โอกิลวี่เผยผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มอายุ50ปีขึ้นไปในไทยมีกำลังซื้อสูง ระบุคนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญและใช้จ่ายเงินกับเรื่องสุขภาพและท่องเที่ยวมาก โดยใช้เงินกับท่องเที่ยวไปปีละกว่า 2 แสนบาท เผยคนอายุ50ปีมีเพิ่มขึ้นปีละ6% คาดอีก20ปีจะขยายตัวสูงถึง40-50%
ดร. อัญชลี พิชญางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทฯเล็งเห็นว่าปัจจุบันผู้บริโภคในประเทศไทยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นเริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆหรือมีเพิ่มขึ้นปีละ6% ซึ่งยอดตัวเลขขณะนี้พบว่ามีประมาณ 14 ล้านคนหรือคิดเป็น20%ของประชากรทั้งหมด และกลุ่มนี้คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าอีก20ปีข้างหน้าการขยายตัวของกลุ่มนี้จะมีมากเท่าประเทศอังกฤษที่มีประชากรกลุ่มอายุ50ปีขึ้นไปประมาณ50%
บริษัทฯจึงได้มีการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มอายุ 50ปีขึ้นไปหรือกลุ่ม50+ ในด้านต่างๆ อาทิ ทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ ความคาดหวัง พฤติกรรมการซื้อสินค้า ประเภทของสินค้าและบริการ ฯลฯ เพื่อที่ธุรกิจและสินค้าบริการต่างๆที่ต้องการเจาะกลุ่มนี้จะได้ใช้เป็นแนวทางสำหรับการทำตลาดต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้โอกิลวี่ได้ศึกษาและเก็บข้อมูลผู้บริโภคชายและหญิงอายุ 50-65 ปีที่อยู่ในกรุงเทพฯเป็นจำนวน 400 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ก่อนเกษียณ 200คนและหลังเกษียณ 200 คน โดยผู้ถูกสัมภาษณ์จะมีรายได้ต่อครอบครัวเดือนละ70,000-200,000 บาท ซึ่งกลุ่มนี้จะมีสัดส่วน10% ของประชากรกลุ่ม50+ โดยการเก็บข้อมูลนี้เริ่มทำในเดือนตุลาคม 2549
จากผลการศึกษาพบว่าในด้านกำลังซื้อคนกลุ่ม50+ มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงและซื้อสินค้าขนาดใหญ่ อาทิ รถยนต์ 22% และบ้านมี17% ส่วนสินค้าเทคโนโลยีต่างๆ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่มี17% โทรทัศน์16% คอมพิวเตอร์13% และกล้องดิจิตอล12%
ส่วนสินค้าอื่นๆที่กลุ่ม50+ ใช้เงินมาก ได้แก่ อาหารเสริมและวิตามิน75% และแคลเซียม44% ขณะที่ผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปจะนิยมใช้สินค้าที่จะทำให้ตนเองดูดี เช่น ครีมลดริ้วรอย 74% ผลิตภัณฑ์ย้อมผม69% และน้ำหอม59%
ด้านบริการคนกลุ่มนี้ต้องการ ได้แก่ การประกันสุขภาพ51% โรงพยาบาลหรือคลินิกสำหรับผู้สูงอายุ50% อาหารเสริมและวิตามิน27% การประกันชีวิตสำหรับวัยเกษียณ26% บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ24% การท่องเที่ยวในประเทศ24% การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ19% และการท่องเที่ยวต่างประเทศ17%
นอกจากนี้กลุ่ม50+ ยังตัดสินใจซื้อสินค้าโดยให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้ามากที่สุดถึง 75% รองลงมาเป็นเรื่องราคามี48% ความทนทาน 28% และความน่าเชื่อถือ23% รวมถึงยังพบว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ยังชอบทดลองสินค้าและบริการใหม่ๆ คิดเป็นสัดส่วน71%และชอบซื้อสินค้ายี่ห้อที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก53%
ในส่วนงานโฆษณาคนกลุ่ม 50+ เป็นคนตรงไปตรงมาจึงชอบโฆษณาที่สมจริงและมีข้อความสื่อสารที่ชัดเจน ขณะที่มีผู้บริโภคกลุ่ม 50+ เพียงส่วนน้อยชอบโฆษณาแนวตลก หรือโฆษณาที่มีพรีเซ็นเตอร์เป็นคนวัยเดียวกัน
“จากการสำรวจในครั้งนี้ทำให้เราค้นพบข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจและสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ถูกใจและเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะคนกลุ่ม 50+ คือ ผู้บริโภคที่จะกำหนดอนาคตของธุรกิจต่างๆในฐานะประชากรส่วนใหญ่ของประเทศต่อไปในอนาคตได้” ดร. อัญชลีกล่าวสรุป
ดร. อัญชลี พิชญางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทฯเล็งเห็นว่าปัจจุบันผู้บริโภคในประเทศไทยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นเริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆหรือมีเพิ่มขึ้นปีละ6% ซึ่งยอดตัวเลขขณะนี้พบว่ามีประมาณ 14 ล้านคนหรือคิดเป็น20%ของประชากรทั้งหมด และกลุ่มนี้คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าอีก20ปีข้างหน้าการขยายตัวของกลุ่มนี้จะมีมากเท่าประเทศอังกฤษที่มีประชากรกลุ่มอายุ50ปีขึ้นไปประมาณ50%
บริษัทฯจึงได้มีการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มอายุ 50ปีขึ้นไปหรือกลุ่ม50+ ในด้านต่างๆ อาทิ ทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ ความคาดหวัง พฤติกรรมการซื้อสินค้า ประเภทของสินค้าและบริการ ฯลฯ เพื่อที่ธุรกิจและสินค้าบริการต่างๆที่ต้องการเจาะกลุ่มนี้จะได้ใช้เป็นแนวทางสำหรับการทำตลาดต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้โอกิลวี่ได้ศึกษาและเก็บข้อมูลผู้บริโภคชายและหญิงอายุ 50-65 ปีที่อยู่ในกรุงเทพฯเป็นจำนวน 400 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ก่อนเกษียณ 200คนและหลังเกษียณ 200 คน โดยผู้ถูกสัมภาษณ์จะมีรายได้ต่อครอบครัวเดือนละ70,000-200,000 บาท ซึ่งกลุ่มนี้จะมีสัดส่วน10% ของประชากรกลุ่ม50+ โดยการเก็บข้อมูลนี้เริ่มทำในเดือนตุลาคม 2549
จากผลการศึกษาพบว่าในด้านกำลังซื้อคนกลุ่ม50+ มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงและซื้อสินค้าขนาดใหญ่ อาทิ รถยนต์ 22% และบ้านมี17% ส่วนสินค้าเทคโนโลยีต่างๆ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่มี17% โทรทัศน์16% คอมพิวเตอร์13% และกล้องดิจิตอล12%
ส่วนสินค้าอื่นๆที่กลุ่ม50+ ใช้เงินมาก ได้แก่ อาหารเสริมและวิตามิน75% และแคลเซียม44% ขณะที่ผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปจะนิยมใช้สินค้าที่จะทำให้ตนเองดูดี เช่น ครีมลดริ้วรอย 74% ผลิตภัณฑ์ย้อมผม69% และน้ำหอม59%
ด้านบริการคนกลุ่มนี้ต้องการ ได้แก่ การประกันสุขภาพ51% โรงพยาบาลหรือคลินิกสำหรับผู้สูงอายุ50% อาหารเสริมและวิตามิน27% การประกันชีวิตสำหรับวัยเกษียณ26% บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ24% การท่องเที่ยวในประเทศ24% การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ19% และการท่องเที่ยวต่างประเทศ17%
นอกจากนี้กลุ่ม50+ ยังตัดสินใจซื้อสินค้าโดยให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้ามากที่สุดถึง 75% รองลงมาเป็นเรื่องราคามี48% ความทนทาน 28% และความน่าเชื่อถือ23% รวมถึงยังพบว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ยังชอบทดลองสินค้าและบริการใหม่ๆ คิดเป็นสัดส่วน71%และชอบซื้อสินค้ายี่ห้อที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก53%
ในส่วนงานโฆษณาคนกลุ่ม 50+ เป็นคนตรงไปตรงมาจึงชอบโฆษณาที่สมจริงและมีข้อความสื่อสารที่ชัดเจน ขณะที่มีผู้บริโภคกลุ่ม 50+ เพียงส่วนน้อยชอบโฆษณาแนวตลก หรือโฆษณาที่มีพรีเซ็นเตอร์เป็นคนวัยเดียวกัน
“จากการสำรวจในครั้งนี้ทำให้เราค้นพบข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจและสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ถูกใจและเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะคนกลุ่ม 50+ คือ ผู้บริโภคที่จะกำหนดอนาคตของธุรกิจต่างๆในฐานะประชากรส่วนใหญ่ของประเทศต่อไปในอนาคตได้” ดร. อัญชลีกล่าวสรุป