ทัวร์หนองคายหงอยงาน"บั้งไฟฯ"ไม่คึกคัก การเมืองวุ่น-ที่พักปรับราคาสวนเศรษฐกิจ

หนองคาย-ทัวร์หนองคายหงอย ช่วงบั้งไฟพญานาคไม่คึก ยอดจองทัวร์ลด 40% บริษัททัวร์เปลี่ยนจุดขายจากดึงกรุ๊ปทัวร์องค์กร เป็นทัวร์แบบครอบครัว จองที่นั่งชมบั้งไฟให้ เผยปัจจัยหลักมาจากการเมือง และปัญหาด้านที่พักในหนองคายปรับราคาสูงเกิน ด้านผู้ประกอบการโรงแรมโต้เหตุราคาสูง เพราะเป็นช่วงไฮซีซันแถมบริการพาทัวร์บั้งไฟพ่วง ขณะที่หอการค้าประเมินเงินสะพัด 500 ล้าน

นางสุกานดา ยุวนิช ผู้จัดการบริษัทกานตนาทัวร์ เปิดเผยถึงภาวะการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย ระหว่างวันที่ 3-9 ตุลาคม นี้ว่า บรรยากาศการจัดงานปีนี้ ค่อนข้างจะไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา อาจเป็นผลมาจากปัจจัยภาพรวมของประเทศ มาจากการเปลี่ยนแปลงด้านการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ สภาพอากาศแปรปรวนเกิดพายุช้างสารขึ้นในช่วงนี้ ส่วนปัจจัยในจังหวัดคือการที่มีการประชาสัมพันธ์งานค่อนข้างน้อยและล่าช้า

ประกอบกับปัญหาที่พักในตัวจังหวัดหนองคายทั้งโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ต่าง ๆ มีการปรับราคาขึ้นแพงเป็นเท่าตัว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาปกติ ซึ่งช่วงเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค นับเป็นช่วงไฮซีซันของจังหวัด ทำให้ภาคธุรกิจโรงแรมมีการปรับราคาที่พักกันอย่างถ้วนหน้า ส่งผลให้กรุ๊ปทัวร์ลดน้อยลง บริษัททัวร์ทำราคาไม่ได้

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวมักจะโทรศัพท์สอบถามอัตราค่าที่พักกับทางโรงแรมก่อน เพราะที่พักเป็นปัจจัยสำคัญในการท่องเที่ยว เมื่อทราบว่าราคาแพง เช่น จากเดิมราคาที่พักห้องละ 500 บาท แต่ในช่วงนี้ปรับขึ้นราคาเป็น 1,200 บาท ก็ทำให้นักท่องเที่ยวเห็นว่าที่พักแพงเกินไป ไม่มาท่องเที่ยวหรือหันไปจองห้องพัก ที่จังหวัดใกล้เคียงแทน ทำให้การจองทัวร์กับบริษัททัวร์ต่าง ๆ ของจังหวัดหนองคายที่มีจำนวน 24 บริษัท มีจำนวนลดลง 30-40%

ดังนั้น จึงต้องมีการปรับแผนในการดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยว จากเดิมที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์ ก็เปลี่ยนมาดึงทัวร์แบบครอบครัวมากขึ้น โดยทางบริษัทได้เสนอพานักท่องเที่ยวที่นำรถมาเอง แล้วต้องการจองที่นั่งชมบั้งไฟพญานาค บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงภายในโรงเรียนชุมชนปากสวย อ.โพนพิสัย พร้อมทั้งจัดอาหารเย็นให้บริการ เป็นการบริการที่สะดวกสามารถชมบั้งไฟพญานาคได้ชัดเจน อัตราขายทัวร์คนละ 500 บาท ก็ทำให้พอมีนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวจองทัวร์ด้วยพอสมควร

นอกจาก มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มต้องการไปชมบั้งไฟพญานาคในลาว แต่บริษัทไม่แนะนำเนื่องจากสภาพพื้นที่ในการชม สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่าง ๆ ที่ลาวยังไม่สะดวกเท่าใดนัก ถนนทางเข้าชมก็ขรุขระ จึงพยายามชูจุดขายในพื้นที่หนองคายก่อน ซึ่งนักท่องเที่ยวก็เข้าใจถึงคำอธิบายเหล่านี้

ส่วนจำนวนลูกไฟพญานาคที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในค่ำวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งปีนี้ออกพรรษาไทยกับออกพรรษาลาวตรงกัน ตามคำบอกเล่าของบรรพบุรุษชาวหนองคายบอกว่าหากออกพรรษาไทย-ลาวตรงกันในปีนี้ จำนวนลูกไฟจะมีมาก และจากสถิติในแต่ละปีจะพบว่าหากปีไหนสภาพอากาศเย็น และมีฝนตก ปีนั้นจะมีลูกไฟขึ้นมาก ก็คาดว่าปีนี้จำนวนลูกไฟจะมีให้นักท่องเที่ยวได้เห็นกันเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามปีนี้วันออกพรรษาเป็นวันเสาร์ บริษัททัวร์ต่างชูจุดขายเชื่อมต่อถึงวันอาทิตย์ในการพานักท่องเที่ยวเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในพื้นที่หนองคาย เช่น วัดหินหมากเป้ง กราบรูปปั้นหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี , วัดพระธาตุบังพวน ชมสัตตมหาสถานที่สมบูรณ์ที่สุด รวมทั้งน้ำตกอีกหลายแห่งในต่างอำเภอ และชูจุดขายการท่องเที่ยวในประเทศลาวด้วย

โรงแรม-ที่พักในหนองคายใกล้เต็ม

ด้านที่พักผู้ประกอบการโรงแรม จ.หนองคาย โดย ณัชชา วงษ์หาบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและประชาสัมพันธ์โรงแรมไทย- ลาวริเวอร์ไซด์ อ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า โรงแรมไทย - ลาวริเวอร์ไซด์ มีห้องพักทั้งหมด 72 ห้อง ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจับจองเต็มหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 6-8 ตุลาคม เพื่อชมบั้งไฟพญานาค

โรงแรมขายแบบแพกเกจ อัตรา 2,500 บาท/2 วัน มีบริการอาหารเช้าและพาเที่ยวชมบั้งไฟพญานาค หลายคนอาจจะมองว่าทางโรงแรมขึ้นราคาที่พัก ก็มีการปรับขึ้นจริงแต่ทางโรงแรมก็ให้บริการเสริมด้วยการพานักท่องเที่ยวไปชมบั้งไฟพญานาค มีการจับจองที่นั่งให้ได้นั่งชมบั้งไฟติดริมฝั่งโขง ในอำเภอโพนพิสัย และกิ่งอำเภอรัตนวาปีอย่างสะดวกสบาย ก็เป็นการคิดราคาตามอัตราการให้บริการ ไม่อยากให้มองว่า โรงแรมที่พักฉวยโอกาสขึ้นราคาเพื่อหวังผลประโยชน์ในช่วงไฮซีซันของจังหวัด

อย่างไรก็ตามมองว่าปีนี้นักท่องเที่ยวจะลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เคยมาชมบั้งไฟพญานาคเมื่อปีที่ผ่านมา มีบางส่วนไม่เห็นลูกไฟก็ไปเล่าปากต่อปาก และไม่ชวนกันมาชมอีกอ้างเหตุผลว่าไม่เห็นลูกไฟ ที่พักแพง อาหารแพง

ส่วนผู้ที่เห็นลูกไฟก็จะไปบอกต่อเช่นกัน แต่ตัวเองเห็นลูกไฟแล้วก็ไม่มาอีก จะมีเป็นบางส่วนที่ต้องการมาชมอีก ประกอบกับการประชาสัมพันธ์งานของส่วนที่เกี่ยวข้องทั้ง ททท. เทศบาลเมืองหนองคาย ประชาสัมพันธ์จังหวัด ยังอ่อนด้านการประชาสัมพันธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยว ไม่คึกคักเหมือนช่วงปี 2546-2547 ซึ่งในช่วงนั้นมีการจองโรงแรมห้องพักข้ามปี ในขณะที่ปีนี้บางโรงแรมยังมีห้องว่าง

ด้านโรงแรมหนองคายแกรนด์ พนักงานฝ่ายขายของโรงแรมแจ้งว่า ขณะนี้มียอดจองโรงแรมในวันที่ 7 ตุลาคมเต็มแล้ว แต่วันที่ 6 และวันที่ 8 ยังมีห้องว่าง ซึ่งโรงแรมมีห้องพักจำนวน 125 ห้อง ราคาขายไม่ได้มีการปรับขึ้นราคา ยังคงขายราคาปกติ คือ ห้องแสตนดาร์ด ราคา 2,260 บาท/วัน ส่วนห้องเดอร์ลักซ์ ราคา 3,080 บาท /วัน รวมอาหารเช้า นักท่องเที่ยวที่จองส่วนใหญ่มาจากภาคกลาง และภาคเหนือ ส่วนภาคใต้มีน้อยมาก

ส่วนใหญ่จะมีการจองในลักษณะกรุ๊ปครอบครัว ส่วนกรุ๊ปทัวร์ใหญ่ ๆ หรือเป็นองค์กรนั้นมีจำนวนน้อย เทียบกับปีที่ผ่านมานับว่าปีนี้บรรยากาศการท่องเที่ยวเงียบเหงา กิจกรรมต่าง ๆ ไม่คึกคักเท่าที่ควร ซึ่งหากเป็นเช่นนี้อาจส่งผลกระทบในปีต่อไปอาจจะมีนักท่องเที่ยวลดน้อยลงกว่าเดิมอีก

เชื่อเงินสะพัดกว่า 500 ล้าน

นายประเสริฐ วิทยาภัทร์ ประธานหอการค้า จ.หนองคาย กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 4 - 6 แสนคน หลายคนเป็นห่วงว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลง แต่ความเป็นจริงก็มีลดน้อยลงบ้างแต่ก็ไม่มากนัก ยังคงทำให้บรรยากาศงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคไม่เหงาจนเกินไปนัก

ทั้งนี้ หลายฝ่ายโดยเฉพาะทางจังหวัดต้องช่วยกันให้ความสะดวก ความมั่นใจ และดึงจุดขายของจังหวัดให้นักท่องเที่ยวได้มั่นใจในการเดินทางมาชมบั้งไฟพญานาค ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ไม่ลดน้อยลง ขณะนี้หอการค้ามีการคาดการณ์เอาไว้ว่า ช่วงเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค จะมีเงินสะพัดในจังหวัดไม่ต่ำกว่า500 ล้านบาท

นอกเหนือ จากการชมบั้งไฟแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเที่ยวต่อในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ จับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อสินค้าในตลาดท่าเสด็จและอีกหลายแห่งในหนองคายได้อีกด้วย