาการติดเชื้อที่ปอดได้กำเริบขึ้นอีก จึงต้องกลับเข้ารับการรักษาใน ร.พ.อีกครั้ง เมื่อวันที่ 3 ม.ค. โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ จนกระทั่งมาถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบในช่วงบ่าย รวมอายุได้ 71 ปี โดยมีกำหนดการรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพที่ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทร์ทราวาส ในวันนี้ (8 ก.พ.50) เวลา 17.00 น.
สำหรับประวัติของนายประมาณ เกิดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2479 สำเร็จปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทย ปริญญาโทนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกาและปริญญาเอกดุษฎีกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยเปปเปอร์ไดด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนประวัติรับราชการตำแหน่งสำคัญ อาทิ อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 5 และภาค 9 และเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมสมัยวิกฤตตุลาการยุคคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(รสช.)ครองอำนาจ ก่อนก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาในปี 2535 – 2539รวม 4 ปี
ส่วนผลงานสำคัญ เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ริเริ่มการเสนอต่ออายุข้าราชการตุลาการที่เกษียณอายุราชการ 60 ปี ให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสถึงอายุ 65 ปี ระหว่างดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาได้ก่อตั้งมูลนิธิประมาณ ชันซื่อ เพื่อให้การช่วยเหลือข้าราชการธุรการศาล และตุลาการในการอบรมศึกษาเพิ่มเติม และก่อสร้างโรงพยาบาลตุลาการเฉลิมพระเกียรติ จ.นครปฐม เพื่อรักษาพยาบาลเด็กและเยาวชนของสถานพินิจฯ
นอกจากนี้ในปี 2534-2535 รัฐบาล รสช.ซึ่งมีนายประภาศน์ อวยชัย เป็นรมว.กระทรวงยุติธรรม และนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี นายประมาณ ในฐานะปลัดกระทรวงยุติธรรมมีบทบาทสำคัญในการเรียกร้องความเป็นอิสระของผู้พิพากษาไม่ให้ถูกแทรกแซงจากฝ่ายบริหารเรื่องการแต่งตั้งประธานศาลฎีกาจนเกิ ดวิกฤตตุลาการทำให้ผู้พิพากษาแบ่งออกสองฝ่ายระหว่างนายประมาณกับนายสวัสดิ์ โชติพานิช ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนายประภาศน์แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา
กระทั่งเมื่อปี 2536 ขณะนายประมาณดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ได้เกิดคดี”ลอบสังหาร”หน้าบ้านพักที่ซอยศรีนคร ถนนนางลิ้นจี่ เขตยานนาวา ต่อมาตำรวจกองปราบปรามสืบสวนจับกุมนายรังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดังกับพวกรวม 4 คนส่งให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลยใช้จ้างวานฆ่านายประมาณต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการสืบพยาน
วานนี้(7 ก.พ.)เวลา 14.17 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน นายประมาณ ชันซื่อ อดีตประธานศาลฎีกา ได้ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบ ด้วยโรคหัวใจ หลังเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องไอซียู 8 ชั้น 9 โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของวงศาคณาญาติและบรรดาผู้ที่ให้ความเคารพนับถือ โดยเฉพาะนางอำพันศรี ชันซื่อ ภรรยา น.พ.เอกเทศ ชันซื่อ พ.ต.ท.เอกภพ ชันซื่อ และนางปรมา ชันซื่อ บุตรชายและบุตรสาว ที่ไปเฝ้าดูแลอาการ
ทั้งนี้ นายประมาณ มีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจกำเริบมาตั้งแต่ประมาณกลางเดือน พ.ย. 2549 และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยการผ่าตัดบายพาสเส้นเลือดหัวใจ ต่อมาเกิดอาการติดเชื้อที่ปอดทั้งสองข้าง คณะแพทย์ได้ให้การรักษาจนอาการดีขึ้นเป็นลำดับ จนสามารถอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่อาการติดเชื้อที่ปอดได้กำเริบขึ้นอีก จึงต้องกลับเข้ารับการรักษาใน ร.พ.อีกครั้ง เมื่อวันที่ 3 ม.ค. โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ จนกระทั่งมาถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบในช่วงบ่าย รวมอายุได้ 71 ปี โดยมีกำหนดการรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพที่ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทร์ทราวาส ในวันนี้ (8 ก.พ.50) เวลา 17.00 น.
สำหรับประวัติของนายประมาณ เกิดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2479 สำเร็จปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทย ปริญญาโทนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกาและปริญญาเอกดุษฎีกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยเปปเปอร์ไดด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนประวัติรับราชการตำแหน่งสำคัญ อาทิ อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 5 และภาค 9 และเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมสมัยวิกฤตตุลาการยุคคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(รสช.)ครองอำนาจ ก่อนก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาในปี 2535 – 2539รวม 4 ปี
ส่วนผลงานสำคัญ เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ริเริ่มการเสนอต่ออายุข้าราชการตุลาการที่เกษียณอายุราชการ 60 ปี ให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสถึงอายุ 65 ปี ระหว่างดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาได้ก่อตั้งมูลนิธิประมาณ ชันซื่อ เพื่อให้การช่วยเหลือข้าราชการธุรการศาล และตุลาการในการอบรมศึกษาเพิ่มเติม และก่อสร้างโรงพยาบาลตุลาการเฉลิมพระเกียรติ จ.นครปฐม เพื่อรักษาพยาบาลเด็กและเยาวชนของสถานพินิจฯ
นอกจากนี้ในปี 2534-2535 รัฐบาล รสช.ซึ่งมีนายประภาศน์ อวยชัย เป็นรมว.กระทรวงยุติธรรม และนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี นายประมาณ ในฐานะปลัดกระทรวงยุติธรรมมีบทบาทสำคัญในการเรียกร้องความเป็นอิสระของผู้พิพากษาไม่ให้ถูกแทรกแซงจากฝ่ายบริหารเรื่องการแต่งตั้งประธานศาลฎีกาจนเกิ ดวิกฤตตุลาการทำให้ผู้พิพากษาแบ่งออกสองฝ่ายระหว่างนายประมาณกับนายสวัสดิ์ โชติพานิช ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนายประภาศน์แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา
กระทั่งเมื่อปี 2536 ขณะนายประมาณดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ได้เกิดคดี”ลอบสังหาร”หน้าบ้านพักที่ซอยศรีนคร ถนนนางลิ้นจี่ เขตยานนาวา ต่อมาตำรวจกองปราบปรามสืบสวนจับกุมนายรังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดังกับพวกรวม 4 คนส่งให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลยใช้จ้างวานฆ่านายประมาณต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการสืบพยาน