xs
xsm
sm
md
lg

พรานทะเลงัดซูเปอร์เอาท์สู้ศึกเอาท์ซอร์สน้ำผลไม้เล็งยูเอชที

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พรานทะเลสู้ศึกอาหารแช่แข็งไตรมาสสุดท้ายปีนี้  โฟกัสไปที่สินค้า 2 กลุ่ม คือ ไส้กรอกซีฟู้ดและเมนูอาหารรสจัดจ้าน หลังพบว่าตลาดยังมีช่องว่างอยู่  พร้อมขยายช่องทางขายใหม่สู่ซูเปอร์เอาต์ ประเดิมลงที่เดอะมอลล์ 7 แห่งภายในปีนี้  ตั้งเป้าสิ้นปีจุดขายเพิ่มเป็น 2,000 จุดทั่วประเทศ   เล็งหาพันธมิตรทำบรรจุภัณฑ์ให้น้ำผลไม้พรานไพรเพื่อรุกตลาดยูเอชที คาดได้เห็นแน่ปีหน้า   มั่นใจยอดขายปีนี้ปิดที่ 850 ล้านบาท

นายอนุรัตน์ โค้วคาสัย  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและปฎิบัติการ บริษัทพรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ในเครือบริษัท ยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด  เปิดเผยว่า   แผนการตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2549 นี้บริษัทฯเตรียมมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 กลุ่ม   ประกอบด้วย กลุ่มแรกไส้กรอกซีฟู้ด  มีทั้งหมด 8 เมนู เช่น ไส้กรอกปลาพริกไทยสด,ไส้กรอกชีสปลา ฯลฯ  มีระดับราคาประมาณ 80-95 บาท  

ทั้งนี้บริษัทฯว่าจะสร้างยอดรายได้ในปีหน้าได้ที่ 150 ล้านบาทจากมูลค่าตลาดรวมไส้กรอกกว่า 3,000 ล้านบาท    ส่วนกลุ่มที่สอง คือ เมนูอาหารพร้อมรับประทานรสจัดจ้าน ประกอบด้วย 12 เมนู อาทิ ข้าวผัดปู,ข้าวผัดไส้กรอกและข้าวผัดต้มยำ เป็นต้น  ซึ่งระดับราคาจะอยู่ที่ 45-49 บาท

สำหรับงบตลาดช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ประมาณ 4-5 ล้านบาท จากงบรวมทั้งปี 40 ล้านบาท โดยจะเน้นการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น มินิอีเวนต์ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อแนะนำสินค้าไปยังผู้บริโภค  เตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าพรานทะเลไปยังคอนวีเนียนสโตร์, ร้านค้าขนาดเล็กหรือเรียกว่ากลุ่มรากหญ้าให้ได้กว่า 2,000 จุดจากเดิมมี 1,500 จุด  นอกจากนี้บริษัทฯยังเล็งขยายช่องทางขายใหม่เพิ่ม อาทิ ขายอาหารปรุงสำเร็จในบริเวณนอกซูเปอร์มาร์เก็ต(Super Out) เบื้องต้นจะเริ่มให้บริการในห้างเดอะมอลล์ 7 สาขาภายในปลายปีนี้

ประกอบกับบริษัทฯเตรียมหาโรงงานในการทำบรรจุภัณฑ์ให้กับน้ำผลไม้ "พรานไพร"  ซึ่งปัจจุบันมีกว่า6 รสชาติ ได้แก่ ลำไย,มะตูม,มะขาม และใบเตย ฯลฯ ในรูปแบบแก้วพลาสติกและขายราคา 12 บาท  หากหาพันธมิตรทางธุรกิจได้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำการผลิตน้ำผลไม้ในรูปแบบกล่องยูเอชที เพื่อรุกเข้าช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยคาดว่าจะได้เห็นในช่วงปลายปีหน้า

ภาพรวมยอดรายได้ของบริษัทฯในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมามีประมาณ 600 ล้านบาท เติบโตขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยแบ่งเป็นกลุ่มอาหารทะเลพร้อมปรุง 30% และอาหารทะเลพร้อมรับประทาน70%   ขณะที่ยอดรายได้สิ้นปีนี้บริษัทฯคาดหวังที่ 850 ล้านบาทหรือเติบโตขึ้น 50%  

สำหรับมูลค่าตลาดอาหารแช่แข็งในปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโตขึ้น 30% ซึ่งถือแม้ว่าตลาดจะมีปัจจัยลบมาก เช่น เศรษฐกิจ,การเมืองและน้ำท่วม ฯลฯ แต่ยังพบว่าคนให้ความสำคัญกับการทานอาหารแช่แข็งและอาหารชิล (อาหารแช่เย็นควบคุมความเย็นภายใต้อุณหภูมิ 5 องศา) เพิ่มขึ้น   โดยปัจจุบันพรานทะเลมีส่วนแบ่งตลาดอาหารแช่แข็ง30%

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้าบริษัทฯมีแผนลงทุนในด้านเครื่องจักรเพิ่มอีก 40-50 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเครื่องจักรข้าวกล่อง 10 ล้านบาท  ขณะที่งบในการทำตลาดจะใช้ประมาณ 25 ล้านบาทโดยจะเน้นไปที่การจัดกิจกรรมทางการตลาดเป็นหลักหรือจัดประมาณ 1 เดือน 2 ครั้ง  รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ได้ปีละ 6 กลุ่ม ซึ่งสินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวนั้นบริษัทฯจะมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคทุกระดับ เช่น รูปแบบกระป๋อง ฯลฯ  ทั้งนี้เพื่อให้ยอดขายในปีหน้าแตะที่ 1,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น