ผู้จัดการรายวัน – นีเวีย ปักธงบูมผลิตภัณฑ์ผู้ชายเจ้าสำอางต่อ หลังพบ 3-4 ปีตลาดส่อแววรุ่งแยกเพศใช้ชัดเจน เปิดแผนลุยสร้างตลาดบอดี้ โลชั่นผู้ชาย ต่อยอดจากหน้าสู่ตัว ทุ่มงบ 80 ล้านบาท อัดแคมเปญใหญ่ตั้งแต่ต้นปี ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดแทนที่ซิตร้า โกยแชร์เพิ่มเป็น 24-25% ผลประกอบการปีนี้โตตัวเลขสองหลัก อวดยอดขายปี 49 โตเกือบ 15% ทะลุเป้า
นายธนชัย ชัยกิตติวนิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวนีเวีย เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดปีนี้ของบริษัท วางเป้าหมายสร้างความสมดุลระหว่างตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงและกลุ่มผู้ชายอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การทุ่มงบการตลาดมากกว่า 200-300 ล้านบาท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 30-35% จากเดิมมีสัดส่วนรายได้ 20-30% ของรายได้รวม ที่เหลือ 70-80% เป็นกลุ่มผู้หญิง โดยปีนี้แผนการตลาดโดยรวมของบริษัท จะไม่เน้นการเปิดตัวสินค้าใหม่เป็นจำนวนมาก คือ ราว 20-30 ราย แต่จะนำผลิตภัณฑ์เดิมมาพัฒนาใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยในช่วงไตรมาสสองจะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่
ทั้งนี้การที่บริษัทให้ความสำคัญกับตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย เนื่องจากตลาดมีอัตราการเติบโตสูงทุกเซกเมนต์ โดยพบว่าตลาดดูแลผิวและทำความสะอาดผิวมูลค่า 300 ล้านบาท เติบโต 300% โดยในอีก 3-4ปีข้างหน้านี้ คาดว่าพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ชาย จะแยกกันอย่างชัดเจนกับผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ดูแลผิว และบอดี้โลชั่น จากปัจจุบันผู้ชายไทยเกือบ 80-90% ยังใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผู้หญิง เนื่องจากเทรนด์ผู้ชายไทยใส่ใจในเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกมากขึ้น อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่าฐานลูกค้าขยายมาสู่กลุ่มที่มีอายุน้อยลง ล่าสุดกลุ่มอายุ 13 ปีเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายนีเวียเริ่มมีอายุน้อยลง คือ 25 ปี จากเดิมอายุ 28-35 ปี โดยปีนี้คาดว่าตลาดสำหรับผู้ชายมีอัตราการเติบโต 10%
สำหรับแนวทางการทำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย ปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับตลาดบอดี้โลชั่นผู้ชายในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมานีเวียทำตลาดบนใบหน้าในระดับหนึ่งแล้ว ในขณะที่ตลาดโรลออนนับเป็นตลาดที่แยกจากตลาดผู้หญิงมานานแล้ว ทำให้มีอัตราการเติบโต 8% เท่านั้น ส่วนตลาดบอดี้โลชั่นกลุ่มเป้าหมายผู้ชายอายุระหว่าง 18-35 ปี ยังไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก โดยบริษัทได้เตรียมทุ่มงบตลาด 80 ล้านบาท หลังจากในช่วงปลายปีนี้ได้เปิดตัวบอดี้ โลชั่นสำหรับผู้ชายไปแล้ว ซึ่งได้เตรียมจัดแคมเปญใหญ่ปลายเดือนมกราคม นี้ อีกทั้งปีนี้บริษัทยังได้เตรียมขยายฐานลูกค้ามาสู่กลุ่มอายุ 13 ปี
ทั้งนี้หลังจากที่ดำเนินการตลาดบอดี้โลชั่นสำหรับผู้ชายในเชิงรุก คาดว่าจะผลักดันให้ตลาดมูลค่า 400-600 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 300% ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ยังเล็กมากเมื่อเทียบกับตลาดบอดี้ โลชั่นสำหรับผู้หญิงมีมูลค่า 5,900 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับตลาดไวท์เทนนิ่งสำหรับผู้ชายมีสัดส่วนถึง 65% ส่วนชะลอริ้วรอยมีสัดส่วน 35% อีกทั้งนีเวียยังตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดบอดี้ โลชั่น ในเดือนมกราคม ด้วยการครองส่วนแบ่งเพิ่ม 24-25% จากส่วนแบ่งไตรมาสสี่มี 22.5% แทนที่ซิตร้าซึ่งมีส่วนแบ่ง 23%
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 20ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญท้าพิสูจน์คุณภาพ”นีเวีย ฟอร์เมน ไวท์เทนนิ่ง มอยส์เจอร์ไรเซอร์...ไม่พอใจ ยินดีคืนเงิน” ระหว่างวันที่ 1มกราคม – 28กุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้การที่บริษัทเปิดตัวแคมเปญดังกล่าว เนื่องจากการแข่งขันในตลาดมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีความรุนแรง โดยคาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะผลักดันยอดขายโต 30% ส่วนผลประกอบการปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้กว่า 3,000ล้านบาท มีอัตราการเติบโต15% จากปกติมีอัตราการเติบโต 10% ปัจจัยที่ทำให้มีอัตราการเติบสูงกว่าทุกปี เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวยอดขายโต 20-30% ส่วนผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าโตเป็นตัวเลขสองหลัก
นายธนชัย ชัยกิตติวนิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวนีเวีย เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดปีนี้ของบริษัท วางเป้าหมายสร้างความสมดุลระหว่างตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงและกลุ่มผู้ชายอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การทุ่มงบการตลาดมากกว่า 200-300 ล้านบาท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 30-35% จากเดิมมีสัดส่วนรายได้ 20-30% ของรายได้รวม ที่เหลือ 70-80% เป็นกลุ่มผู้หญิง โดยปีนี้แผนการตลาดโดยรวมของบริษัท จะไม่เน้นการเปิดตัวสินค้าใหม่เป็นจำนวนมาก คือ ราว 20-30 ราย แต่จะนำผลิตภัณฑ์เดิมมาพัฒนาใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก โดยในช่วงไตรมาสสองจะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่
ทั้งนี้การที่บริษัทให้ความสำคัญกับตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย เนื่องจากตลาดมีอัตราการเติบโตสูงทุกเซกเมนต์ โดยพบว่าตลาดดูแลผิวและทำความสะอาดผิวมูลค่า 300 ล้านบาท เติบโต 300% โดยในอีก 3-4ปีข้างหน้านี้ คาดว่าพฤติกรรมการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ชาย จะแยกกันอย่างชัดเจนกับผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ดูแลผิว และบอดี้โลชั่น จากปัจจุบันผู้ชายไทยเกือบ 80-90% ยังใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผู้หญิง เนื่องจากเทรนด์ผู้ชายไทยใส่ใจในเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกมากขึ้น อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่าฐานลูกค้าขยายมาสู่กลุ่มที่มีอายุน้อยลง ล่าสุดกลุ่มอายุ 13 ปีเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายนีเวียเริ่มมีอายุน้อยลง คือ 25 ปี จากเดิมอายุ 28-35 ปี โดยปีนี้คาดว่าตลาดสำหรับผู้ชายมีอัตราการเติบโต 10%
สำหรับแนวทางการทำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย ปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับตลาดบอดี้โลชั่นผู้ชายในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมานีเวียทำตลาดบนใบหน้าในระดับหนึ่งแล้ว ในขณะที่ตลาดโรลออนนับเป็นตลาดที่แยกจากตลาดผู้หญิงมานานแล้ว ทำให้มีอัตราการเติบโต 8% เท่านั้น ส่วนตลาดบอดี้โลชั่นกลุ่มเป้าหมายผู้ชายอายุระหว่าง 18-35 ปี ยังไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก โดยบริษัทได้เตรียมทุ่มงบตลาด 80 ล้านบาท หลังจากในช่วงปลายปีนี้ได้เปิดตัวบอดี้ โลชั่นสำหรับผู้ชายไปแล้ว ซึ่งได้เตรียมจัดแคมเปญใหญ่ปลายเดือนมกราคม นี้ อีกทั้งปีนี้บริษัทยังได้เตรียมขยายฐานลูกค้ามาสู่กลุ่มอายุ 13 ปี
ทั้งนี้หลังจากที่ดำเนินการตลาดบอดี้โลชั่นสำหรับผู้ชายในเชิงรุก คาดว่าจะผลักดันให้ตลาดมูลค่า 400-600 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 300% ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ยังเล็กมากเมื่อเทียบกับตลาดบอดี้ โลชั่นสำหรับผู้หญิงมีมูลค่า 5,900 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับตลาดไวท์เทนนิ่งสำหรับผู้ชายมีสัดส่วนถึง 65% ส่วนชะลอริ้วรอยมีสัดส่วน 35% อีกทั้งนีเวียยังตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดบอดี้ โลชั่น ในเดือนมกราคม ด้วยการครองส่วนแบ่งเพิ่ม 24-25% จากส่วนแบ่งไตรมาสสี่มี 22.5% แทนที่ซิตร้าซึ่งมีส่วนแบ่ง 23%
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 20ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญท้าพิสูจน์คุณภาพ”นีเวีย ฟอร์เมน ไวท์เทนนิ่ง มอยส์เจอร์ไรเซอร์...ไม่พอใจ ยินดีคืนเงิน” ระหว่างวันที่ 1มกราคม – 28กุมภาพันธ์นี้ ทั้งนี้การที่บริษัทเปิดตัวแคมเปญดังกล่าว เนื่องจากการแข่งขันในตลาดมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีความรุนแรง โดยคาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะผลักดันยอดขายโต 30% ส่วนผลประกอบการปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้กว่า 3,000ล้านบาท มีอัตราการเติบโต15% จากปกติมีอัตราการเติบโต 10% ปัจจัยที่ทำให้มีอัตราการเติบสูงกว่าทุกปี เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวยอดขายโต 20-30% ส่วนผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าโตเป็นตัวเลขสองหลัก