xs
xsm
sm
md
lg

ยิง M79 คุกคามเดลินิวส์ ย้ำความล้มเหลว"โกวิท"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"สุรยุทธ์"ยันไม่ก้าวก่ายตร.สอบเหตุยิงถล่มหนังสือพิมพ์เดลินิวส์"สนธิ"ยังให้กำลังใจเพื่อนสางระเบิดต่อ ขณะที่ "สพรั่ง"พูดชัดสิ้นเดือนนี้คดีต้องชัดเจน ด้าน"โกวิท"ไม่เชื่อยิงเอ็ม 79 ใส่เดลินิวส์ เป็นการดิสเครดิตรตนเอง สั่ง"วิโรจน์"ลุยสอบ"พัลลภ"จวกยับ “โกวิท” แสดงสปิริตด้วยการลาออก ซัดคนร้ายยิงเอ็ม 79 ตอกย้ำความล้มเหลวของตำรวจ

วานนี้(30 ม.ค.)พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงเหตุคนร้ายยิงระเบิดเข้าไปภายในบริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด ซึ่งเป็นสำนักงานของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และลานจอดรถโรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.ว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น.ได้รายงานความคืบหน้าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นโดยเวลา ประมาณ 24.43 น.คนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ยิงเข้าไปตกที่พื้นถนนภายในสำนักงานของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และบริเวณกำแพง ซึ่งกั้นระหว่างสำนักงานของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และโรงแรมรามาการ์เด้นส์ โดยการรายงานของ พล.ต.ท.วิโรจน์ ไม่ได้มีการสันนิษฐานว่าเหตุเกิดจากอะไร เพียงแต่ชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้กำชับทางตำรวจอย่างไรบ้าง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้กำชับ เพราะเหตุเกิดไปแล้ว คงเป็นเรื่องที่ทางตำรวจจะต้องสืบสวนสอบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ต้องสงสัยต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องของทางตำรวจเอง เมื่อถามต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับรายงานข่าวล่วงหน้าก่อนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ นายกฯ เคยระบุว่า จะเกิดเหตุระเบิดในระยะ 1-2 เดือนนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดว่า จะมีเหตุการณ์ที่มีระเบิดเกิดขึ้น แต่หมายถึงว่า ในช่วง 1-2 เดือนหลังจากปีใหม่จะเป็นห้วงที่ต้องระมัดระวัง เมื่อถามต่อว่า มีการตั้งข้อสังเกตถึงอาวุธที่คนร้ายใช้ว่าเป็นอาวุธหนัก และเป็นที่ทราบกันดีว่า บุคคลธรรมดาไม่สามารถหามาได้ง่ายๆ นายกฯ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของทางตำรวจที่จะสืบสวนสอบสวนกันต่อไป ตนคงไปพุ่งเป้าไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ที่ดำเนินการ

**ยันเหตุระเบิดไม่เกี่ยวกฎอัยการศึก**

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะการยกเลิกกฎอัยการศึกมีผลแล้ว พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ในขณะนี้คงไม่เกี่ยวกับกฎอัยการศึก เพราะเราได้ยกเลิกไป และทรงพระปรมาภิไธยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีการนำกฎอัยการศึกกลับมาประกาศใช้ในพื้นที่กรุงเทพฯหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มันต้องหลายอย่าง สถานการณ์มันคงไม่ถึงขั้นนั้น เมื่อถามต่ออีกว่า ต้องถึงขั้นประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ถึงในขั้นนั้นเหมือนกัน

เมื่อถามว่า จากการตรวจสอบหลักฐานที่มีพอจะบอกต้นตอได้หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องลำบากพอสมควร เพราะมันระเบิดไปแล้ว เหลือสะเก็ดเพียงบางส่วนเท่านั้น คนยิงเขาคงไม่ทิ้งปลอกไว้ เมื่อถามว่า จากรายงานข่าวบอกว่า มีการยิงลงมาจากโทลล์เวย์ นายกฯกล่าวย้อนผู้สื่อข่าวว่า “ผมไม่ทราบ ถ้าผมยิงเองผมจะตอบได้”

**สพรั่งให้เวลาสิ้นเดือน**

พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการ คมช.กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีลอบวางระเบิดกรุงเทพมหานครในช่วงวันสิ้นปีว่า ต้องรอว่าจะดำเนินการได้ตามกำหนดในสิ้นเดือนนี้หรือไม่

ส่วนความสับสนต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่มีการเรียกร้องจากผู้ต้องสงสัยที่ถูกปล่อยตัวไปให้ตำรวจรับผิดชอบนั้น พล.อ.สพรั่ง ระบุว่า ไม่เป็นไรเพราะความสับสนไม่ได้เกิดจาก คมช. แต่เป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขีดความสามารถการจัดทีมงานสืบสวนที่เป็นต้นเหตุความสับสน ซึ่งตำรวจต้องรับผิดชอบ ขณะที่ยังระบุว่ายังไม่ได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ในเรื่องดังกล่าว

**"สนธิ"ให้กำลังใจโกวิท**

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช.แถลงภายหลังการประชุม คมช.ว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ได้ให้กำลังใจต่อการปฏิบัติงานของพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ในคดีระเบิด 9 จุด โดยไม่ได้มีการตำหนิหรือคาดโทษแต่อย่างใด

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า มีการรายงานเหตุการณ์ระเบิดหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และโรงแรมรามาการ์เด้นส์ ให้ที่ประชุมให้ได้รับทราบ แต่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ว่า เป็นปัญหาของหน่วยงานเอง หรือเป็นการก่อเหตุเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และ คมช. ทำให้เห็นว่า รัฐบาล และ คมช. ไม่สามารถควบคุมดูแลสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ ทางกองทัพได้ส่งกำลังทหารเข้าไปร่วมปฏิบัติงานดูแลความสงบเรียบร้อยตามการร้องขอของตำรวจแล้ว โดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน

**"โกวิท"รายงานคมช.**

พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.เปิดเผยว่าได้ไปรายงานเรื่องเหตุลอบวางระเบิด 9 จุด ให้กับ คมช.ทราบ โดย พล.อ.สนธิ บุณยกลิน ประธานคมช. ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องคนร้ายที่ยิงระเบิดเข้าไปในสำนักพิมพ์เดลินิวส์ และเร่งรัดในการทำงานจับกุมคนร้าย และให้ตำรวจเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทาง ผบช.น.จะต้องรับผิดชอบไปดำเนินการ ขณะเดียวกัน ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตำรวจสันติบาล เพิ่มการดูแลในจุดที่ล่อแหลมและน่าเป็นห่วง

**ปัดดิสเครดิตรเก้าอี้ ผบ.ตร.**

ต่อมา พล.ต.อ.โกวิท เปิดเผยหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่าคดีนี้ ได้ให้ พล.ต.ท.วิโรจน์ ผบช.น.เป็นผู้ดูแลคดีอย่างเต็มที่ ซึ่งมีทีมดูแลเกี่ยวกับคดีระเบิดโดยเฉพาะ และจะมีผู้เชี่ยวชาญจากทั้งตำรวจและสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจเข้าไปคลี่คลายคดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยส่วนตัวแล้ว มองหรือไม่ว่า เป็นการดิสเครดิตตัว ผบ.ตร.เอง เพราะตำรวจมีหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย พล.ต.อ.โกวิท ตอบว่า ตำรวจต้องทำเต็มที่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตำรวจก็ต้องแก้ไขหมด ตำรวจต้องรับผิดชอบ ส่วนจะหนักใจหรือไม่นั้น ก็ต้องทำไป บางคดีก็เร็ว บางคดีต้องใช้เวลา เราจะดำเนินการต่อไป ตามขั้นตอนของกฏหมาย

เมื่อถามต่อว่า หนักใจหรือไม่ เมื่อมีเหตุระเบิดเกิดขึ้น ทุกคนจะมีการโยงไปถึงตัวผบ.ตร. เหมือนเป็นการวัดการทำงาน พล.ต.อ.โกวิท หัวเราะพร้อมกับบอกว่า ไม่มีอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังตรวจที่เกิดเหตุ พล.ต.อ.โกวิทและคณะนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารของนสพ.เดลินิวส์ เพื่อหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ได้มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดยังหลังสำนักงาน นสพ.มาตรวจสอบ พร้อมทั้งนำแผนผังตัวอาคารและพื้นที่โดยรอบ มาวิเคราะห์ถึงจุดที่คนร้ายลงมือยิง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงเดินทางกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00น. พล.ต.อ.โกวิท เดินทางมาเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาในการเข้าพบ 20 นาที ภายหลังการเข้าพบ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด ทั้งนี้คาดว่าอาจมีการรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ระเบิดหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

**เชื่อไม่ใช่แผนเชือด”โกวิท”**

พล.ท. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ตอบข้อถาม กรณีเหตุยิงระเบิดหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ว่าเป็นความขัดแข้งของตำรวจหรือไม่ พล.ท.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของสถาบัน ซึ่งสถาบันทะเลาะกันไม่ได้ เราต้องมาช่วยกันให้เขาทำงานอยู่ในกรอบในระเบียบ กฎหมาย ทั้งนี้ คิดว่าคนดียังมีอยู่ คิดว่าทุกอย่างจะปรากฏออกมา เมื่อถามว่า คดีนี้เป็นสิ่งเร้าให้พิจารณาตำแหน่ง ผบ.ตร.หรือไม่ พล.ท.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยวกัน เป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาดูแลอยู่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงต้องใช้เวลาสักระยะ ตนไม่อยากให้ไปกดดัน เพราะกดดันจะรีบทำแล้วไม่เกิดความเรียบร้อย

**พัลลภ”เปิดโปงพฤติกรรม ตร.**

พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.กอ.รมน.)ได้เขียนแถลงการณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับตัวผู้ต้องสงสัยในการวางระเบิดเมื้อวันที่ 31 ม.ค.มาสอบสวนว่า “การเรียกร้องขอความเป็นธรรมของ พ.ท. สุชาติ คัดสูงเนิน หรือ เสธ.คัด พร้อม พวกนั้น พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.จะต้องรับฟัง และใคร่ครวญ มิใช่มาอ้างกฎอัยการศึก และอ้างว่าปฏิบัติไปตามหน้าที่ เพราะพฤติกรรม และการแสดงออก เป็นการใช้อำนาจบาตรใหญ่ ต่อผู้เป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น ซึ่งเป็นทหารของชาติ เช่น การยกกำลังพลตำรวจ พร้อมอาวุธยทโธปกรณ์เป็นร้อย เข้าปิดล้อมด้วยการตรวจค้นบ้านพัก ที่เป็นที่พักอาศัยของครอบครัว เยี่ยงโจรก่อการร้าย สร้างความตระหนกตกใจกับลูกเมีย และเพื่อนบ้าน

พร้อมกับออกข่าวผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อต่าง ๆ อย่างใหญ่โต รู้กันทั่วประเทศ ไม่เป็นไปตามที่กล่าวว่าที่บอกว่าเชิญตัวมาพูดคุยเท่านั้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เป็นไปตามนโยบายของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่ว่าต้องการให้สิทธิพื้นฐานแก่ประชาชน เช่น สิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือ ความเป็นอยู่ส่วนตัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง ทหารเรายึดมั่นในศักดิ์ศรีเกียรติยศ มิใช่ผลประโยชน์” แถลงการณ์ระบุ

แถลงการณ์ ยังเรียกร้องว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาจะต้องดูแลทุกข์สุข สร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งในยามสงครามผู้ที่จะยอมตายพร้อมกับท่านคือ ผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น ดังนั้นอยากให้ผู้บังคับบัญชาช่วยดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้โดนรังแกอยู่อย่างเดียว

**ยิงเดลินิวส์ตอกย้ำโกวิทล้มเหลว**

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.โกวิท จะต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ทุกคนก็ต้องการแบบนั้น สำหรับเหตุการณ์คนร้ายยิงจรวด เอ็ม 79 ข่มขู่สำนักพิมพ์ของ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และ รร.รามาการ์เด้น ถือเป็นการตอกย้ำถึงการทำงานของ พล.ต.อ.โกวิท ว่าล้มเหลวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

เมื่อถามว่า การทำงานของตำรวจที่ผ่านมามีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ต้องมีอย่างแน่นอน เพราะดูง่าย ๆ การทำงานของตำรวจ ที่เชิญผู้ต้องสงสัยมาทั้งหมด 19 คน สุดท้ายก็ต้องปล่อยตัวออกไปทั้งหมด เพราะไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดกับได้ ซึ่งมันไม่มีอะไรเลยมาตั้งแต่ตน ตนยืนยันได้เลย ว่าทหารไม่ทำอะไรแบบนี้ เป็นทหารของชาติ เสียสละมาก็ตั้งเยอะแยะ จะมาทำลายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ ตนบอกมาเสมอว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทหารจะทำเรื่องแบบนี้

“ผมมองว่าเป็นการหาเรื่องกันมากว่า พยายามผูกโยงกันเพื่อที่จะเล่นงานผม และ พวกนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะคดีคาร์บอมบ์ที่ตำรวจพยายามจะสาวมาให้ถึงผมโดยทำลักษณะที่จะต้องการตัดแขน ตัดขา ซึ่งทหารที่ตำรวจเชิญตัวมาสอบปากคำ เป็นชุดเดียวกับที่ผมสั่งให้ไปคุ้มครอง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อีกทั้ง พ.ท.สุชาติ เคยทำงานอยู่ ฉก.90 เป็นหัวหน้าปราบก่อการร้ายสากลซึ่งถือว่าเขาไม่ธรรมดา เพียงแต่เขาไปมีความขัดแย้งกับตำรวจ เพราะว่าไปรับลิขสิทธิ์ปราบปรามซีดีเถื่อน ซึ่งไปขัดผลประโยชน์กับตำรวจ จึงทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา”

**"สุเทพ"ย้ำข่มขู่สื่อทั้งระบบ**

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวเหตุระเบิดที่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ว่า เป็นการข่มขู่สื่อมวลชนทั้งระบบ และต้องประณาม เพราะเป็นความเลวที่ไม่เลิก เราทุกคนต้องประณาม สื่อเองก็ต้องสู้เรื่องนี้ ส่วนที่จะเกี่ยวพันกับการปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยไปก่อนหน้านี้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าคงเป็นการไม่พอใจสื่อบางส่วนอยู่แล้ว เพราะเมื่อก่อนยอมสยบให้เขา ตอนนี้ชักจะมีปากมีเสียง จึงต้องกำราบเสียหน่อย

เมื่อถามถึงความสามารถในการดูแลสถานการณ์ของคมช.และรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า คิดว่า คมช.ประนีประนอมมากจนดูเหมือนไม่เข้มแข็ง รัฐบาล โดยนายกฯก็เป็นคนสุภาพเรียบร้อย แต่ตอนนี้ทุกฝ่ายต้องเข้มแข็ง ทั้งประชาชนและสื่อมวลชนด้วย จะให้เฉพาะคมช.และรัฐบาลแข็งอยู่ฝ่ายเดียวก็จะเกิดเสียงโห่ขึ้นได้อีก
กำลังโหลดความคิดเห็น