"ไกรศักดิ์"นำกรรมการสิทธิ์ฯ-สภาทนายความ เข้าพบ"สุรยุทธ์"เช็กบิลย้อนหลังรัฐบาลทักษิณ คดีฆ่าตัดตอน แนะรัฐบาลปรับโครงสร้างสถาบันตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม เสนอตั้งคณะกรรมการพิเศษทำนโยบายการละเมิดสิทธิมนุยชนเป็นวาระแห่งชาติ เพราะไม่เชื่อน้ำยาดีเอสไอ ที่ยังทำงานแบบตำรวจ "สมชาย"แนะทำสัตยาบันศาลโลกเอาผิด "ครม.แม้ว" ให้ถึงที่สุด ด้านรมว.ยุติธรรมนำคดีฆ่าตัดตอนเข้า DSI 8 ธ.ค.นี้
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 พ.ย.)นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตส.ว.นครราชสีมาพร้อมด้วย นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายสมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษชน และการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมในช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายไกรศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้เล่าประสบการณ์ในการทำงานของตน กรรมการสิทธิมนุษยชนฯและสภาทนายความ ที่ทำงานด้านการละเมิดสิทธิมนุษชยชนในยุครัฐบาลทักษิณให้นายกฯได้รับทราบ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กว้างขวาง ยาวนาน เกี่ยวโยงกับการทำลายความมั่นคงถึงภาคใต้
สิ่งสำคัญสุดคือ หลายคนที่โดนปราบปรามในเรื่องยาเสพติดจนถึงขั้นเสียชีวิต ไม่เคยติดโทษคดียาเสพติดด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงเสนอนายกฯหลายประเด็นคือ ขอให้นำเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา และขอให้พิจารณาการเข้าร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทรมาน หรือศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ได้ไปลงสัญญาแล้ว แต่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการอนุมัติจากรัฐสภา ยังได้เสนอนายกฯไปอีกว่า น่าจะพิจารณาเอาผิดกับฝ่ายผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ มากกว่าที่จะไปเล่นงานเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามนโยบาย โดยนายกรัฐมนตรี ตอบมาว่า สิ่งที่พวกตนเสนอไปนั้นสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่กำลังมุ่งมั่นกับการปฏิรูปโครงสร้างกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว โดยเฉพาะสถาบันตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้จะขอพิจารณา โดยให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการ
เมื่อถามว่า ในวันที่ 8 ธ.ค.นายกฯ จะไปประชุมร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อมูลที่เสนอปลัดกระทรวงยุติธรรมในเรื่องนี้เป็นอย่างไร นายไกรศักดิ์ กล่าวว่า เป็นข้อมูลดิบที่รับมาจากผู้ประสบปัญหาและนำพยานมาร้องเรียนด้วย ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับการฆ่าตัดตอนในคดียาเสพติด และการยัดหลักฐาน รวมทั้งการฆ่าผิดตัวด้วย ข้อมูลทั้งหมดได้มาจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ และข้อมูลที่ตนได้รับการร้องเรียน 8 เรื่องจาก จ.นครราชสีมา
ส่วนการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น ตนคิดว่ามีปัญหาเพราะยังติดการทำงานรูปแบบเก่า ส่วนใหญ่ยังทำงานแบบตำรวจอยู่ ส่วนวิธีการแก้ไขนั้นก็ต้องหาวิธีกัน เมื่อถามว่าหากกรมสอบสวนคดีพิเศษมาดูแลคดีเหล่านี้จะคืบหน้าหรือไม่ นายไกรศักดิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ในกรมนั้น
*แนะทำสัตยาบันศาลโลกเอาผิด ครม.แม้ว
ด้านนายสมชาย กล่าวว่า ได้พยายามหาลู่ทางในการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนก่อให้เกิดการฆ่าาตัดตอนขนานใหญ่ โดยเฉพาะระดับผู้นำ ซึ่งจะดูระบบกฎหมายในประเทศว่า จะสามารถรวบรวมหลักฐานไปถึงตัวบงการของการฆ่าตัดตอนได้หรือไม่ ค่อนข้างมีความเชื่อว่า หากดำเนินการอย่างจริงจังแล้วความยุติธรรมจะมีอยู่จริง สามารถที่จะเอาผิดได้
ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิฯก็มีข้อมูลจำนวนหนึ่ง อยากให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้มากขึ้น โดยรัฐบาลต้องถือเรื่องนี้เป็นนโยบาย และต้องรื้อคดีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่เกิดในรัฐบาลทักษิณ เพื่อให้พยานมีกำลังใจออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำความผิดในยุคนั้น ได้เรียนนายกฯไปอีกว่า ญาติของเหยื่อนั้นไม่ได้มุ่งจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยที่จำเป็นต้องดำเนินการตามนโยบายและการบังคับของผู้บริหารชุดเก่า แต่ต้องการดำเนินคดีกับผู้รับผิดชอบในด้านนโยบาย และการสั่งการ
ส่วนหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดกับพ.ต.ท.ทักษิณได้หรือไม่นั้น นายสมชายกล่าวว่ายังพูดไม่ได้ แต่ขอไว้ว่าเรามีหลักฐานจำนวนหนึ่งและกำลังรวบรวมเพิ่มเติม เพราะหลายคดีในทางรูปคดีนั้นเกี่ยวพันกับพยานบุคคลด้วย ความปลอดภัยของพยานบุคคลถือว่าสำคัญมาก หากรัฐบาลเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ก็ต้องนำเรื่องนี้เป็นนโยบาย เมื่อถามว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ นายกฯเห็นด้วยหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า นายกฯบอกว่าจะประสานกับกระทรวงยุติธรรมซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ในทางหลักการนั้นนายกฯ เห็นด้วยที่จะต้องรื้อฟื้นคดีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงรัฐบาลทักษิณ
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งให้ศาลโลกพิจารณาหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ได้เสนอให้มีการลงสัตยาบันและธรรมนูญกรุงโรมด้วย อย่างน้อยเพื่อเป็นพื้นฐานในการปรับระบบกฎหมายไทยให้มีข้อหาเกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำเช่นนี้ในอนาคตด้วย
**นำคดีฆ่าตัดตอนเข้า DSI 8 ธ.ค.นี้
นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีรื้อคดีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพว่า จะมีการนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ(DSI )ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ โดยมีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยจะนำข้อมูลจากที่นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตส.ว.นครราชสีมา เสนอมาเข้าร่วมพิจารณาด้วย ว่าหลักฐานมีแค่ไหน มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งขณะนี้ข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่ปลัดกระทรวงยุติธรรมแล้ว ทั้งนี้หลังจากพิจารณาแล้ว เราจึงจะมีมติให้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ถ้าเป็นคดีพิเศษ ทาง DSI ก็ต้องดำเนินการหาพยานหลักฐานต่อไป ซึ่งเราคงต้องหยิบมาเป็นคดีๆไป และถ้าเป็นคดีอาญาที่บังเอิญคนที่กระทำผิดเสียชีวิตไปแล้ว ก็ต้องระงับ จะดำเนินการเฉพาะคดีที่คนทำยังมีชีวิตอยู่
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 พ.ย.)นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตส.ว.นครราชสีมาพร้อมด้วย นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายสมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษชน และการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมในช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายไกรศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้เล่าประสบการณ์ในการทำงานของตน กรรมการสิทธิมนุษยชนฯและสภาทนายความ ที่ทำงานด้านการละเมิดสิทธิมนุษชยชนในยุครัฐบาลทักษิณให้นายกฯได้รับทราบ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กว้างขวาง ยาวนาน เกี่ยวโยงกับการทำลายความมั่นคงถึงภาคใต้
สิ่งสำคัญสุดคือ หลายคนที่โดนปราบปรามในเรื่องยาเสพติดจนถึงขั้นเสียชีวิต ไม่เคยติดโทษคดียาเสพติดด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงเสนอนายกฯหลายประเด็นคือ ขอให้นำเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา และขอให้พิจารณาการเข้าร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทรมาน หรือศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ได้ไปลงสัญญาแล้ว แต่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการอนุมัติจากรัฐสภา ยังได้เสนอนายกฯไปอีกว่า น่าจะพิจารณาเอาผิดกับฝ่ายผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ มากกว่าที่จะไปเล่นงานเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามนโยบาย โดยนายกรัฐมนตรี ตอบมาว่า สิ่งที่พวกตนเสนอไปนั้นสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่กำลังมุ่งมั่นกับการปฏิรูปโครงสร้างกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว โดยเฉพาะสถาบันตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้จะขอพิจารณา โดยให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการ
เมื่อถามว่า ในวันที่ 8 ธ.ค.นายกฯ จะไปประชุมร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อมูลที่เสนอปลัดกระทรวงยุติธรรมในเรื่องนี้เป็นอย่างไร นายไกรศักดิ์ กล่าวว่า เป็นข้อมูลดิบที่รับมาจากผู้ประสบปัญหาและนำพยานมาร้องเรียนด้วย ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับการฆ่าตัดตอนในคดียาเสพติด และการยัดหลักฐาน รวมทั้งการฆ่าผิดตัวด้วย ข้อมูลทั้งหมดได้มาจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ และข้อมูลที่ตนได้รับการร้องเรียน 8 เรื่องจาก จ.นครราชสีมา
ส่วนการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น ตนคิดว่ามีปัญหาเพราะยังติดการทำงานรูปแบบเก่า ส่วนใหญ่ยังทำงานแบบตำรวจอยู่ ส่วนวิธีการแก้ไขนั้นก็ต้องหาวิธีกัน เมื่อถามว่าหากกรมสอบสวนคดีพิเศษมาดูแลคดีเหล่านี้จะคืบหน้าหรือไม่ นายไกรศักดิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ในกรมนั้น
*แนะทำสัตยาบันศาลโลกเอาผิด ครม.แม้ว
ด้านนายสมชาย กล่าวว่า ได้พยายามหาลู่ทางในการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนก่อให้เกิดการฆ่าาตัดตอนขนานใหญ่ โดยเฉพาะระดับผู้นำ ซึ่งจะดูระบบกฎหมายในประเทศว่า จะสามารถรวบรวมหลักฐานไปถึงตัวบงการของการฆ่าตัดตอนได้หรือไม่ ค่อนข้างมีความเชื่อว่า หากดำเนินการอย่างจริงจังแล้วความยุติธรรมจะมีอยู่จริง สามารถที่จะเอาผิดได้
ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิฯก็มีข้อมูลจำนวนหนึ่ง อยากให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้มากขึ้น โดยรัฐบาลต้องถือเรื่องนี้เป็นนโยบาย และต้องรื้อคดีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่เกิดในรัฐบาลทักษิณ เพื่อให้พยานมีกำลังใจออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำความผิดในยุคนั้น ได้เรียนนายกฯไปอีกว่า ญาติของเหยื่อนั้นไม่ได้มุ่งจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยที่จำเป็นต้องดำเนินการตามนโยบายและการบังคับของผู้บริหารชุดเก่า แต่ต้องการดำเนินคดีกับผู้รับผิดชอบในด้านนโยบาย และการสั่งการ
ส่วนหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดกับพ.ต.ท.ทักษิณได้หรือไม่นั้น นายสมชายกล่าวว่ายังพูดไม่ได้ แต่ขอไว้ว่าเรามีหลักฐานจำนวนหนึ่งและกำลังรวบรวมเพิ่มเติม เพราะหลายคดีในทางรูปคดีนั้นเกี่ยวพันกับพยานบุคคลด้วย ความปลอดภัยของพยานบุคคลถือว่าสำคัญมาก หากรัฐบาลเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ก็ต้องนำเรื่องนี้เป็นนโยบาย เมื่อถามว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้ นายกฯเห็นด้วยหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า นายกฯบอกว่าจะประสานกับกระทรวงยุติธรรมซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ในทางหลักการนั้นนายกฯ เห็นด้วยที่จะต้องรื้อฟื้นคดีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงรัฐบาลทักษิณ
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งให้ศาลโลกพิจารณาหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ได้เสนอให้มีการลงสัตยาบันและธรรมนูญกรุงโรมด้วย อย่างน้อยเพื่อเป็นพื้นฐานในการปรับระบบกฎหมายไทยให้มีข้อหาเกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำเช่นนี้ในอนาคตด้วย
**นำคดีฆ่าตัดตอนเข้า DSI 8 ธ.ค.นี้
นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีรื้อคดีฆ่าตัดตอน 2,500 ศพว่า จะมีการนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ(DSI )ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ โดยมีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยจะนำข้อมูลจากที่นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตส.ว.นครราชสีมา เสนอมาเข้าร่วมพิจารณาด้วย ว่าหลักฐานมีแค่ไหน มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งขณะนี้ข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่ปลัดกระทรวงยุติธรรมแล้ว ทั้งนี้หลังจากพิจารณาแล้ว เราจึงจะมีมติให้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ถ้าเป็นคดีพิเศษ ทาง DSI ก็ต้องดำเนินการหาพยานหลักฐานต่อไป ซึ่งเราคงต้องหยิบมาเป็นคดีๆไป และถ้าเป็นคดีอาญาที่บังเอิญคนที่กระทำผิดเสียชีวิตไปแล้ว ก็ต้องระงับ จะดำเนินการเฉพาะคดีที่คนทำยังมีชีวิตอยู่