เทรนด์คนรักสุขภาพมาแรง ฟิลิปส์ต่อยอดธุรกิจเครื่องมือแพทย์ โฟกัสตลาดคอนซูเมอร์ทั่วโลก ปีหน้าเตรียมส่งสินค้าเพื่อสุขภาพส่วนบุคคล ประกาศหวนบัลลังก์ตลาดอุปกรณ์แสงสว่างอีกครั้ง ชูเทคโนโลยี แอลซีดี เป็นพระเอก มุ่งจับตลาดโครงการสร้างยอด มั่นใจกระตุ้นรายได้ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
นายยาน เอ็กเกอบีน ประธานและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฟิลิปส์ทั่วโลกได้ให้ความสำคัญกับธุรกิจการดูแลสุขภาพ ในส่วนของเครื่องมือแพทย์ จนทำให้มีส่วนแบ่งยอดขายเป็น 20.8% ของยอดขายรวมฟิลิปส์ทั่วโลก ขณะที่ในประเทศไทยนั้น แผนกเครื่องมือแพทย์ฟิลิปส์มียอดขายเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 30% พร้อมทั้งขึ้นเป็น 1 ใน 3 ผู้นำตลาดเครื่องมือแพทย์
จากความสำเร็จดังกล่าว ทางบริษัทแม่ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในเรื่องของสุขภาพ ที่ผู้บริโภคกำลังตื่นตัวกันทั่วโลก ทำให้มีแนวความคิดที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนให้ครอบคลุมไปถึงกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพส่วนบุคคล โดยจะเริ่มวางสินค้าออกสู่ตลาดทั่วโลกในปีหน้าที่จะถึงนี้
ขณะที่ในประเทศไทยนั้น ในปีนี้แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน โดยเฉพาะในส่วนของเตารีดและเครื่องปั่นเอนกประสงค์ เป็นผู้นำในฐานะที่มียอดจำหน่ายสูงสุด และในกลุ่มแอลซีดี ทีวี ที่เป็น 1 ใน 3 ของการเป็นผู้นำด้านยอดขายในตลาดก็ตาม แต่สำหรับยอดรายได้รวมกลับมีการเติบโตไม่ถึง 2 หลัก ทั้งนี้เกิดจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ จนทำให้ผู้บริโภคเกิดการชะลอตัวในการตัดสินใจซื้อนั้นเอง
ปีหน้าบริษัทฯ เตรียมส่งสินค้าใหม่อีกหลายรายการ อาทิ แอลซีดี ทีวี รุ่นใหม่อย่างน้อย 1 รุ่น ,เครื่องเล่นดีวีดี ที่สามารถอัดได้รวมถึงผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็ก ที่มีคุณสมบัติตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มเพื่อสุขภาพส่วนบุคคล
ส่วนแผนกอุปกรณ์ให้แสงสว่างนั้น ในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักอย่างแน่นอน ทั้งนี้เกิดจากงานโครงการ ที่บริษัทฯ นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นเทคโนโลยี แอลอีดี จนทำให้ได้รับเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ให้แสงสว่างบนสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมในปีนี้ อย่างไรก็ตามในปีหน้า บริษัทฯจะยังคงนำเสนอ เทคโนโลยี แอลอีดี อย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นตลาดโครงการเป็นสำคัญ ส่วนตลาดผู้บริโภคในกลุ่มหลอดไฟนั้น บริษัทฯ จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับคู่ค้าต่อเนื่อง และยังไม่มีนโยบายในการทำร้านในรูปแบบ เอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ หรือ มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง หรือให้คู่ค้าใช้ชื่อแบรนด์ ฟิลิปส์ เพื่อจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ฟิลิปส์แต่เพียงอย่างเดียว จากกลยุทธ์ดังกล่าว คาดว่าในปีหน้า บริษัทฯ จะมียอดขายในส่วนของแผนกอุปกรณ์ให้แสงสว่างเติบโตเป็นตัวเลข 2หลักเช่นเดียวกัน
"จะเห็นได้ว่าในปีหน้าบริษัทฯ จะให้ความสำคัญในการก้าวไปสู่ธุรกิจ การดูแลสุขภาพ โดยจะเริ่มมีสินค้าในการดูแลสุขภาพในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น จากเดิมที่จะเน้นในกลุ่มวงการแพทย์ อีกทั้งยังมุ่งเน้นในส่วนของ ไลฟสไตล์ โดยการนำเทคโนโลยี แอลอีดี เข้ามาสู่ผู้บริโภคในปีนี้ และสุดท้ายในเรื่องของเทคโนโลยี ที่จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอยู่ตลอดเวลานั้นเอง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่นดีวีดีที่สามารถอัดได้ รวมไปถึงแอลซีดี ทีวี ที่มีเทคโนโลยีเกี่ยวกับเสียงและภาพที่สมจริงมากขึ้น คาดว่าในปีหน้า บริษัทฯจะมียอดขายเป็นตัวเลข 2 หลักแน่นนอน"
นายยาน กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตามในปีหน้า มองว่า ปัญหาทางการเมือง ยังเป็นปัจจัยหลักที่น่าเป็นห่วง ว่าจะส่งผลให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้หรือไม่ เพราะยังคงมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน สำหรับการตัดสินใจในการซื้อนั้นเอง
นายยาน เอ็กเกอบีน ประธานและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฟิลิปส์ทั่วโลกได้ให้ความสำคัญกับธุรกิจการดูแลสุขภาพ ในส่วนของเครื่องมือแพทย์ จนทำให้มีส่วนแบ่งยอดขายเป็น 20.8% ของยอดขายรวมฟิลิปส์ทั่วโลก ขณะที่ในประเทศไทยนั้น แผนกเครื่องมือแพทย์ฟิลิปส์มียอดขายเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 30% พร้อมทั้งขึ้นเป็น 1 ใน 3 ผู้นำตลาดเครื่องมือแพทย์
จากความสำเร็จดังกล่าว ทางบริษัทแม่ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในเรื่องของสุขภาพ ที่ผู้บริโภคกำลังตื่นตัวกันทั่วโลก ทำให้มีแนวความคิดที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนให้ครอบคลุมไปถึงกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพส่วนบุคคล โดยจะเริ่มวางสินค้าออกสู่ตลาดทั่วโลกในปีหน้าที่จะถึงนี้
ขณะที่ในประเทศไทยนั้น ในปีนี้แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน โดยเฉพาะในส่วนของเตารีดและเครื่องปั่นเอนกประสงค์ เป็นผู้นำในฐานะที่มียอดจำหน่ายสูงสุด และในกลุ่มแอลซีดี ทีวี ที่เป็น 1 ใน 3 ของการเป็นผู้นำด้านยอดขายในตลาดก็ตาม แต่สำหรับยอดรายได้รวมกลับมีการเติบโตไม่ถึง 2 หลัก ทั้งนี้เกิดจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ จนทำให้ผู้บริโภคเกิดการชะลอตัวในการตัดสินใจซื้อนั้นเอง
ปีหน้าบริษัทฯ เตรียมส่งสินค้าใหม่อีกหลายรายการ อาทิ แอลซีดี ทีวี รุ่นใหม่อย่างน้อย 1 รุ่น ,เครื่องเล่นดีวีดี ที่สามารถอัดได้รวมถึงผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชิ้นเล็ก ที่มีคุณสมบัติตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มเพื่อสุขภาพส่วนบุคคล
ส่วนแผนกอุปกรณ์ให้แสงสว่างนั้น ในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักอย่างแน่นอน ทั้งนี้เกิดจากงานโครงการ ที่บริษัทฯ นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นเทคโนโลยี แอลอีดี จนทำให้ได้รับเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ให้แสงสว่างบนสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมในปีนี้ อย่างไรก็ตามในปีหน้า บริษัทฯจะยังคงนำเสนอ เทคโนโลยี แอลอีดี อย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นตลาดโครงการเป็นสำคัญ ส่วนตลาดผู้บริโภคในกลุ่มหลอดไฟนั้น บริษัทฯ จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับคู่ค้าต่อเนื่อง และยังไม่มีนโยบายในการทำร้านในรูปแบบ เอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ หรือ มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง หรือให้คู่ค้าใช้ชื่อแบรนด์ ฟิลิปส์ เพื่อจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ฟิลิปส์แต่เพียงอย่างเดียว จากกลยุทธ์ดังกล่าว คาดว่าในปีหน้า บริษัทฯ จะมียอดขายในส่วนของแผนกอุปกรณ์ให้แสงสว่างเติบโตเป็นตัวเลข 2หลักเช่นเดียวกัน
"จะเห็นได้ว่าในปีหน้าบริษัทฯ จะให้ความสำคัญในการก้าวไปสู่ธุรกิจ การดูแลสุขภาพ โดยจะเริ่มมีสินค้าในการดูแลสุขภาพในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น จากเดิมที่จะเน้นในกลุ่มวงการแพทย์ อีกทั้งยังมุ่งเน้นในส่วนของ ไลฟสไตล์ โดยการนำเทคโนโลยี แอลอีดี เข้ามาสู่ผู้บริโภคในปีนี้ และสุดท้ายในเรื่องของเทคโนโลยี ที่จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอยู่ตลอดเวลานั้นเอง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่นดีวีดีที่สามารถอัดได้ รวมไปถึงแอลซีดี ทีวี ที่มีเทคโนโลยีเกี่ยวกับเสียงและภาพที่สมจริงมากขึ้น คาดว่าในปีหน้า บริษัทฯจะมียอดขายเป็นตัวเลข 2 หลักแน่นนอน"
นายยาน กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตามในปีหน้า มองว่า ปัญหาทางการเมือง ยังเป็นปัจจัยหลักที่น่าเป็นห่วง ว่าจะส่งผลให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้หรือไม่ เพราะยังคงมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน สำหรับการตัดสินใจในการซื้อนั้นเอง