ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - พาณิชย์สุรินทร์และคณะเอกชน เผยประสบความสำเร็จในการเดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์ด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษาและวัฒนธรรม กับ "นครต้าเหลียน" สาธารณรัฐประชาชนจีน เผย จีนสนใจนำเข้ายางพาราอีสาน ข้าวหอมมะลิ และท่องเที่ยวเมืองช้าง พร้อมลงนามยกระดับความร่วมมือเป็นเมือง "Sister City" ระหว่างกัน
นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดคณะภาครัฐและเอกชนเดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์ทางด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษาและวัฒนธรรม กับนครต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งภาครัฐและเอกชนของนครต้าเหลียนให้ความสนใจในด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวในจังหวัดสุรินทร์หลายเรื่อง
ทั้งนี้ คณะผู้เดินทางทุกคนได้เข้าร่วมการประชุม "2006 China Dali an International Sister Cities Cooperation and communication Conference" ซึ่งมีผู้แทนของประเทศต่างๆ เข้าร่วมประชุม 16 ประเทศ โดยผู้แทนภาครัฐและเอกชนของจังหวัดสุรินทร์ ได้ประชุมกลุ่มย่อยกับผู้แทนภาครัฐและเอกชนของนครต้าเหลียน ซึ่งมี Mr.Ma Lian Sheng เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายต้าเหลียน
ที่ประชุม ได้ข้อสรุปที่สำคัญ คือ จีน สนใจซื้อยางพาราจากสุรินทร์ โดยขอให้จังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้รวบรวมผลผลิตยางพาราของจังหวัดภาคอีสาน ส่งจำหน่ายให้จีน, จีนสนใจซื้อไม้ยูคาลิปตัสของผู้ประกอบการจากจังหวัดสุรินทร์ ที่เข้าร่วมเจรจาในครั้งนี้ และสนใจซื้อข้าวหอมมะลิจากจังหวัดสุรินทร์ โดยขอให้ผู้ประกอบการค้าข้าวของจังหวัดสุรินทร์ ส่งตัวอย่างข้าวสารและราคาให้จีน
อีกทั้งคณะฝ่ายภาครัฐและเอกชน นครต้าเหลียน ยังสนใจที่จะมาเยือนสุรินทร์ เพื่อชมงานแสดงของช้างและพบผู้ประกอบการของจังหวัดสุรินทร์
นอกจากนั้น ได้มีการประชุมด้านการค้ากับภาคราชการ ซึ่งมี Mr.Zhang Min Xiang ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ของนครต้าเหลียน เป็นหัวหน้าคณะ ผลการประชุม คือ ภาคเอกชนนครต้าเหลียน จะให้พื้นที่ในห้างสรรพสินค้า 14 แห่ง ในนครต้าเหลียนจัดแสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ โอทอปของประเทศไทยและของจังหวัดสุรินทร์
สำหรับการประชุมด้านการท่องเที่ยวกับภาคราชการ ซึ่ง มี Mr.Liu Zhenwan ผู้อำนวยการฝ่ายการท่องเที่ยวนครต้าเหลียน เป็นหัวหน้าคณะ มีผลการประชุมที่สำคัญ คือ นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมาประเทศไทย ส่วนใหญ่จะท่องเที่ยวที่กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ ดังนั้น ฝ่ายการท่องเที่ยวนครต้าเหลียนสนใจที่จะนำคณะนักท่องเที่ยวจีนมาชมงานแสดงของช้างจังหวัดสุรินทร์ ในปี 2550 และ ขอให้จังหวัดสุรินทร์จัดโปรแกรมการท่องเที่ยวให้นครต้าเหลียนด้วย
พร้อมกันนี้ ได้ร่วมกันลงนามเป็นเมืองพี่เมืองน้อง(Sister City) ระหว่างจังหวัดสุรินทร์กับนครต้าเหลียน โดยให้จังหวัดสุรินทร์และนครต้าเหลียน เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษาและวัฒนธรรม เพื่อสร้างความร่วมมือในการเป็นเมือง "Sister City" ระหว่างกันต่อไป
นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดคณะภาครัฐและเอกชนเดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์ทางด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษาและวัฒนธรรม กับนครต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งภาครัฐและเอกชนของนครต้าเหลียนให้ความสนใจในด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวในจังหวัดสุรินทร์หลายเรื่อง
ทั้งนี้ คณะผู้เดินทางทุกคนได้เข้าร่วมการประชุม "2006 China Dali an International Sister Cities Cooperation and communication Conference" ซึ่งมีผู้แทนของประเทศต่างๆ เข้าร่วมประชุม 16 ประเทศ โดยผู้แทนภาครัฐและเอกชนของจังหวัดสุรินทร์ ได้ประชุมกลุ่มย่อยกับผู้แทนภาครัฐและเอกชนของนครต้าเหลียน ซึ่งมี Mr.Ma Lian Sheng เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายต้าเหลียน
ที่ประชุม ได้ข้อสรุปที่สำคัญ คือ จีน สนใจซื้อยางพาราจากสุรินทร์ โดยขอให้จังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้รวบรวมผลผลิตยางพาราของจังหวัดภาคอีสาน ส่งจำหน่ายให้จีน, จีนสนใจซื้อไม้ยูคาลิปตัสของผู้ประกอบการจากจังหวัดสุรินทร์ ที่เข้าร่วมเจรจาในครั้งนี้ และสนใจซื้อข้าวหอมมะลิจากจังหวัดสุรินทร์ โดยขอให้ผู้ประกอบการค้าข้าวของจังหวัดสุรินทร์ ส่งตัวอย่างข้าวสารและราคาให้จีน
อีกทั้งคณะฝ่ายภาครัฐและเอกชน นครต้าเหลียน ยังสนใจที่จะมาเยือนสุรินทร์ เพื่อชมงานแสดงของช้างและพบผู้ประกอบการของจังหวัดสุรินทร์
นอกจากนั้น ได้มีการประชุมด้านการค้ากับภาคราชการ ซึ่งมี Mr.Zhang Min Xiang ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ของนครต้าเหลียน เป็นหัวหน้าคณะ ผลการประชุม คือ ภาคเอกชนนครต้าเหลียน จะให้พื้นที่ในห้างสรรพสินค้า 14 แห่ง ในนครต้าเหลียนจัดแสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ โอทอปของประเทศไทยและของจังหวัดสุรินทร์
สำหรับการประชุมด้านการท่องเที่ยวกับภาคราชการ ซึ่ง มี Mr.Liu Zhenwan ผู้อำนวยการฝ่ายการท่องเที่ยวนครต้าเหลียน เป็นหัวหน้าคณะ มีผลการประชุมที่สำคัญ คือ นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมาประเทศไทย ส่วนใหญ่จะท่องเที่ยวที่กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ ดังนั้น ฝ่ายการท่องเที่ยวนครต้าเหลียนสนใจที่จะนำคณะนักท่องเที่ยวจีนมาชมงานแสดงของช้างจังหวัดสุรินทร์ ในปี 2550 และ ขอให้จังหวัดสุรินทร์จัดโปรแกรมการท่องเที่ยวให้นครต้าเหลียนด้วย
พร้อมกันนี้ ได้ร่วมกันลงนามเป็นเมืองพี่เมืองน้อง(Sister City) ระหว่างจังหวัดสุรินทร์กับนครต้าเหลียน โดยให้จังหวัดสุรินทร์และนครต้าเหลียน เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษาและวัฒนธรรม เพื่อสร้างความร่วมมือในการเป็นเมือง "Sister City" ระหว่างกันต่อไป