เอแบคโพลล์ระบุ ประชาชนมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลใหม่ โปร่งใส ไว้ใจได้ ขณะเดียวกัน ชื่นชมครม.ภาพลักษณ์ดี เป็นคนเก่ง และเห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะยึดทรัพย์ นายทุน ข้าราชการ และนักการเมือง ที่ร่วมกันโกงบ้านกินเมือง
เอแบคโพลล์เผยผลสำรวจ เรื่อง"ความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ ต่อรายชื่อครม.ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ภายใต้การนำของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" โดยสำรวจระหว่างวันที่ 9–10 ต.ค.49 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 1,122 คน พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 66.6 คิดว่ารัฐบาลจะมีความโปร่งใสมากขึ้น ส่วนเรื่องการตรวจสอบรัฐบาล พบว่าครึ่งหนึ่ง หรือร้อยละ 50.5 คิดว่าประชาชนจะสามารถตรวจสอบรัฐบาลได้มากขึ้น นอกจากนี้ เมื่อถามเรื่องความไว้วางใจได้ของรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 58.7 คิดว่าประชาชนจะไว้วางใจรัฐบาลได้มากขึ้น
สำหรับเรื่องความเชื่อถือได้ของรัฐบาล คือ รัฐบาลพูดอะไร ทำอะไร ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 58.1 คิดว่าประชาชนจะให้ความเชื่อถือรัฐบาลมากขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ของรัฐบาล พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 58.5 คิดว่า ความซื่อสัตย์สุจริตของรัฐบาลจะมากขึ้น
เมื่อถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ที่ดี ร่วมมือกันพัฒนาประเทศ ระหว่างรัฐบาลหน่วยงานราชการ และภาคประชาชน พบว่า ร้อยละ 52.3 คิดว่าจะมีมากขึ้น เรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน พบว่าครึ่งหนึ่ง หรือ ร้อยละ 50.3 คิดว่าจะมากขึ้น ขณะที่เรื่องการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พบว่า ร้อยละ 48.8 คิดว่าจะยั่งยืนมากขึ้น
เมื่อสอบถามภายหลังทราบรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน ถึงภาพลักษณ์ความเป็นคนดี และภาพลักษณ์ความเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า คะแนนเฉลี่ยของภาพลักษณ์ความเป็นคนดี อยู่ที่ 7.59 ใกล้เคียงกับภาพลักษณ์ความเก่ง ที่มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.50 นอกจากนี้ ตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 96.1 เห็นสมควรให้โอกาสครม.นี้ได้ทำงานไปก่อน มีเพียงร้อยละ 3.9 เท่านั้น ที่ระบุว่า ไม่ควรให้โอกาส
สำหรับกรณีนำอดีตคนที่เคยทำงานให้พรรคไทยรักไทย เข้าร่วมเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ปรากฏว่าตัวอย่างร้อยละ 45.2 ระบุว่าเห็นด้วย เพราะ แสดงให้เห็นว่าไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก และเห็นว่าเป็นคนดี คนเก่ง มีความรู้ความสามารถ ผลงานที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ ขณะที่ ร้อยละ 28.4 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะประชาชนไม่ไว้วางใจ อาจก่อให้เกิดปัญหาและความยุ่งยากซ้ำอีก ต้องการคนใหม่ ๆ และ ร้อยละ 26.4 ไม่มีความคิดเห็น
เมื่อสอบถามถึงแนวคิดต่างๆ ทางการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่าส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 92.2 เห็นด้วยที่จะยึดทรัพย์ของนายทุน ข้าราชการ และนักการเมือง ที่ร่วมกันทุจริตคอร์รัปชั่น มีเพียงร้อยละ 2.7 ไม่เห็นด้วย และ ร้อยละ 5.1 ไม่มีความเห็น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 72.1 เห็นด้วย ที่จะเน้นความสุข และความพอเพียงของประชาชนมากกว่าความเจริญทางเศรษฐกิจ ด้านวัตถุเพียงพออย่างเดียว
เอแบคโพลล์เผยผลสำรวจ เรื่อง"ความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ ต่อรายชื่อครม.ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ภายใต้การนำของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" โดยสำรวจระหว่างวันที่ 9–10 ต.ค.49 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 1,122 คน พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 66.6 คิดว่ารัฐบาลจะมีความโปร่งใสมากขึ้น ส่วนเรื่องการตรวจสอบรัฐบาล พบว่าครึ่งหนึ่ง หรือร้อยละ 50.5 คิดว่าประชาชนจะสามารถตรวจสอบรัฐบาลได้มากขึ้น นอกจากนี้ เมื่อถามเรื่องความไว้วางใจได้ของรัฐบาล พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 58.7 คิดว่าประชาชนจะไว้วางใจรัฐบาลได้มากขึ้น
สำหรับเรื่องความเชื่อถือได้ของรัฐบาล คือ รัฐบาลพูดอะไร ทำอะไร ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 58.1 คิดว่าประชาชนจะให้ความเชื่อถือรัฐบาลมากขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ของรัฐบาล พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 58.5 คิดว่า ความซื่อสัตย์สุจริตของรัฐบาลจะมากขึ้น
เมื่อถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ที่ดี ร่วมมือกันพัฒนาประเทศ ระหว่างรัฐบาลหน่วยงานราชการ และภาคประชาชน พบว่า ร้อยละ 52.3 คิดว่าจะมีมากขึ้น เรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน พบว่าครึ่งหนึ่ง หรือ ร้อยละ 50.3 คิดว่าจะมากขึ้น ขณะที่เรื่องการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พบว่า ร้อยละ 48.8 คิดว่าจะยั่งยืนมากขึ้น
เมื่อสอบถามภายหลังทราบรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน ถึงภาพลักษณ์ความเป็นคนดี และภาพลักษณ์ความเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า คะแนนเฉลี่ยของภาพลักษณ์ความเป็นคนดี อยู่ที่ 7.59 ใกล้เคียงกับภาพลักษณ์ความเก่ง ที่มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.50 นอกจากนี้ ตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 96.1 เห็นสมควรให้โอกาสครม.นี้ได้ทำงานไปก่อน มีเพียงร้อยละ 3.9 เท่านั้น ที่ระบุว่า ไม่ควรให้โอกาส
สำหรับกรณีนำอดีตคนที่เคยทำงานให้พรรคไทยรักไทย เข้าร่วมเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ ปรากฏว่าตัวอย่างร้อยละ 45.2 ระบุว่าเห็นด้วย เพราะ แสดงให้เห็นว่าไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก และเห็นว่าเป็นคนดี คนเก่ง มีความรู้ความสามารถ ผลงานที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ ขณะที่ ร้อยละ 28.4 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะประชาชนไม่ไว้วางใจ อาจก่อให้เกิดปัญหาและความยุ่งยากซ้ำอีก ต้องการคนใหม่ ๆ และ ร้อยละ 26.4 ไม่มีความคิดเห็น
เมื่อสอบถามถึงแนวคิดต่างๆ ทางการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่าส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 92.2 เห็นด้วยที่จะยึดทรัพย์ของนายทุน ข้าราชการ และนักการเมือง ที่ร่วมกันทุจริตคอร์รัปชั่น มีเพียงร้อยละ 2.7 ไม่เห็นด้วย และ ร้อยละ 5.1 ไม่มีความเห็น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 72.1 เห็นด้วย ที่จะเน้นความสุข และความพอเพียงของประชาชนมากกว่าความเจริญทางเศรษฐกิจ ด้านวัตถุเพียงพออย่างเดียว