ศูนย์ข่าวหาดใหญ่- ชาวสงขลาประกาศพร้อมต้อนรับ "คณะธรรมยาตราสู่ชายแดนใต้" ซึ่งประกอบด้วยพระและฆราวาสราวครึ่งพัน ที่จะกรีธากองทัพธรรมล่องใต้เสริมขวัญและกำลังใจทั้งชาวพุทธและมุสลิมในพื้นที่ "ชาลี" ชี้จะเป็นการเกี่ยวก้อยร้อยใจประชาชนครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ยันข้าวหม้อแกงหม้อพร้อมน้ำดื่มหลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศด้วยการนัดหมายผ่าน "FM 97" เครือข่ายวิทยุชุมชนของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง
นายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา แกนนำชมรมอาสาคลายทุกข์ ในฐานะผู้อำนวยการสถานีวิทยุชุมชน FM 97.0 เมกะเฮิรตซ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และยังเป็นผู้ดำเนินรายการเกาะกระแสทางสถานีวิทยุดังกล่าวด้วย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ตนได้รับการประสานให้ช่วยร่วมรับรองคณะธรรมยาตรา ""กองทัพธรรมนำสันติสุขสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 80 พรรษากษัตรริยาธิราชแห่งทศพิธราชธรรม" พร้อมทราบเป็นกิจกรรมที่มุ่งหวังในการทำดี ตนจึงรับอาสาช่วยดำเนินการให้
ทั้งนี้ คณะธรรมยาตราดังกล่าวจัด โดยชมรมดาวล้อมเดือนร่วมกับองค์กรภาคประชาชนทั่วประเทศประมาณ 80 องค์กร มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่พระและสามเณร รวมถึงพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่ ภายหลังจากที่ต้องผจญปัญหาความไม่สงบในพื้นที่มายาวนาน โดยผู้ร่วมขบวนธรรมยาตรามีประมาณ 500 ชีวิต แบ่งเป็นพระและสามเณรประมาณ 200 รูป ที่เหลือเป็นฆราวาสประมาณ 300 คน มีกำหนดการเคลื่อนขบวนธรรมยาตราระหว่างวันที่ 11-17 มกราคม 2550 จากกรุงเทพฯสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
คณะดังกล่าว ได้ออกเดินทางจากกรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม โดยจะไปพักค้างแรมคืนแรกที่ อ.ประทิว จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นเช้าวันที่ 12 มกราคมเคลื่อนขบวนล่องใต้ต่อ ซึ่งในคืนวันที่สองมีแผนจะพักค้างแรม ณ วัดโคกสมานคุณ ย่านหาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ช่วงค่ำภายหลังการทำวัตรจะมีการล้อมธรรมวงเสวนา ช่วงเช้าวันที่ 13 มกราคม พระและสามเณรประมาณ 200 รูปจะออกบิณฑบาตทั่วเมืองหาดใหญ่ แบ่งออกเป็น 4 สายคือ ย่านชุมชนวัดโคกสนามคุณ ย่านชุมชนวัดหาดใหญ่ใน ย่านตลาดกิมหยง และย่านตลาดสดพลาซ่า หลังฉันเช้าคณะจะเดินทางต่อเข้าสู่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
"เมื่อกองทัพธรรมจะมาเยี่ยมเยือนเมืองหาดใหญ่-สงขลา เราในฐานะชาวสงขลาก็พร้อมที่จะร่วมมือกันต้อนรับพร้อมร่วมทำบุญทำกุศลไปด้วยกัน ตอนนี้เรามีการประชาสัมพันธ์ผ่านสมาชิกชมรมอาสาคลายทุกข์ และทุกๆ รายการของสถานีวิทยุชมชน FM 97 ซึ่งก็มีพี่น้องประชาชนชาวสงขลา-หาดใหญ่แจ้งความประสงค์ร่วมทำบุญกันจำนวนมาก อาหารและน้ำช่วงที่อยู่ในพื้นที่เราเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว นี่คือพลังสามัคคีของคนหาดใหญ่-สงขลาแบบที่ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ หรือศาสนาที่นับถือ ไม่ว่าจะเป็นคนพุทธ มุสลิมหรือชาวไทยเชื้อสายจีนก็ตาม" นายชาลีกล่าว
สำหรับกิจกรรมธรรมยาตราสู่ชายแดนใต้ในครั้งนี้ ไม่มีการจำกัดผู้คนว่าจะนับถือศาสนาอะไร ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ทั้งหมดทั้งพุทธ มุสลิม จีน โดยคณะธรรมยาตรามีแผนจะตระเวนเยี่ยมเยือนชุมชนต่างๆ ในหลายพื้นที่ของชายแดนใต้ โดยแต่ละพื้นที่ที่แวะพักก็จะมีการพูดคุยเสวนาธรรม ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ รวมถึงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ไปเยือนและคนในพื้นที่ ซึ่งช่วงอยู่ในชายแดนใต้คือระหว่างวันที่ 13-16 มกราคม จากนั้นจะเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยจะมีการแวะพักแรมเป็นคืนสุดท้ายที่ จ.นครศรีธรรมราช
นายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา แกนนำชมรมอาสาคลายทุกข์ ในฐานะผู้อำนวยการสถานีวิทยุชุมชน FM 97.0 เมกะเฮิรตซ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และยังเป็นผู้ดำเนินรายการเกาะกระแสทางสถานีวิทยุดังกล่าวด้วย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ตนได้รับการประสานให้ช่วยร่วมรับรองคณะธรรมยาตรา ""กองทัพธรรมนำสันติสุขสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล 80 พรรษากษัตรริยาธิราชแห่งทศพิธราชธรรม" พร้อมทราบเป็นกิจกรรมที่มุ่งหวังในการทำดี ตนจึงรับอาสาช่วยดำเนินการให้
ทั้งนี้ คณะธรรมยาตราดังกล่าวจัด โดยชมรมดาวล้อมเดือนร่วมกับองค์กรภาคประชาชนทั่วประเทศประมาณ 80 องค์กร มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่พระและสามเณร รวมถึงพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่ ภายหลังจากที่ต้องผจญปัญหาความไม่สงบในพื้นที่มายาวนาน โดยผู้ร่วมขบวนธรรมยาตรามีประมาณ 500 ชีวิต แบ่งเป็นพระและสามเณรประมาณ 200 รูป ที่เหลือเป็นฆราวาสประมาณ 300 คน มีกำหนดการเคลื่อนขบวนธรรมยาตราระหว่างวันที่ 11-17 มกราคม 2550 จากกรุงเทพฯสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
คณะดังกล่าว ได้ออกเดินทางจากกรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม โดยจะไปพักค้างแรมคืนแรกที่ อ.ประทิว จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นเช้าวันที่ 12 มกราคมเคลื่อนขบวนล่องใต้ต่อ ซึ่งในคืนวันที่สองมีแผนจะพักค้างแรม ณ วัดโคกสมานคุณ ย่านหาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ช่วงค่ำภายหลังการทำวัตรจะมีการล้อมธรรมวงเสวนา ช่วงเช้าวันที่ 13 มกราคม พระและสามเณรประมาณ 200 รูปจะออกบิณฑบาตทั่วเมืองหาดใหญ่ แบ่งออกเป็น 4 สายคือ ย่านชุมชนวัดโคกสนามคุณ ย่านชุมชนวัดหาดใหญ่ใน ย่านตลาดกิมหยง และย่านตลาดสดพลาซ่า หลังฉันเช้าคณะจะเดินทางต่อเข้าสู่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
"เมื่อกองทัพธรรมจะมาเยี่ยมเยือนเมืองหาดใหญ่-สงขลา เราในฐานะชาวสงขลาก็พร้อมที่จะร่วมมือกันต้อนรับพร้อมร่วมทำบุญทำกุศลไปด้วยกัน ตอนนี้เรามีการประชาสัมพันธ์ผ่านสมาชิกชมรมอาสาคลายทุกข์ และทุกๆ รายการของสถานีวิทยุชมชน FM 97 ซึ่งก็มีพี่น้องประชาชนชาวสงขลา-หาดใหญ่แจ้งความประสงค์ร่วมทำบุญกันจำนวนมาก อาหารและน้ำช่วงที่อยู่ในพื้นที่เราเตรียมพร้อมกันหมดแล้ว นี่คือพลังสามัคคีของคนหาดใหญ่-สงขลาแบบที่ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ หรือศาสนาที่นับถือ ไม่ว่าจะเป็นคนพุทธ มุสลิมหรือชาวไทยเชื้อสายจีนก็ตาม" นายชาลีกล่าว
สำหรับกิจกรรมธรรมยาตราสู่ชายแดนใต้ในครั้งนี้ ไม่มีการจำกัดผู้คนว่าจะนับถือศาสนาอะไร ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ทั้งหมดทั้งพุทธ มุสลิม จีน โดยคณะธรรมยาตรามีแผนจะตระเวนเยี่ยมเยือนชุมชนต่างๆ ในหลายพื้นที่ของชายแดนใต้ โดยแต่ละพื้นที่ที่แวะพักก็จะมีการพูดคุยเสวนาธรรม ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ รวมถึงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ไปเยือนและคนในพื้นที่ ซึ่งช่วงอยู่ในชายแดนใต้คือระหว่างวันที่ 13-16 มกราคม จากนั้นจะเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยจะมีการแวะพักแรมเป็นคืนสุดท้ายที่ จ.นครศรีธรรมราช


